txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# คาดปีนี้ Google จ่ายเงินให้ Apple สูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ แลกกับการเป็น default search
เป็นที่รู้กันมานานว่ากูเกิลได้จ่ายเงินให้แอปเปิล ด้วยจำนวนที่สูงในทุกปี เพื่อแลกกับการถูกกำหนดเป็นเสิร์ชค่าเริ่มต้นใน iPhone, iPad และ Mac แต่ไม่เคยมีตัวเลขออกมาเป็นทางการ อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์อยู่ทุกปี และปีนี้ก็คาดว่าอาจสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์ (2019 ประเมินไว้เกือบหมื่นล้าน)
Toni Sacconaghi นักวิเคราะห์จาก Bernstein ให้ข้อมูลว่าปี 2021 กูเกิลน่าจะจ่ายเงินให้แอปเปิลส่วนนี้ราว 15,000 ล้านดอลลาร์ และในปี 2022 ตัวเลขน่าจะอยู่ในช่วง 18,000-20,000 ล้านดอลลาร์ โดยข้อมูลนี้อ้างอิงจากรายได้ส่วน Services ของแอปเปิลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งไปสอดคล้องกับค่าใช้จ่ายสำหรับการเพิ่มทราฟิกให้เว็บกูเกิล (TAC - Traffic Acquisition Costs)
Sacconaghi คาดเหตุผลที่กูเกิลจ่ายเงินให้แอปเปิลสูงขึ้นทุกปีนั้น เพื่อให้ตัวเลขนี้ไมโครซอฟท์เลือกไม่จ่ายเงินสู้ราคา
ที่มา: 9to5Mac |
# Dell Technologies ไตรมาสล่าสุด ยอดขายพีซีลูกค้าองค์กรเติบโตสูงถึง 32%
Dell Technologies รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม โดยรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 26,122 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 880 ล้านดอลลาร์
Jeff Clarke ซีโอโอร่วมของ Dell Technologies กล่าวว่าผลการดำเนินงานที่ออกมา สะท้อนจุดเด่นเฉพาะตัวของ Dell ที่มีนวัตกรรมและช่วยเหลือลูกค้า ให้เติบโตพร้อมกับสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างแบบมัลติคลาวด์
รายได้จากกลุ่ม Client Solutions เพิ่มขึ้น 27% เป็น 14,263 ล้านดอลลาร์ เฉพาะลูกค้าองค์กรรายได้เพิ่มขึ้น 32% เป็น 10,573 ล้านดอลลาร์ จากยอดขายของ Latitude และ Precision ซึ่ง Jeff Clarke อธิบายเพิ่มเติมว่าเป็นผลจากเทรนด์ do-anything-from-anywhere ทำให้ยอดขายเพิ่มมากจากลูกค้าองค์กร
ธุรกิจกลุ่ม Infrastructure Solutions รายได้เพิ่มขึ้น 3% เป็น 8,432 ล้านดอลลาร์ และ VMware รายได้เพิ่มขึ้น 8%
ที่มา: Dell Technologies และ ZDNet |
# new normal ที่แท้ รถไฟชินคันเซ็นเริ่มเปลี่ยนห้องสูบบุหรี่เป็นห้องใช้ประชุมออนไลน์
ญี่ปุ่นปรับตัวเข้าสู new normal แล้ว โดย Central Japan Railway หน่วยงานดูแลรถไฟของญี่ปุ่น ประกาศเริ่มเปลี่ยนบูธสูบบุหรี่บนรถไฟชินคันเซ็นให้เป็นห้องสำหรับประชุมออนไลน์ หรือ Zooming cars ในรถไฟบางสาย
ส่วนที่นั่งอื่นๆ เริ่มมีการปรับให้เหมาะสำหรับการทำงานมากขึ้น เช่น เพิ่มความเร็ว WiFi มีเมาส์ให้ยืม มีหมอนรองคอมพิวเตอร์ให้ยืม มีช่องเสียบพลังงานตรงที่นั่ง มีโต๊ะสำหรับวางโน้ตบุ๊ก เป็นต้น
จากเว็บไซต์ทางการของ Central Japan Railway ระบุว่าอนาคตจะเพิ่มบูธห้องเงียบ หรือ Express Work Booth เพื่อประชุมได้โดยไม่รบกวนผู้โดยสารคนอื่น
ภาพโดย Fikri Rasyid
ที่มา - The Register |
# Wing ธุรกิจโดรนส่งของของ Alphabet มียอดส่งหนึ่งแสนครั้งภายในเวลาสองปีกว่า เกินครึ่งอยู่ในเมืองโลแกน ประเทศออสเตรเลีย
Wing ธุรกิจส่งของด้วยโดรนของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google มียอดส่งของราวหนึ่งแสนครั้งแล้ว หลังเปิดให้บริการครั้งแรกในเมืองแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนเมษายน ปี 2019
ยอดส่งเกินครึ่งเกิดในเมืองโลแกน เมืองเล็กๆ ด้านใต้ของบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ที่มีประชากรราว 300,000 คน ของที่ส่งมีทั้งกาแฟกว่า 10,000 แก้ว ขนมกว่า 1,700 ชุด ไก่อบกว่า 1,200 ตัว และอื่นๆ
Wing เปิดให้บริการในโลแกน เมื่อเดือนกันยายน ปี 2019 เป็นเมืองที่ 3 รองจาก แคนเบอร์รา และเฮลซิงกิประเทศฟินแลนด์ หลังจากนั้น Wing จึงเปิดให้บริการเพิ่มในรัฐเวอร์จิเนียประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงเดือนตุลาคม 2019
Wing เปิดเผยว่ายอดจัดส่งในโลแกน พุ่งสูงถึง 50,000 ครั้งในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ปีนี้บริษัทขยายขอบเขตการส่งในเมืองเพิ่มอีก 19 ย่าน และในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม มียอดส่งของไปแล้วกว่า 4,500 ครั้ง ทำให้โลแกนแทบจะเรียกว่าเป็นเมืองหลวงของการส่งของด้วยโดรนในปัจจุบัน
Wing ยังมีโครงการขยายเมืองให้บริการเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้ และจะแถลงข้อมูลเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ที่มา - Wing |
# สหรัฐเอาผิดผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ ปลอมแปลงรายได้ หลอกระดมทุนจนมูลค่าบริษัทเป็นยูนิคอร์น
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐและสำนักงาน ก.ล.ต. ในสหรัฐตั้งข้อหาเอาผิดอดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท HeadSpin สตาร์ทอัพพัฒนาอุปกรณ์พกพา ด้วยข้อหาให้ข้อมูลหลอกลวงนักลงทุน ปลอมแปลงตัวเลขรายได้
ในเอกสารฟ้องระบุว่า Manish Lachwani ผู้ร่วมก่อตั้ง HeadSpin ระดมเงินทุนเพิ่มด้วยการให้ข้อมูลเกินจริงเรื่องสถานะการเงินของบริษัทว่าบรรลุข้อตกลงกับสตาร์ทอัพรายใหญ่ในซิลิคอนวัลเล่ย์หลายราย จนทำให้นักลงทุนหลงเชื่อและลงทุนในบริษัทจนมูลค่าเกินพันล้านดอลลาร์ เข้าสู่สถานะยูนิคอร์น
ช่วงปี 2018-2020 ทางบริษัทพยายามปลอมแปลงบันทึกทางการเงินและตัวเลขการขายของบริษัท และอ้างตัวเลขสูงเกินจริงเพื่อให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลานั้น ทำให้ Lachwani มีรายได้ 2.5 ล้านดอลลาร์จากการขายหุ้นของเขาเอง
การตรวจสอบพบว่า รายได้ HeadSpin ในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 อยู่ที่ประมาณ 26.3 ล้านเหรียญเท่านั้น และขาดทุน 19.5 ล้านเหรียญ แต่บริษัทรายงานตัวเลขรายได้ 95.3 ล้านเหรียญ กำไร 3.7 ล้านเหรียญ
ภาพจาก กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ
ที่มา - The Register |
# [ลือ] Western Digital กำลังเจรจาควบกิจการ Kioxia (Toshiba Memory เดิม)
Wall Street Journal รายงานข่าววงในว่า Western Digital กำลังเจรจาเพื่อควบรวมกับ Kioxia บริษัทหน่วยความจำของญี่ปุ่นที่รีแบรนด์มาจาก Toshiba Memory เดิม ปัจจุบัน Toshiba ถือหุ้นราว 40% ส่วนที่เหลือเป็นของบริษัทลงทุน Bain Capital
หากการเจรจาสำเร็จ บริษัทใหม่จะมีมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดย David Goeckeler ซีอีโอของ Western Digital จะนั่งเป็นซีอีโอของบริษัทใหม่
ผู้นำตลาดหน่วยความจำในปัจจุบันคือซัมซุง มีส่วนแบ่งตลาด NAND ประมาณ 1/3 ส่วน Kioxia มี 19% และ Western Digital มี 15% ซึ่งถ้าสองบริษัทนี้ควบรวมกันได้ก็จะมีส่วนแบ่งตลาดแซงหน้าซัมซุง
ธุรกิจหน่วยความจำในช่วงหลังมีการซื้อกิจการระหว่างกันมากขึ้น เช่น ปีที่แล้ว SK Hynix ก็ประกาศซื้อธุรกิจ NAND ของอินเทล ด้วยมูลค่า 9 พันล้านดอลลาร์
ที่มา - Wall Street Journal, Reuters |
# นักทำเกมเจ๊ง หลัง Steam ขอคืนเงินได้ถ้าเล่นไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่เกมเล่นจบได้ในชั่วโมงครึ่ง
Emika Games ผู้สร้างเกมสยองขวัญ Summer of‘58 ประกาศหยุดทำเกมแบบไม่มีกำหนด หลังมีผู้ขอเงินคืนเป็นจำนวนมาก แม้ตัวเกมเองจะได้คะแนนรีวิวดี แต่เพราะเกมเล่นจบได้ภายในเวลาราวชั่วโมงครึ่ง และนโยบายคืนเงินของ Steam อนุญาตให้ขอเงินคืนได้ถ้าเล่นเกมนั้นไม่ถึง 2 ชั่วโมง
Emika Games ที่สร้าง Summer of’58 ด้วยตัวคนเดียว โพสต์ทวิตเตอร์ ระบุว่าการขาดเงินทุนที่จะนำไปใช้สร้างเกมต่อ อาจจะทำให้เขาต้องไปทำอย่างอื่นแทน และเขาจะขอออกจากวงการพัฒนาเกม ไปรวบรวมความคิดต่ออีกสักหน่อย และบอกว่าเกมต่อไปที่เขามีแผนจะสร้างอย่างเกม From Day to Day จะไม่ได้ออกวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
หากมีกรณีแบบนี้มากขึ้น คงไม่เป็นผลดีกับผู้สร้างเกมขนาดเล็กบน Steam และ Steam อาจจะต้องปรับมาตรการระยะเวลาการขอเงินคืน ตามขนาดและราคาของเกม หรืออาจจะปรับกำหนดเวลาใหม่สำหรับทุกเกมในอนาคต
ภาพในเกม Summer of’58
ที่มา - Kotaku |
# ผู้ใช้ YouTube Premium บน iOS เล่นวิดีโอแบบจอซ้อนจอหรือ Picture-in-Picture ได้แล้ว
การเล่นวิดีโอแบบ Picture-in-Picture คือการที่เราดู YouTube ในจอเล็กในขณะที่เราเลื่อนใช้งานแอปอื่นๆ ไปด้วยได้ ซึ่งผู้ใช้งานพรีเมียมฝั่งแอนดรอยด์ใช้ได้มาสักระยะแล้ว แต่ iOS กำลังจะได้ใช้ ทาง YouTube ระบุกับ TechCrunch ว่าเริ่มจากฝั่งผู้ใช้งานพรีเมียมในสหรัฐฯก่อน 31 ต.ค. นี้ แต่ผู้ใช้งานบางส่วนในไทยก็สามารถใช้งานได้แล้ว
ผู้ใช้งานบางส่วนพบว่า หากใช้งานไม่ได้ ให้ติดตั้ง YouTube ใหม่อีกครั้ง จึงจะใช้งานได้ วิธีการคือ เข้าไปที่เว็บไซต์ YouTube New เลื่อนลงมาจนเจอเมนู Picture-in-picture on iOS > กด Try it out
ที่มา - TechCrunch |
# ศาลสูงจีนระบุการทำงานแบบ 996 ผิดกฎหมาย ให้พนักงานทำงานจนตายต้องชดใช้
ศาลสูงจีน (Supreme People's Court) ออกบทความร่วมกับกระทรวงแรงงานและประกันสังคมจีน ชี้ว่าแนวทางการทำงานอย่างหนักของบริษัทจีนหลายแห่ง หรือที่เรียกว่าการทำงานแบบ 996 (เริ่ม 9 โมงเช้า เลิก 3 ทุ่ม 6 วันต่อสัปดาห์) นั้นผิดกฎหมาย พร้อมกับยกตัวอย่างคดีที่ศาลเคยตัดสินมาแล้ว 10 คดี
คดีที่ระบุมา เช่น การบังคับทำงานล่วงเวลาโดยไม่จ่ายค่าล่วงเวลา, คดีพนักงานทำงานหนักจนเป็นลมและเสียชีวิตในที่สุด ล้วนเป็นคดีที่นายจ้างต้องรับผิดชอบจากการใช้งานพนักงานอย่างหนัก
แม้บทความจะไม่ได้ระบุไปถึงบริษัทเทคโนโลยีโดยตรง แต่ในช่วงหลังแนวทางการทำงานแบบ 996 นี้ก็นิยมในหมู่บริษัทเทคโนโลยีจีนอย่างมาก กลุ่มโปรแกรมเมอร์จีนเคยรวบรวมรายชื่อบริษัทที่มีแนวทางทำงานแบบ 996 ก็พบว่าเป็นแนวทางที่ใช้กันกว้างขวาง ตัวแจ็ก หม่า เองถึงกับเคยแถลงผ่านช่องทางทางการของ Alibaba สนับสนุนแนวทางนี้
บทความจากศาลสูงจีนครั้งนี้นับเป็นการแสดงท่าทีสอดรับกับพรรคคอมมิวนิสต์ที่ออกบทความวิจารณ์การทำงานแบบ 996 มาก่อนแล้ว
ที่มา - Strait Times
ภาพจาก enriquelopezgarre from Pixabay |
# Azure Cosmos DB มีช่องโหว่แฮกเกอร์ยึดฐานข้อมูลได้ ไมโครซอฟท์ระบุยังไม่พบคนร้ายใช้ช่องโหว่
ทีมวิจัยจาก Wiz รายงานถึงช่องโหว่ใน Azure Cosmos DB บริการฐานข้อมูล NoSQL ของ Microsoft Azure ทำให้คนร้ายสามารถขโมยกุญแจ API เพื่อยึดฐานข้อมูลได้
ช่องโหว่นี้อาศัยฟีเจอร์ Jupyter Notebook ของ Cosmos DB โดยแฮกเกอร์สามารถเข้าไปอ่านข้อมูลใน Jupyter Notebook ของผู้ใช้รายอื่น ทำให้สามารถดึง Primary Key สำหรับอ่านเขียนข้อมูลใน Cosmos DB ออกมาได้
ไมโครซอฟท์แก้ไขช่องโหว่นี้หลังได้รับแจ้ง 48 ชั่วโมง และระบุว่าตรวจสอบไม่พบความพยายามโจมตีแบบนี้กับลูกค้ารายอื่น แต่ก็จะแจ้งลูกค้าที่ได้รับผลกระทบต่อไป โดยผู้ใช้อาจจะเลือกสร้าง Primary Key ใหม่เพื่อความปลอดภัย
ไมโครซอฟท์ให้รางวัลรายงานบั๊กสำหรับช่องโหว่นี้ 40,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท
ที่มา - Wiz: ChaosDB |
# Blizzard ยอมเปลี่ยนชื่อตัวละคร McCree ใน Overwatch แล้ว แต่ยังไม่บอกชื่อใหม่
ในเกม Overwatch มีตัวละคร McCree ที่ตั้งชื่อตาม Jesse McCree พนักงาน Blizzard แต่หลังจากเขามีประเด็นฉาวจากการล่วงละเมิดทางเพศพนักงานหญิงในงานปาร์ตี้ จนถูกไล่ออก ทำให้นักพากย์หลายคนของงานแข่ง Overwatch เลิกเรียกชื่อตัวละครว่า McCree แต่เรียกว่า “ตัวละครคาวบอย” เฉยๆ และแฟนๆ จำนวนมากก็เรียกร้องให้ Blizzard เปลี่ยนชื่อตัวละครเช่นกัน
วันนี้ Blizzard ยอมทำตามข้อเรียกร้อง โดยเตรียมเปลี่ยนชื่อตัวละคร McCree พร้อมยืนยันจุดยืนว่า Overwatch สร้างขึ้นบนความเชื่อในเรื่องความเท่าเทียมมาโดยตลอด
ก่อนหน้านี้ Overwatch กำลังจะมีอัพเดตเนื้อเรื่องใหม่ที่จะมี McCree เป็นตัวหลักในเดือนกันยายน ทีมงานระบุว่าเหตุผลเรื่องการเปลี่ยนชื่อจะถูกใส่ไปในเนื้อเรื่องส่วนนี้ และอัพเดตเลื่อนจากเดือนกันยายนไปเป็นช่วงหลังภายในปีนี้แทน พร้อมบอกว่าหลังจากนี้บริษัทจะไม่ตั้งชื่อตัวละครจากพนักงานอีก เพื่อสร้างความแตกต่างจากโลกความเป็นจริง และยืนยันว่าเกมนี้ทำงานกันเป็นทีม
ผู้เล่นคงต้องรอดูต่อไปว่า Blizzard จะเปลี่ยนชื่อ McCree เป็นอะไร และให้เหตุผลว่าอย่างไร ในอัพเดตเนื้อเรื่องของ McCree ครั้งต่อไป
ที่มา - Blizzard |
# โอกาสคนสายเทคและไอที! ร่วมงานกับ ATCT ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ของ Accenture บริษัทที่ปรึกษาไอทีระดับโลก
หลายคนอาจรู้จัก Accenture (เอคเซนเชอร์) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีระดับโลก ด้านดิจิทัล การบริหารระบบคลาวด์ และการวางระบบรักษาความปลอดภัย แต่รู้หรือไม่ว่า Accenture เปิดสำนักงานในไทยมาตั้งแต่พ.ศ. 2521 หรือมากกว่า 40 ปีแล้ว ถือเป็นบริษัทแรกๆ ในประเทศที่ให้บริการที่ปรึกษา การจัดการและเทคโนโลยีให้กับลูกค้าหลากหลายวงการ โดยให้บริการลูกค้าใน 5 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ เทคโนโลยีการสื่อสารและสื่อ, การเงินการธนาคาร, โรงพยาบาลและภาครัฐ, ผลิตภัณฑ์และการค้า, พลังงานและทรัพยากร ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 6,000 องค์กรใน 120 ประเทศทั่วโลก ดูแลจัดการตั้งแต่ขั้นการวางแผนกลยุทธ์ไปจนถึงระดับปฏิบัติการ
รู้จัก ATCT ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงของ Accenture ในไทย
จากรากฐานกว่า 40 ปีในประเทศไทยของ Accenture หนึ่งในผู้นำด้านที่ปรึกษาทางเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำ ที่ช่วยให้ลูกค้าองค์กรต่าง ๆ ในไทยสามารถสร้างมูลค่าและนวัตกรรมในตลาดใหม่ได้เร็วกว่าคู่แข่ง จึงเตรียมเปิดตัว Advanced Technology Center Thailand (ATCT) หรือศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงของ Accenture เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยใช้ความแข็งแกร่งของเครือข่ายความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีระดับโลกร่วมกับศูนย์ Advanced Technology Center ในประเทศอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นในอังกฤษ อินเดีย โปแลนด์ ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เป็นต้น
ศูนย์ ATC ไม่ได้ให้คำปรึกษาแค่เรื่องการใช้เทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสามารถพัฒนาเทคโนโลยีให้ตอบโจทย์เฉพาะของลูกค้าได้ด้วย ตัวอย่างเช่น Cloud, Mobile Solutions, Analytics และ Security แพลตฟอร์มเร่งกระบวนการ digital transformation โดยมีศูนย์เดลิเวอรีเซนเตอร์รองรับลูกค้าในกว่า120 ประเทศทั่วโลก ศูนย์ ATCT ในประเทศไทย จึงมีระบบการทำงานที่คล่องตัวและประสานกับเครือข่ายระดับสากลตลอดเวลา
องค์กรทางด้านเทคโนโลยี ทีมงานแกร่ง
การที่ทั้งธุรกิจและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา วัฒนธรรมองค์กรและสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ ATCT จึงเป็นเช่นนั้นด้วย นอกจากการทำงานเป็นทีม มีทีมงานคุณภาพ มีวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ ATCT ยังเปิดโอกาสการเติบโตในสายอาชีพ ช่วยให้สามารถต่อยอดศักยภาพในระดับที่สูงขึ้น การทำงานที่ ATCT จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่กระตือรือร้น แรงผลักดันด้วยความชอบหรือความสนใจส่วนตัวและความพร้อมที่จะทำงานที่มีโจทย์ความท้าทายหลากหลาย เน้นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเป็นสำคัญ
คุณนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ Accenture ประเทศไทย ให้มุมมองต่อเรื่องการพัฒนาคนเอาไว้ว่า “คนคือหัวใจสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น เราจึงให้ความสาคัญกับการพัฒนาทักษะ ผ่านการอบรมต่าง ๆ และเปิดโอกาสการเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัดจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ทั่วโลกอยู่เสมอ
ด้วยทีมงานที่แข็งแกร่งและบุคลากรที่ดีที่สุด เราพร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจให้แก่ ลูกค้าเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ”
มีอะไรน่าสนใจที่ ATCT
ชีวิตแห่งการทำงานนั้น ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ร่วมงานกับคนที่มีความสามารถ คนที่มองจุดหมายเดียวกัน และเปิดกว้างยอมรับกับทุกความคิดเห็น ซึ่งที่ ATCT มีให้ครบสำหรับคนที่มองหาองค์กรที่พร้อมสำหรับโลกในยุคปัจจุบัน โดยมีแม่เหล็กทั้ง 3 ด้าน คือ โอกาสการเติบโตในสายอาชีพ, โอกาสพัฒนาตนเอง และผลตอบแทน-สวัสดิการที่ดี
ในด้านโอกาสการเติบโตในสายอาชีพ ATCT วัดผลการทำงานตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ตนเองตั้งไว้ มีแผนการเพื่อพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ แยกเฉพาะตามพนักงานแต่ละคน เปิดโอกาสให้พนักงานย้ายสายงานได้ ถ้ามีความสนใจและความตั้งใจที่แน่วแน่ บริษัทก็เปิดรับการย้ายงานภายในองค์กรเสมอ
ด้านการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง เป็นสิ่งที่ Accenture ทั่วโลกให้ความสำคัญ และลงทุนด้านอบรมและพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกคนไปแล้วกว่า 27,000 ล้านบาท พนักงานจะได้พัฒนาทักษะของตัวเองอย่างเข้มข้น มีคอร์สเรียนที่มีความยาวรวมกันมากกว่า 15 ล้านชั่วโมงให้เลือก มีการจัดอบรมและสัมมนาทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ทุกตำแหน่งงาน
ในแง่ผลตอบแทนและสวัสดิการ เรียกได้ว่าจัดเต็ม นอกเหนือจากสวัสดิการพื้นฐานอย่างประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังมี flexible benefits หรือเงินสวัสดิการที่บริษัทมอบให้เพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัวตามความต้องการของแต่ละคน, โบนัสตามผลงาน, โบนัสสำหรับผู้มีทักษะเฉพาะทาง (hot skill bonus) และสิทธิในการถือหุ้นบริษัท เป็นต้น
โอกาสดีคนรุ่นใหม่สายเทคโนโลยี ได้ร่วมงานกับบริษัทที่ปรึกษาไอทีระดับโลก
โอกาสเปิดแล้วสำหรับคนรุ่นใหม่สายเทคโนโลยี เพราะ ATCT กำลังเปิดรับทีมงานจำนวนมาก เข้ามาร่วมทีม เพิ่มศักยภาพในตัวคุณ พร้อมคิดค้นตอบโจทย์อันท้าทาย พลาดไม่ได้ หากคุณกำลังมองหางานสายเทคโนโลยีในบริษัทข้ามชาติระดับโลก
หากคุณเป็นคนสายเทค และมีทักษะด้านพัฒนาแอปพลิเคชันทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์ (Mobile Application Development) นักพัฒนา Back End – Front End และ Cloud Infrastructure Engineer อย่ารอช้า ส่งประวัติการศึกษาและประสบการณ์ต่าง ๆ เข้ามาสมัครเข้ามาได้เลย คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่ |
# ตั๋วเข้าห้อง Spaces มาแล้ว ทวิตเตอร์ให้โฮสต์ขายบัตร Ticketed Spaces เริ่ม iOS ก่อน
ทวิตเตอร์เปิดตัวฟีเจอร์ให้โฮสต์ขายตั๋วเพื่อเข้าห้อง Spaces แบบเอ็กซ์คลูซีฟ หรือ Ticketed Spaces เป็นการหารายได้เพิ่มเติมมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ล่าสุด เริ่มเปิดใช้งานในฝั่ง iOS แล้ว
โฮสต์ที่เปิดขายตั๋วได้ ต้องมีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป, มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องสร้างห้อง Spaces มาแล้ว 3 ครั้งในรอบ 30 วันที่ผ่านมา ยังไม่ชัดเจนว่าตอนนี้มีโฮสต์กี่รายที่เปิดขายตั๋วได้ แต่ผู้ใช้งานฝั่ง iOS สามารถซื้อตั๋วได้แล้ว
อีกประเด็นที่ต้องติดตามคือ ทวิตเตอร์บอกก่อนหน้านี้ว่าจะหักรายได้ครีเอเตอร์ 3% แต่ถ้าเป็นผู้ใช้งานฝั่ง iOS อาจต้องถูกหักส่วนแบ่งเพิ่มจากนโยบายร้านค้าแอปของแอปเปิล
Clubhouse และ Instagram มีฟังก์ชั่นให้จ่ายทิปผ่านไลฟ์พูดคุย การเปิดขายตั๋วของ Spaces จึงมีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ
ที่มา - TechCrunch |
# แอปเปิลยอมความนักพัฒนา เปิดให้สื่อสารวิธีจ่ายเงินนอก App Store, จ่ายชดเชย 100 ล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมาเราเห็นแอปเปิลมีนโยบายแข็งกร้าวกับ App Store ของตัวเอง ที่ทั้งบังคับหักส่วนแบ่ง 30% และห้ามแอปแสดงข้อมูลของวิธีการจ่ายเงินช่องทางอื่น ทำให้มีปัญหากับบริษัทใหญ่หลายๆ ราย เช่น Spotify, Netflix, Epic, Basecamp และเป็นเหตุให้มีคดีฟ้องร้องหลายคดี รวมถึงการสอบสวนจากหน่วยงานภาครัฐทั่วโลก (เช่น EU)
ล่าสุด แอปเปิลประกาศยอมความกับคดีฟ้องแบบกลุ่มในสหรัฐที่นำโดย Donald Cameron ผู้พัฒนาแอพ Pure Sweat Basketball โดยแอปเปิลยินยอมให้นักพัฒนาแอพสามารถสื่อสารไปยังลูกค้า (เช่น ผ่านอีเมล) ถึงวิธีการจ่ายเงินช่องทางอื่นนอกเหนือจาก App Store ได้แล้ว
เงื่อนไขสำคัญอีกข้อคือ แอปเปิลจะตั้งกองทุนสนับสนุนนักพัฒนารายเล็ก (รายได้น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์) มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ จ่ายเงินย้อนหลังให้นักพัฒนาทุกรายที่มีบัญชีระหว่างปี 2015-2021 แต่ครอบคลุมเฉพาะนักพัฒนาในสหรัฐ (พูดง่ายๆ คือ จ่ายเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีฟ้องแบบกลุ่ม นักพัฒนาที่เข้าข่ายประมาณ 67,000 ราย ก็หารแบ่งกันไป)
การยอมความรอบนี้มีข้อตกลงอื่นๆ คือ
นักพัฒนาสามารถตั้งระดับราคา (price point) บน App Store ได้ละเอียดขึ้นเป็น 500 ระดับ
แอปเปิลจะคงนโยบายลดค่าธรรมเนียมให้นักพัฒนารายเล็ก (รายได้น้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี) เหลือ 15% ไปอีกอย่างน้อย 3 ปี
แอปเปิลจะออกรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการรีวิวแอพ เปิดข้อมูลว่าปฏิเสธแอพไปแค่ไหน ด้วยเหตุผลใดบ้าง
ที่มา - Apple, The Verge |
# แอปเปิลลดค่าคอมมิชชั่นจ่ายในแอปให้เว็บข่าว 15% แต่ต้องเข้าร่วม Apple News
แอปเปิลเปิดแคมเปญ News Partner Program คือโครงการให้เว็บข่าว สำนักข่าวเข้าร่วมเพื่อสร้างเนื้อหาบน Apple News ให้คนอ่านผ่าน Apple News Format โดยแอปเปิลระบุว่าจะลดค่าคอมมิชชันการจ่ายในแอปให้ผู้ที่เข้าร่วม 15%
ปกติแล้ว ค่าคอมมิชชันพื้นฐานของแอปเปิลอยู่ที่ 30% ในปีแรก และลดเหลือ 15% ในปีที่สอง แต่ในแคมเปญนี้ลดให้ 15% ตั้งแต่แรกที่เข้าร่วมเลย
เงื่อนไขในการเข้าร่วมคือ เว็บข่าวก่อตั้งใน ออสเตรเลีย แคนาดา สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และเสนอข่าวในฟอร์แมต Apple News Format หรือ JavaScript Object Notation (JSON) ใช้ในการสร้างบทความที่เหมาะกับ Mac และ iPhone หรือถ้าไม่ใช้ก็ต้องแชร์เนื้อหาผ่านฟีด RSS, สำนักข่าวมีแอปเปิดใช้งานบน App Store และใช้งานระบบจ่ายในแอปของแอปเปิล (in-app purchase), ยอมรับข้อตกลงของ Apple Developer Program License Agreement
ในช่วงนี้แอปเปิลกำลังโดนเพ่งเล็งกรณีบังคับเก็บค่าคอมมิชชันแอปภายนอก สหรัฐฯและเกาหลีเริ่มเสนอกฎหมายเพื่อควบคุมแพลตฟอร์มแล้ว และก่อนหน้านี้มีประเด็นด้วยว่า The New York Times ออกจากโครงการ News Partner Program เพราะตัวแพลตฟอร์มไม่เอื้อให้สำนักข่าวมี engagement กับคนอ่านได้โดยตรง
ที่มา - TechCrunch, แอปเปิล |
# รวมข่าวรูปหลุดสินค้า Apple: ใช้ชื่อ iPhone 13 และ Apple Watch หน้าปัด 45 มม.
ข่าวนี้รวมรูปหลุดสินค้าใหม่แอปเปิลที่มีรายงานออกมา
รูปแรกมาจากบัญชีผู้ใช้งาน Weibo และนำมาแชร์โดยบัญชีทวิตเตอร์ DuanRui ระบุว่าเป็นแพ็คเกจของ iPhone รุ่นใหม่ ระบุชื่อว่า iPhone 13 ทั้งนี้ในปีที่แล้ว ช่วงระยะเวลาเดียวกันก่อนงานเปิดตัว iPhone 12 ก็มีภาพหลุดแพ็คเกจและระบุชื่อ iPhone 12 เช่นกัน
ส่วนอีกรูปก็มาจาก DuanRui โดยอ้างว่าได้มาจาก Weibo เหมือนกัน เป็นภาพซูมสายของ Apple Watch เขียนข้อความว่า 45MM ซึ่งคือขนาดหน้าปัดของ Apple Watch คาดว่าเป็น Series 7 ที่จะมีขนาดหน้าปัดรุ่นจอใหญ่เพิ่มขึ้นจาก 44 มม. เป็น 45 มม. โดยก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า Apple Watch จะมีหน้าปัดใหญ่ขึ้น 1 มม.
คาดว่าแอปเปิลจะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงเดือนกันยายน ถึงตอนนั้นก็จะได้ทราบรายละเอียดสินค้าใหม่ทั้งหมด
ที่มา: MacRumors [1], [2] |
# มุ่งสู่สตรีมมิ่งเกม Netflix เปิดทดสอบเล่นเกมบนมือถือ แต่ยังต้องโหลดเกมจาก Google Play
ทิศทางใหม่ของ Netflix คือรุกตลาดสตรีมมิ่งเกมในแบบ Apple Arcade ล่าสุด Netflix เดินหน้าทดสอบการเล่นเกมบนแอปมือถือแอนดรอยด์แล้ว เริ่มที่สองเกมคือ Stranger Things: 1984 และ Stranger Things 3 เกมต่อยอดจากซีรีส์ดังตลอดกาลของ Netflix โดยเริ่มทดสอบที่ประเทศโปแลนด์ก่อน
ผู้เล่นจะมองเห็นเกมผ่านเมนูเกม แต่เมื่อกดเข้าไปแล้ว ระบบก็จะให้ดาวน์โหลดเกมจาก Google Play Store อยู่ดี และต้องเป็นสมาชิกผู้ใช้งานของ Netflix ถึงจะเข้าเล่นผ่านแอป Netflix ได้ ส่วนคนที่โหลดเล่นจากร้านค้าแอปมาก่อนหน้านี้ไม่ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าเป็นผู้เล่นรายใหม่ จะต้องโหลดเล่นไม่ได้แล้ว ยกเว้นจะโหลดผ่าน Netflix เท่านั้น
สำหรับเกม Stranger Things: 1984 นั้น Netflix ได้พัฒนาเกมร่วมกับสตูดิโอ BonusXP เนื้อหาเกมจะวนเวียนอยู่ที่เรื่องราวของซีรีส์ในซีซั่น 1, 2 และ Stranger Things 3 เป็นเรื่องราวของซีซั่น 3
ที่มา - TechCrunch |
# Apple ออกอัพเดตเฟิร์มแวร์ AirTag แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอกว่าแก้ไขอะไร
แอปเปิลออกอัพเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ AirTag อุปกรณ์ติดตามสิ่งของ โดยเฟิร์มแวร์ล่าสุดมีเลขเวอร์ชัน 1.0.291 เลขบิลด์ 1A291a (เดิม 1A287b)
ในอัพเดตนี้แอปเปิลไม่ได้บอกว่ามีการเพิ่มฟีเจอร์ หรือแก้ไขอะไรบ้าง แตกต่างจากเฟิร์มแวร์ที่ออกมาเมื่อเดือนมิถุนายน ซึ่งระบุว่าป้องกันการนำไปใช้สะกดรอย
เฟิร์มแวร์ของ AirTag เป็นการอัพเดตผ่าน OTA อัตโนมัติ เมื่ออุปกรณ์เชื่อมต่อกับ iPhone ไม่สามารถสั่งให้อัพเดตได้เอง หากต้องการให้เฟิร์มแวร์อัพเดตเป็นเวอร์ชันใหม่นี้ จึงควรนำ AirTag มาไว้ในรัศมีของ iPhone
ที่มา: MacRumors |
# HP ไตรมาสล่าสุด ธุรกิจ PC คงที่ Printer โต 24%
HP รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2021 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม มีรายได้รวมตามบัญชี GAAP เพิ่มขึ้น 7.0% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 15,289 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 1,108 ล้านดอลลาร์
Enrique Lores ซีอีโอ HP กล่าวว่าโลกกำลังปรับสู่การทำงานแบบไฮบริด ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมและการเติบโตของตลาดที่มากขึ้นสำหรับ HP ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมสนับสนุน
รายได้จากกลุ่มธุรกิจ Personal Systems 10,406 ล้านดอลลาร์ คงที่จากปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากลูกค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น 3% และลูกค้าองค์กรลดลง 1% จำนวนโน้ตบุ๊คที่ขายไปเพิ่มขึ้น 2% เดสก์ท็อปลดลง 7%
กลุ่มธุรกิจ Printing รายได้รวม 4,882 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 24% จำนวนฮาร์ดแวร์ส่งมอบลดลง 4% โดยเป็นลูกค้าทั่วไปลดลง 8% และลูกค้าองค์กรเพิ่มขึ้น 29%
ที่มา: HP |
# VMware ไตรมาสล่าสุด รายได้จาก Subscription และ SaaS โต 23% ตามกลยุทธ์ Multi-Cloud
VMware รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2022 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 3,138 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 411 ล้านดอลลาร์
รายได้เฉพาะส่วนที่เป็น subscription, SaaS และค่าไลเซนส์เพิ่มขึ้น 12% เป็น 1,514 ล้านดอลลาร์ หากดูเฉพาะ subscription และ SaaS เพิ่มขึ้น 23% ส่วนตัวเลขรายได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี หรือ ARR เพิ่มขึ้นเป็น 3.15 พันล้านดอลลาร์
Raghu Raghuram ซีอีโอคนใหม่ VMware ที่มาแทน Pat Gelsinger กล่าวว่าตอนนี้ลูกค้าต่างปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จาก Cloud First มาเป็น Cloud Smart นั่นคือการเลือกใช้คลาวด์ที่เหมาะสมกับแต่ละเวิร์กโหลด จึงมีสภาพแวดล้อมเป็นมัลติคลาวด์ ซึ่ง VMware ก็เป็นผู้ส่งมอบแพลตฟอร์มมัลติคลาวด์รองรับทุกแอพพลิเคชัน
VMware ยังอยู่ในขั้นตอนแยกบริษัทออกจาก Dell Technologies ที่ประกาศเมื่อต้นปี โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี
ที่มา: Vmware (pdf) |
# ชิปไม่หายแค่แพงขึ้น TSMC ประกาศขึ้นราคาชิป 7nm รวดเดียว 20%
หนังสือพิมพ์ไต้หวัน Liberty Times ระบุว่า TSMC เริ่มส่งประกาศแจ้งลูกค้าว่าจะขึ้นราคาค่าจ้างผลิตชิป 7nm และสูงกว่านั้นรวดเดียว 20% ส่วนค่าจ้างผลิตชิปเทคโนโลยีชั้นสูงที่ละเอียดกว่า 7nm จะขึ้นราคา 8%
การขึ้นราคาครั้งนี้มีผลกับคำสั่งซื้อใหม่เท่านั้น โดยทั่วไปแล้วการสั่งผลิตชิปมักสั่งกันล่วงหน้าหลายเดือนหรือนับปี
ข้อมูลจาก Liberty Times ไม่ละเอียดนัก ว่าสายการผลิตใดขึ้นราคาเท่าใด โดยก่อนหน้านี้ DigiTimes รายงานว่ากระบวนการผลิตแบบ 16nm หรือต่ำกว่าจะขึ้นราคา 10% ในปี 2022
ต้องดูว่าการขึ้นราคาค่าจ้างผลิตจะมีผลต่อราคาสินค้าสุดท้ายมากน้อยเพียงใด เพราะผู้ว่าจ้าง TSMC เช่น MediaTek, Intel, หรือ NVIDIA อาจจะยอมลดกำไรตัวเองลง
ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่ดีของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการทำงานที่บ้าน โดย TSMC เองเดินสายการผลิตเกิน 100% ไปแล้ว และแม้จะมีโรงงานใหม่เริ่มเดินสายการผลิตในปีหน้า แต่คาดว่าความต้องการชิปก็ยังเกินกำลังผลิตไปจนปี 2023
ที่มา - Liberty Times |
# [Counterpoint] Apple Watch มีฐานผู้ใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนแล้ว
บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research รายงานภาพรวมตลาดสมาร์ทวอทช์ของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 โดยมีจำนวนส่งมอบเพิ่มขึ้น 27% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ปัจจัยหลักคือสมาร์ทวอทช์ราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ที่ทำให้ตลาดเติบโตสูง
แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ที่ 28.0% ถึงแม้ตัวเลขส่วนแบ่งจะลดลงจากปีก่อน แต่ก็ยังเป็นอันดับ 1 ที่สูงกว่ารายอื่นมาก โดยหัวเหว่ย ซัมซุง และ Imoo อยู่ในลำดับที่ 2-4 ด้วยส่วนแบ่ง 9.3, 7.6 และ 6.0% ตามลำดับ
Sujeong Lim นักวิเคราะห์อาวุโสของ Counterpoint ให้ข้อมูลว่า Apple Watch มีฐานผู้ใช้งานในไตรมาสนี้มากกว่า 100 ล้านคนแล้ว และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มีอเมริกาเป็นตลาดหลักที่คิดเป็นส่วนแบ่งสูงกว่า 50% ขณะเดียวกันสมาร์ทวอทช์ที่ทำราคาออกมาไม่สูง ระดับน้อยกว่า 100 ดอลลาร์ ตัดฟีเจอร์บางอย่าง และเน้นฟีเจอร์สุขภาพ ก็มียอดขายที่เติบโตสูง เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 ทำให้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น เฉพาะตลาดส่วนนี้นั้นเติบโตถึง 547%
สมาร์ทวอทช์รุ่นที่มียอดขายสูงสุดในไตรมาสที่ผ่านมา อันดับ 1 คือ Apple Watch Series 6, อันดับ 2 Apple Watch SE, อันดับ 3 Samsung Galaxy Watch Active 2, อันดับ 4 Apple Watch Series 3 และอันดับ 5 คือ Imoo Z6-4G
ที่มา: Counterpoint รูป Pixabay |
# Bangkok Airways ถูกแฮก อาจมีการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้บริการ
บางกอกแอร์เวย์สประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทว่า เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 บริษัทถูกโจมตีทางไซเบอร์ เป็นผลให้อาจมีข้อมูลผู้ใช้บริการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาติ ซึ่งข้อมูลที่โดนเข้าถึงนั้นได้แก่ ชื่อ นามสกุล สัญชาติ เพศ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ ช่องทางการติดต่อสื่อสาร ข้อมูลหนังสือเดินทาง ประวัติการเดินทาง ข้อมูลอาหารพิเศษของผู้โดยสาร รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตบางส่วนด้วย
บริษัทแนะนำให้ผู้โดยสารติดต่อไปยังธนาคารหรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตเพื่อดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ทำการเปลี่ยนรหัสผ่าน รวมถึงระวังการแอบอ้างโดยใช้ข้อมูลดังกล่าวจากผู้ไม่ประสงค์ดี
ทั้งนี้ทางบางกอกแอร์เวย์สอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนเพื่อหาผู้ที่ได้รับผลกระทบและข้อมูลที่ได้รับความเสียหาย และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบิน
ที่มา: ประกาศจากบางกอกแอร์เวย์ส |
# Splunk รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2021 รายได้รวมโต 23%
Splunk บริษัทผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูลจากระบบ รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 23% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 606 ล้านดอลลาร์ แต่สุทธิแล้วขาดทุนอยู่ 384 ล้านดอลลาร์
รายได้ต่อเนื่องใน 1 ปี (ARR) เพิ่มขึ้น 37% เป็น 2.63 พันล้านดอลลาร์ โดย ARR ส่วนของคลาวด์คิดเป็น 976 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Splunk บอกว่ามีลูกค้า 582 ราย ที่สร้าง ARR ระดับมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ในไตรมาสที่ผ่านกองทุน Silver Lake ได้ประกาศเข้าลงทุนใน Splunk เป็นเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ ผ่านการซื้อหุ้นกู้ของบริษัท ซึ่งบริษัทจะนำเงินทุนนี้มาใช้ขยายการเติบโตต่อไป
ที่มา: Splunk |
# Google เพิ่มฟีเจอร์ Smart Reply แนะนำคำตอบคอมเมนท์บน Google Docs เตรียมเปิดให้ใช้เดือนหน้า
Google ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Smart Reply สำหรับ Google Docs เพื่อการตอบคอมเมนท์ในเอกสารโดยจะแนะนำคำตอบที่เหมาะสมให้
วิธีการทำงานของ Smart Reply บน Google Docs จะคล้ายกับฟีเจอร์เดียวกันบน Gmail คือ Google จะแนะนำคำตอบที่เหมาะสมปรากฏด้านล่างของกล่องข้อความ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ตอบแชทใน Google Docs ได้เร็วกว่าเดิม
Google ระบุว่า ฟีเจอร์นี้จะเปิดเป็นค่าเริ่มต้น สามารถปิดได้ที่ Tools > Preferences > Show Smart Reply suggestions ซึ่งจะทยอยเปิดให้ใช้กับกลุ่ม Rapid Release ก่อน เริ่มต้น 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนวันปล่อยฟีเจอร์นี้ให้ผู้ใช้ทั่วไปจะเริ่ม 13 กันยายนนี้ กลุ่มผู้ใช้ที่จะได้ฟีเจอร์นี้มีทั้งบัญชี Google Workspace, G Suite Basic และ Business รวมถึงผู้ใช้บัญชีส่วนตัว Google ก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้เช่นกัน
ที่มา - Google Workplace Updates |
# กลุ่มหน่วยงานไซเบอร์สิงคโปร์ร่วมออกคำแนะนำรับมือกลุ่มแฮกเกอร์ ALTDOS
กลุ่มหน่วยงานไซเบอร์สิงคโปร์ทั้งในด้านความปลอดภัยไซเบอร์หลักอย่าง Cyber Security Agency of Singapore (CSA), คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือ Personal Data Protection Commission (PDPC) และกองกำลังตำรวจสิงคโปร์ร่วมออกคำแนะนำสำหรับการรับมือกลุ่มแฮกเกอร์ ALTDOS
หากยังจำกันได้ กลุ่มแฮกเกอร์ ALTDOS คือผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด, Mono Group และ 3BB เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กลุ่ม ALTDOS เริ่มกลับมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากมีการโจมตีฝั่งเอกชนกว่า 3 แห่งในสิงคโปร์ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
คำแนะนำร่วมฉบับนี้มีการระบุรูปแบบ พฤติกรรมการโจมตี เครื่องมือที่ใช้ในการโจมตีพร้อมกับแนวทางในการตรวจจับและลดผลกระทบจากการโจมตีเอาไว้อย่างละเอียด คำแนะนำยังมีการระบุอย่างชัดเจนว่าเหยื่อไม่ควรจ่ายค่าไถ่เนื่องจากความเสี่ยงในหลายด้าน และถือเป็นการสนับสนุนให้ผู้โจมตีทำการโจมตีซ้ำทั้งกับเหยื่อเดิมและเหยื่อใหม่ด้วย
ที่มา: The Record |
# 10 ปี Facebook Messenger เพิ่มเกมโพลในแชท, ส่งกล่องของขวัญเป็นเงินผ่าน Facebook Pay
Facebook Messenger ฉลองครบสิบปีด้วยการเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ หลายตัว เริ่มจากสามารถสร้างโพลในแชท หรือ Poll Games เป็นเกมเล่นกันสนุกๆ กับเพื่อนในกลุ่มแชทได้ ให้เพื่อนในห้องแชทโหวตเลือกเล่นได้
เพิ่มการแชร์คอนแทกต์ไปยังผู้อื่น โดยกดที่รายการเพื่อน กดโปรไฟล์ หลังจากนั้นจะมีหน้าต่างขึ้นมาพร้อมปุ่มแชร์คอนแทกต์, Word Effects จับคู่คำกับอิโมจิ เพื่อแสดงเอฟเฟกต์เต็มจอบนหน้าจอ เตรียมเปิดใช้งานเร็วๆ นี้
สำหรับลูกเล่นอื่นๆ ได้แก่ อีโมจิส่งเสียงได้, ธีมแชทใหม่ และ การส่งกล่องของขวัญเป็นเงินผ่าน Facebook Pay
ที่มา - Facebook |
# มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไอทีรองรับการผลิตวิศวกรรมเอไอที่เข้าใจโลกธุรกิจ
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เลือกใช้งานระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีจากไอบีเอ็ม โดยคอมพิวเตอร์ยูเนี่ยนพาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ติดตั้งระบบ ชูจุดเด่นสร้างวิศวกรปัญญาประดิษฐ์ที่พร้อมทำงานได้จริง
จากการขาดแคลนบุคลากรทางด้านไอทีโดยเฉพาะบุคลากรด้านเอไอ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งเป้าหมายในการผลิตบุคลากรทางด้านเอไอ จำนวน 700,000 คนภายใน 7 ปีข้างหน้า ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพเองก็เช่นกัน เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้เปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และวิศวกรรมข้อมูล หรือวิศวกรรมเอไอ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์ที่แตกต่างออกไปจากหลักสูตรของทางด้านประเทศฝั่งตะวันตกที่มุ่งเน้นในการพัฒนาในเรื่องของอัลกอลิธึมและการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านปัญญาประดิษฐ์
แต่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพมุ่งมั่นสร้างวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถนำเอาอัลกอริธึมและแพลตฟอร์มต่างๆ มาประยุกต์ใช้กับงานด้านธุรกิจได้อย่างแท้จริง จึงถือว่าเป็นจุดแตกต่างในการผลิตวิศวกรด้านปัญญาประดิษฐ์
ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.วิศาล พัฒน์ชู คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้อธิบายถึงความแตกต่างของหลักสูตรนี้ว่า “ความรู้ทางด้านเทคนิคเราไม่ห่วงเลย ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มีอยู่มากมาย แต่ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และนำเอาเอไอไปใช้ต่างหากเป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจ ทางมหาวิทยาลัยจึงเน้นให้นักศึกษาของเราได้มีโอกาสฝึกทดลองปฏิบัติดาต้าเซ็ตชุดจริงที่ใช้ในโลกธุรกิจ เพื่อให้ได้สัมผัสกับการใช้งานในธุรกิจจริง”
หลักสูตรวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ที่แตกต่าง
นักศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และวิทยาการข้อมูล จะมีรูปแบบการเรียนที่แตกต่างจากวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ถึงแม้จะเป็นหลักสูตร 4 ปีเหมือนกัน แต่ระดับความเข้มข้นของการเรียนรู้กลับแตกต่างออกไปจากที่เคยมีมา โดยเริ่มต้นจากปี 1 จะเป็นการปูพื้นฐานด้านต่างๆ พอก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 เป็นการเรียนรู้ในเรื่องของโปรแกรมมิ่ง เช่น Python, PyTorch การเรียกใช้งาน Library ด้านเอไอต่างๆ มาใช้อย่างเหมาะสมกับขนาดของข้อมูลที่แตกต่างกัน
ต่อมาในปีที่ 3 จะเป็นการเจาะลึกด้านเอไอ ได้เรียนรู้เครื่องมือที่มีบนแพลตฟอร์มและสภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กๆ ที่สามารถทำบนเครื่องของนักศึกษาเองได้ จนกระทั่งถึงการทำงานบนสภาพแวดล้อมบนคลาวด์ หรือจะเป็นงานที่ต้องการกำลังในการประมวลผลขนาดใหญ่ที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ก็สามารถทำได้ เมื่อนักศึกษาคุ้นเคยกับเครื่องมือต่างๆ ก็ถึงเวลาที่จะต้องถูกส่งเข้าสู่การลงมือทำงานจริงกับภาคธุรกิจในรูปแบบของการทำสหกิจหรือการรับโจทย์จริงเพื่อแก้ปัญหาในช่วงปี 3 เทอม 2
หลังจากกลับจากสหกิจเพื่อเข้าเรียนในชั้นปีที่ 4 ก็เชื่อว่าทุกคนจะนำความรู้ ประสบการณ์ และความต้องการทางธุรกิจที่แท้จริงมาทำโครงการเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจก่อนที่จะจบการศึกษาออกไป จะเห็นได้ว่าหลักสูตรนี้กำลังสร้างบัณฑิตที่พร้อมใช้งาน
ลงทุนสร้างความได้เปรียบด้วยสภาพแวดล้อมที่ครบถ้วน
ทั้งนี้ การเรียนรู้การใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ในปีที่ 3 และปีที่ 4 จำเป็นต้องประมวลผลดาต้าเซ็ตขนาดใหญ่ ซึ่งการประมวลผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของนักศึกษา หรือการประมวลผลบนคลาวด์ จะใช้เวลานาน และค่าใช้จ่ายสูงกว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไอทีไว้ใช้งานเองที่มหาวิทยาลัย จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ทางมหาวิทยาลัยตัดสินใจลงทุนจัดสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานไอที เพื่อรองรับการประมวลผลดาต้าเซ็ตขนาดใหญ่ โดยเลือกใช้งานเซิร์ฟเวอร์ประมวลผล และสตอเรจประสิทธิภาพสูง
IBM และ CU ช่วยเติมเต็ม
ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพตัดสินใจเลือก IBM Power System AC922 ใช้ซีพียู Power9 ที่ออกแบบมาเพื่องานเอไอ 2 เครื่อง โดยอีกเครื่องมาพร้อมกับ GPU NVIDIA Tesla V100 จำนวน 4 ใบ เพื่อเพิ่มความแรงในการประมวลผลได้อย่างเต็มที่ จากความมั่นใจในเทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านเอไอที่ทางไอบีเอ็มสะสมมา ประกอบกับข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยได้มาจากงานแสดงประสิทธิภาพทางด้านเทคโนโลยี ที่แสดงให้เห็นว่าสำหรับงานวิจัยด้านเอไอ และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) โซลูชั่นของไอบีเอ็มมีค่า Performance Index ดีกว่าแบรนด์อื่น อีกทั้งยังมีซอฟต์แวร์เด่น เช่น Watson ที่ทำให้คนทั้งโลกยอมรับการทำงานด้านเอไอ
นอกจากนี้ไอบีเอ็ม ยังมีเครื่องมือทางด้านเอไอให้เลือกใช้มากมาย และมีประสบการณ์ในการนำเอไอ ไปใช้ในธุรกิจจริง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ การเงิน การธนาคาร การประกันภัย อุตสาหกรรมโรงงานและการผลิต อุตสาหกรรมสุขภาพและโรงพยาบาล ทำให้นักศึกษามีเครื่องมือและประสบการณ์ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น ทำให้โซลูชั่นที่เลือกลงทุนครั้งนี้สามารถรองรับการใช้งานของนักศีกษาที่ต้องการได้อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.วิศาล กล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยเลือกไอบีเอ็ม เพราะเราอยากได้โซลูชั่น ซึ่งนอกจากไอบีเอ็มจะมีเซิร์ฟเวอร์แล้ว ไอบีเอ็มยังมีแพลตฟอร์ม Watson ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเอไอที่ใช้งานจริงในโลกธุรกิจ เราอยากให้นักศึกษาได้มีโอกาสใช้งานโซลูชั่นเหล่านี้ เวลาไปทำงานจริง Learning curve ก็จะไปเร็ว”
นอกจากการเลือกโซลูชั่นของทางไอบีเอ็มแล้ว ทางมหาวิทยาลัยฯ เลือกผู้ให้บริการติดตั้งและให้บริการหลังการขายที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเป็นการเลือกใช้บริการมืออาชีพอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่างคอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน การเลือกใช้บริการครั้งนี้ พิจารณาจากประสบการณ์ของทีมงานของคอมพิวเตอร์ยูเนี่ยนที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ในการให้บริการกับลูกค้าขนาดใหญ่มากมาย เชื่อว่าจะสามารถร่วมถ่ายทอดความรู้ในทั้งในเชิงเทคนิคและความต้องการทางธุรกิจให้กับทางมหาวิทยาลัยได้อย่างลงตัวที่สุด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.วิศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทางมหาวิทยาลัยเลือก บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน เป็นผู้ติดตั้งระบบ เพราะเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายด้านเทคโนโลยีและผู้ให้บริการมาอย่างยาวนาน และมีบุคลากรมือต้นๆ ของประเทศ ในการถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญให้กับมหาวิทยาลัยอีกด้วย”
เน้นความร่วมมือจริงกับโลกธุรกิจ
การทำสหกิจ เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทดลองทำงานจริงกับผู้ประกอบการ ซึ่งจะทำให้นักศึกษามีประสบการณ์ในการรับรู้ความต้องการในโลกธุรกิจและนำมาต่อยอดจนกลายเป็นผลงานที่ตอบโจทย์ให้กับธุรกิจได้
ตัวอย่างเช่น ในปีที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยมีความร่วมมือกับทางบริษัทที่ทำการพัฒนาแชทบ็อตและไมโครไฟแนนซ์ มาช่วยสอนและแนะนำการนำเอไอมาใช้งานในธุรกิจ โดยทั้งสองบริษัทเป็นตัวอย่างของการพัฒนาความร่วมมือของทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งจะมีการขยายความร่วมมือในบริษัทอื่นๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เปิดคอร์สเอไอเพื่ออัพสกิลคนไอที
ในระยะยาวด้วยจำนวนของนักศึกษาที่จบไปในแต่ละปีการศึกษาย่อมไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานด้านไอที ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงมีแนวความคิดที่จะเปิดเป็นหลักสูตรให้กับคนภายนอก และคนทำงานด้านไอทีให้เข้ามาเพิ่มพูนทักษะด้านเอไอโดยเฉพาะ เชื่อว่าการรับรองหลักสูตรที่ครบองค์ที่ประกอบไปด้วยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญจากคอมพิวเตอร์ยูเนี่ยนและเทคโนโลยีระดับโลกของไอบีเอ็ม หากสามารถร่วมรับรองหลักสูตรที่จะพัฒนาขึ้นในอนาคต เชื่อว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้เรียนและผู้สอบได้อย่างแน่นอน
บทสรุป
ปัจจุบันนักศึกษารุ่นแรกที่เข้ามาเรียนในปีการศึกษา 2563 กำลังก้าวขึ้นสู่ชั้นปีที่ 2 นั่นหมายความว่าบัณฑิตรุ่นแรกของหลักสูตรวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จะเข้าสู่ตลาดแรงงานทางด้านนี้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 50 คนในปี 2566 เชื่อว่า บัณฑิตรุ่นแรกจะเป็นกำลังสำคัญและเป็นบุคลากรที่พร้อมทำงานให้กับธุรกิจที่ต้องการการนำเอาปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในรูปแบบที่พร้อมใช้และเข้าใจความต้องการของธุรกิจอย่างแท้จริง
................................................
บริษัท คอมพิวเตอร์ยูเนี่ยน จำกัด
โทร 02 311 6881 # 7151, 7156 หรือ email : [email protected]
document.querySelectorAll(".submitted .username").forEach((ele) => { if (ele.innerText === "sponsored") { ele.innerText = "brandedcontent" } }) |
# บริษัทสิงคโปร์เปิดขายเหล้าด้วยตู้อัตโนมัติ ตรวจอายุผู้ซื้อผ่านแอป SingPass
Cellarbration ผู้ขายสุราในสิงคโปร์เปิดตัวตู้ขายสุราอัตโนมัติโดยตรวจอายุผู้ซื้อว่าเกิน 18 ปีผ่านแอป SingPass หลังจากทาง GovTech หน่วยงานผู้ดูแล SingPass โปรโมทฟีเจอร์ตรวจสอบตัวตนและอายุของผู้ใช้แอปผ่านทาง QR
รัฐบาลสิงคโปร์ชู SingPass และบริการ MyInfo เป็นจุดเริ่มต้นของรัฐบาลดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้เริ่มต้นจากการล็อกอินระบบของรัฐ เช่น ระบบจ่ายภาษี และต่อมาก็ขยายไปยังเอกชนเช่นการเปิดบัญชี ทำให้บริการจำนวนมากสามารถทำได้ผ่านบริการออนไลน์
ตอนนี้มีผู้ใช้แอป SingPass ทั้งหมด 4 ล้านคน โดยผู้ใช้งานอาจจะเป็นพลเมืองสิงคโปร์เอง หรือเป็นผู้ถือใบอนุญาตพำนักระยะยาวแบบต่างๆ เช่น ใบอนุญาตทำงาน หรือหนังสือเดินทางแบบนักเรียน
ที่มา - Strait Times |
# รีวิว Galaxy Z Flip 3 รอบสองของ Flip ฟีเจอร์ครบครันขึ้น ในราคาที่ถูกลง
มือถือจอพับได้ เป็นอีกนวัตกรรมฟอร์มแฟกเตอร์ของสมาร์ทโฟน ที่ก่อนหน้านี้ดูจะมีแต่รูปทรงเดิมๆ ติดต่อกันมานานหลายปี จนกระทั่งมาเป็น Galaxy Z Flip ในปีก่อน ที่เปิดตัวมาในราคา 44,990 บาท แต่ยังมีสเปกที่ด้อยกว่า ไม่กันน้ำ หน้าจอแบบพับได้ก็ยังไม่แข็งแรงนัก แถมมีราคาสูง
มาคราวนี้ มือถือจอพับได้รุ่นใหม่ของ Samsung ที่แม้จะใช้ชื่อว่า Galaxy Z Flip 3 แต่เป็นรุ่นที่สองของตระกูล Z Flip ส่วนเลข 3 นั้น กระโดดข้ามมาเพื่อให้เข้ากันได้กับ Galaxy Z Fold 3 และดูเหมือนว่านอกจากตัวเลขที่ก้าวกระโดดแล้ว การพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ในการใช้งานจริงของ Z Flip 3 ก็ก้าวกระโดดจากรุ่นแรกพอสมควร แถมยังมาในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ที่ 34,900 บาท ไล่เลี่ยกับมือถือเรือธงตัวท็อปทั่วไปในปัจจุบัน
สเปก
หน้าจอ AMOLED ด้านนอก 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260x512 พิกเซล
หน้าจอ AMOLED ภายใน 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640x1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
ชิป Snapdragon 888
แรม 8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB และ 256GB
กล้องหน้า 10MP
กล้องหลัง 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ กับอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP ทั้งคู่
แบตเตอรี่ 3,300mAh ชาร์จด้วย USB-C
กันน้ำ IPX8
รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.5
หน้าจอและลักษณะภายนอก
เริ่มต้นที่หน้าจอด้านนอกหรือ cover screen ที่ใหญ่ขึ้นจาก 1.1 นิ้วในรุ่นแรก เป็น 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260x512 พิกเซล เมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็ใช้งานได้จริงมากขึ้น ทั้งเพื่อถ่ายรูป หรือใช้เพื่ออ่านแจ้งเตือน โดยผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนสไตล์นาฬิกา หรือเปลี่ยนวอลล์เปเปอร์ของหน้าจอภายนอกได้ในการตั้งค่า
Samsung ให้ widget บนหน้าจอภายนอกมา 6 ชนิดคือ เครื่องเล่นเพลง, สภาอากาศ, ตารางสิ่งที่ต้องทำประจำวัน, การตั้งปลุกครั้งต่อไป, Samsung Health และนาฬิกาจับเวลา โดยสามารถเลือกให้ widget แต่ละชนิดแสดงหรือไม่แสดงได้ในการตั้งค่าเช่นกัน
ตัวเครื่องขณะพับจะหนาเล็กน้อย มีลักษณะคล้ายคลึงกับตลับแป้ง ยังมีช่องว่างตรงกลางเครื่องอยู่ ไม่ได้พับทบกันสนิท
หน้าจอภายใน และการใช้งาน
เมื่อเปิดฝาเครื่องมา จะพบกับหน้าจอภายในที่คราวนี้เป็นหน้าจออัตรารีเฟรช 120Hz ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น และสิ่งที่หลายๆ คนน่าจะสงสัยคือรอยพับตรงกลางจอ เห็นได้ชัดแค่ไหน คำตอบคือในการทั่วไป แทบจะไม่รู้สึกถึงรอยพับเลย หากไม่ตั้งใจขยับจอเครื่องให้สะท้อนกับแสง และหน้าจอมีความสว่างมากพอสู้แสงได้ทั้งในและนอกอาคาร แบตเตอรี่อยู่ได้เต็มวัน โดยไม่รู้สึกว่าน้อยกว่ามือถือปกติทั่วไป
เมื่อกางออกมาเต็มที่ ตัวเครื่องจะบางไม่แตกต่างจากมือถือเรือธงอื่นๆ ในปัจจุบัน ความรู้สึกหลักๆ จะคล้ายกับการใช้งานมือถือที่มีอัตราส่วนหน้าจอในทางยาวมากกว่าปกติ อาจต้องใช้การเอื้อมนิ้วเล็กน้อย เพื่อแตะส่วนบนสุดและล่างสุดของจอ
ช่วงข้อต่อของเครื่องค่อนข้างแข็ง เปิดปิดด้วยมือเดียวจะลำบากหน่อย อาจต้องใช้สองมือช่วยเปิด แต่ข้อดีคือทำให้ผู้ใช้สามารถกางหน้าจอค้างไว้กี่องศาก็ได้ โดยที่หน้าจอไม่ปิดหรือขยับเอง แต่เรื่องความคงทนในระยะยาว อาจจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะก็ยังพอมีรอยที่เศษผงจะเข้าไปในกลไกขยับได้บ้าง
การใช้งาน เล่นเกม ฟังเพลง และดูวิดีโอ ทำได้ดีขึ้น เพราะทั้งสเปก Snapdragon 888 ระดับเรือธง หน้าจอ 120Hz และลำโพงคู่ที่เสียงค่อนข้างดัง แม้ความชัดยังไม่เท่ากับมือถือเรือธงรุ่นอื่น แต่ส่วนอื่นก็แทบไม่ต่างจากมือถือแอนดรอยด์เรือธงของปีนี้เท่าไร
อีกจุดที่แก้ปัญหาคือคราวนี้ตัวเครื่องกันน้ำ IPX8 แล้ว ใช้งานได้แบบสบายใจ ไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นใส่ แค่อาจต้องระวังเรื่องฝุ่นผงเช่นเดิม แต่ในอนาคต Samsung ก็อาจหานวัตกรรมเพิ่มเติมมากันฝุ่นให้ตัวเครื่องได้อีกก็ได้
ข้อเสียเล็กน้อยคือหน้าจอที่มีอัตราส่วนต่างจากรุ่นอื่น มีความยาวมากกว่าความกว้าง ทำให้วิดีโอทั่วไปที่ดู เช่นบน Youtube จะมีแถบดำอยู่ด้านซ้ายและขวามากกว่ามือถือทั่วไป และเมื่อซูมเข้า ส่วนบนและล่างก็จะถูกตัดออกไปเยอะ
กล้องถ่ายภาพ
เรื่องกล้องอาจจะเป็นจุดที่ Galaxy Z Flip โดดเด่นน้อยที่สุด กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 10MP รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหลังมี 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ความละเอียด 12MP รูรับแสง f/1.8 กับกล้องอัลตร้าไวด์ 12MP รูรับแสง f/2.2 ส่วน ซึ่งเป็นกล้องที่ใช้งานทั่วไปได้ดีตามมาตรฐาน Samsung แต่ไม่มีเซ็นเซอร์ระยะชัดลึก หรือเลนส์ซูมมาด้วย
ตัวอย่างภาพถ่าย
ภาพจากกล้องหลังหลัก
ภาพจากกล้องหลังหลัก
ภาพจากกล้องอัลตร้าไวด์
ภาพจากกล้องหลัก เปิด Night Mode
ภาพจากกล้องหน้า
สรุป
Galaxy Z Flip 3 เรียกได้ว่าเป็นมือถือจอพับรุ่นที่สองที่เติมเต็มส่วนที่ขาดของรุ่นแรกได้แทบทั้งหมด ทั้งสเปกเรือธง หน้าจออัตรารีเฟรช 120Hz ที่สว่างขึ้น ลำโพงคู่ และการกันน้ำ IPX8 และส่วนที่สำคัญที่สุดคือราคาที่ถูกลงมาจนจับต้องได้ที่ 34,900 บาท
แม้เรื่องกล้องจะไม่โดดเด่น และความทนทานของข้อต่อและจอพับ อาจต้องติดตามดูในระยะยาว แต่ถ้าชอบความแปลกใหม่และนวัตกรรมล้ำสมัย รวมถึงอยากได้มือถือที่หยิบขึ้นมาใช้เมื่อไรก็ทำให้คนต้องเหลียวมอง Galaxy Z Flip 3 น่าจะเป็นอีกตัวเลือกที่มีสไตล์มากที่สุดของปีนี้ |
# เปิดตัว Marvel’s Midnight Suns เกมฮีโร่แนว turn-based RPG จากทีมสร้าง XCOM
Firaxis Games ทีมสร้าง XCOM เปิดตัวเกมใหม่ในแฟรนไชส์ Marvel เป็นเกม turn-based RPG แต่ทีมสร้างยืนยันว่าไม่ได้นำระบบจาก XCOM มาใช้ และตัวละครจะไม่ตายถาวร ส่วนรายละเอียดเกมเพลย์อื่นยังไม่เปิดเผย
ตัวละครในเกมจะมี 13 ตัวจากทีม Avengers, X-Men, Runaways และอื่นๆ ที่ยืนยันแล้วมี ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา, กัปตันมาร์เวล, ด็อกเตอร์สเตรนจ์, เบลด, นิโก มิโนรุ, แมจิค, โกสต์ ไรเดอร์ (รอบบี้ เรเยส) และ วูลฟ์เวอรีน
ดูจากตัวอย่าง น่าจะเป็นศึกที่ตัวร้ายหลักมาจากฝั่งเวทมนตร์ของ Marvel และตัวละครฝั่งอื่นจะเช่น ไอรอนแมน หรือวูลฟ์เวอรีน จะได้รับชุดเกราะเวทมนตร์แบบใหม่ที่ช่วยให้ต่อกรกับภัยร้ายครั้งนี้ได้ดีขึ้น ตัวเกมลง Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation 5, Windows PC (ทั้ง Steam และ Epic Game Store), Xbox One, และ Xbox Series X|S เดือนมีนาคม 2022
ที่มา - Polygon |
# HPE คว้าโครงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Polaris ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ
ห้องวิจัยแห่งชาติ Argonne National Laboratory ของกระทรวงพลังงานสหรัฐ เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ Polaris ที่สร้างโดย HPE
เป้าหมายของ Polaris เป็น "ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทดสอบ" สำหรับงานประมวลผลระดับ exascale ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ exaflops ทั้งหมด 3 ตัวในห้องวิจัยแห่งชาติ 3 แห่งคือ Aurora (Argonne), Frontier (Oak Ridge), El Capitan (Lawrence Livermore)
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Polaris จะมีสมรรถนะ 44 petaflops (double precision) โดยใช้เป็นคอมพิวเตอร์ทดสอบก่อน Aurora เสร็จสมบูรณ์ (Aurora สร้างโดย HPE/Cray เหมือนกัน แต่ใช้ซีพียูอินเทล) ชื่อเครื่อง Polaris มีความหมายว่าเป็น "ดาวเหนือ" นำทางไปสู่ยุค exascale
สเปกเครื่องของ Polaris คือ
ซีพียู AMD Epyc Gen 2 ผสม Gen 3 รวม 560 ตัว
จีพียู NVIDIA A100 จำนวน 2240 ตัว
เชื่อมต่อเครือข่ายด้วย HPE Slingshot แบบเดียวกับที่ใช้ใน Aurora
Polaris เริ่มติดตั้งระบบในเดือนนี้ และเริ่มเปิดทดสอบใช้งานในช่วงต้นปี 2022
ที่มา - Argonne National Laboratory, HPE |
# เปิดตัว Fitbit Charge 5 จอสีรุ่นแรกของ Charge มีเซ็นเซอร์ SpO2 ราคา 7,690 บาท
Fitbit Charge 5 เปิดตัวแล้ว หน้าจอ AMOLED พร้อมฟีเจอร์ always on เป็นครั้งแรกที่สปอร์ตแบนด์ตระกูล Charge เป็นจอสี มาพร้อมมี GPS ในตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 7 วัน และสมาชิก Fitbit Premium ฟรี 6 เดือน
Fitbit Charge 5 จะวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา หากใส่นอน ตัวเครื่องจะติดตามการนอนหลับ แสดง Sleep Score คุณภาพการนอน ระยะเวลาที่อยู่ในการนอนหลับระดับต่างๆ และมีฟีเจอร์ Smart Wake ช่วยปลุกผู้ใช้ในช่วงที่เหมาะกับการตื่น ทุกเช้าระบบจะประเมินคะแนน Daily Readiness คะแนนความอ่อนล้าของร่างกาย เพื่อนำไปแนะนำการออกกำลังกายประจำวันว่าควรอยู่ในโซนใดกี่นาที
Charge 5 ยังมีเซ็นเซอร์ EDA วัดการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด จากการเปลี่ยนแปลงของต่อมเหงื่อบริเวณนิ้วมือ มีเซ็นเซอร์ SpO2 และวัดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อนำไปแสดงใน Health Metrics Dashboard ที่จะติดตามผลระยะยาวได้เมื่อมี Fitbit Premium
นอกจากเปิดตัว Charge 5 แล้ว Ars Technica ระบุว่า Fitbit เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าในอนาคตอาจทำสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ Wear OS ด้วย หลัง Google ซื้อบริษัทเสร็จสิ้นไปเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งอาจอยู่เฉพาะในรุ่น Versa หรือ Sense ที่เป็นไลน์สมาร์ทวอทช์ของ Fitbit ในขณะที่ Charge เป็นไลน์สปอร์ตแบนด์ที่แม้จะมีฟีเจอร์ด้านออกกำลังกายเยอะ แต่อาจไม่ได้ไปต่อกับ Wear OS
Fitbit Charge 5 สั่งจองได้ทางเว็บไซต์ Fitbit วางจำหน่ายฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) นี้ ราคา 7,690 บาท
ที่มา - Ars Technica, จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# จนถึงตอนนี้ YouTube ลบวิดีโอแพร่ข้อมูลปลอมโควิด-19 ไปแล้วร่วมล้านคลิป
YouTube เผยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 จนถึงตอนนี้ ได้ทำการลบวิดีโอที่เผยแพร่ข้อมูลอันตรายและข้อมูลปลอมที่เกี่ยวกับโควิด-19 ไปแล้วร่วม 1 ล้านคลิป ตัวอย่างเนื้อหาที่ละเมิดนโยบายและถูกลบเช่น การรักษา โควิด-19 ที่ผิดพลาด หรือการกล่าวอ้างที่หลอกลวงเกี่ยวกับวิธีการรักษา เป็นต้น
ช่องใหญ่ที่ YouTube แบนมาแล้วจากการแพร่ข้อมูลเท็จโควิด-19 เช่น สำนักข่าว Sky News Australia, วิดีโอของ Jair Bolsonaro ประธานาธิบดีบราซิล
Neal Mahon ซีพีโอ YouTube ยอมรับว่าข้อมูลปลอมกลายเป็นกระแสเมนสตรีมไปแล้ว และขยายตัวออกไปในทุกส่วนของสังคม ด้วยความเร็วของการแพร่กระจายที่มากกว่าเดิม แต่เขาบอกว่าเนื้อหาไม่ดีเป็นสัดส่วนน้อยบนแพลตฟอร์ม ราว 16-18% เป็นเนื้อหาที่ละเมิดนโยบาย และในแต่ละไตรมาสได้ทำการลบวิดีโอไตรมาสละ 10 ล้านรายการ
โซเชียลมีเดียเป็นที่วิจารณ์เรื่องเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลปลอมมาแต่ไหนแต่ไร Facebook ได้ออกรายงานเนื้อหาที่มีคนพบเจอมากที่สุด และปกป้องตัวเองว่า แม้บน Facebook มีเนื้อหาปลอมเกี่ยวกับโควิด-19 แต่เนื้อหาดังกล่าวไม่ได้แพร่กระจายในวงกว้าง และเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือมีมและเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง
ที่มา - Engadget, YouTube |
# คุยกับ AIS กับการนำ 5G พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทยในโลกยุค New Normal
AIS เป็นโอเปอเรเตอร์รายแรกๆ ที่ลงทุนกับเครือข่าย 5G เริ่มต้นเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ เพื่อการใช้งานมือถือที่เร็วและลื่นไหล และชู 5G ว่าเป็นโอกาสสำคัญของเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง AR/VR, IoT, Smart City, Smart Transportation
แต่ในระยะหลังเราเห็นแล้วว่า 5G สามารถนำมาใช้กับกลุ่มธุรกิจองค์กรได้ด้วย Blognone ได้พูดคุยกับคุณธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS ถึงประเด็นโลกหลังจากนี้ว่า 5G จะมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อไป รวมถึงทิศทางของ AIS ในอนาคต
เทรนด์อนาคตของ 5G
จากภาพด้านล่าง เราสามารถแบ่งการใช้งาน 5G ออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ตอนนี้เราผ่านการใช้งาน 5G Mobile กันมาแล้ว กำลังเริ่มเข้าสู่ 5G Infrastructure สำหรับกลุ่มองค์กร และในระยะถัดไป เราจะเห็น 5G เข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคธุรกิจ 2 ด้าน คือ 5G Horizontal Solutions กับ 5G Vertical Solutions
5G Horizontal Solutions หรือการใช้งานโซลูชันที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม เป็นรูปแบบการใช้งานที่เริ่มเกิดขึ้นแล้ว ยกตัวอย่างเช่นการใช้งาน AR/VR ที่AIS ร่วมกับบริษัท NTT Docomo ของญี่ปุ่น ทำ Remote Supervisor โดยให้คนที่อยู่คนละประเทศ สามารถทำงานร่วมกันโดยผู้เชี่ยวชาญสามารถเห็นภาพและข้อมูลเพื่อให้คำปรึกษากับพนักงานที่ทำงานอยู่ในโรงงานได้ผ่านเครือข่าย 5G และอีกกรณีคือ AIS ร่วมมือกับ Mitsubishi Electric และ TKK Corporation ยกระดับระบบ FA Remote (การทำงานระยะไกลในโรงงาน) เป็นต้น
สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตคือ 5G Vertical Solutions หรือการพัฒนา 5G ในแนวดิ่ง เป็นการใช้ 5G เจาะลงลึกเฉพาะอุตสาหกรรมนั้นๆ เพื่อประโยชน์ในการทำ Digitization โดยเฉพาะ โดยโซลูชันที่เราจะได้เห็นในอนาคตจะอยู่ในรูปแบบ 5G สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต, อสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกหรือกลุ่มโลจิสติกส์ เป็นต้น
5G กับการยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing)
อุตสาหกรรมการผลิต หรือ Manufacturing เป็นอุตสาหกรรมที่ยังไม่เห็นเทรนด์การทำ Digitization ชัดเท่ากับอุตสาหกรรมอื่น แต่เมื่อใด 5G เข้ามามีบทบาท เราก็จะมองเห็นการพัฒนาสายการผลิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น สามารถซ่อมบำรุงได้ล่วงหน้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรในโรงงานดีขึ้น ลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุง และป้องกันความเสียหายจากเครื่องจักรล้มเหลวได้อย่างมีนัยสำคัญ
ด้วยประสิทธิภาพเครือข่าย 5G ของ AIS ที่วางรากฐานไว้แล้ว 77 จังหวัด รวมถึงเขตเศรษฐกิจอีอีซี ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายย่านความถี่ ทำให้สามารถปรับใช้งานตามความต้องการของโรงงานได้
Low Band 700 MHz เน้นการใช้งานครอบคลุมพื้นที่กว้างแต่อาจไม่โดดเด่นเรื่อง low latency มากนัก
Mid Band 2600 MHz ที่ขยับความเร็วการใช้งานขึ้นมาจาก Low Band
High Band 26 GHz เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการลด Delay TIme และ ต้องการความแม่นยำของเครื่องจักรและหุ่นยนต์ช่วยการผลิต
โซลูชัน 5G จาก AIS ช่วยให้อุตสาหกรรมปรับตัวได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
AIS เป็นเจ้าของเครือข่ายก็จริง แต่ลำพัง AIS คนเดียวไม่สามารถนำ 5G มายกระดับอุตสาหกรรมการผลิตได้ เราจึงเห็นความเคลื่อนไหวของ AIS Business ในการสร้างพันธมิตรกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมการผลิต มาพัฒนาโซลูชัน 5G ที่ใช้ในโรงงานร่วมกัน ได้แก่
ร่วมมือกับ Bosch นำโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชันด้าน 5G "Private Network" และ "Edge Computing" มาร่วมพัฒนา Use Case ใหม่ๆ ในพื้นที่โรงงานโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อยอดการใช้โซลูชัน ActiveCockpit ของ Bosch ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ร่วมมือกับ SNC Former ผู้ผลิตกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่อีอีซี ตั้งเสา 5G ที่โรงงานในระยอง เปิดทางนำเทคโนโลยีใหม่อย่างหุ่นยนต์และอุปกรณ์ IoT เข้ามาเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 5G ในโรงงาน เพื่อเป็น Smart Manufacturing อย่างสมบูรณ์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
ร่วมกับ OMRON ผู้ให้บริการระบบควบคุมอัตโนมัติ เทคโนโลยีเซนเซอร์ กล้องอุตสาหกรรม และระบบหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมรายใหญ่ โดยใช้ 5G มายกระดับ พัฒนาโซลูชัน Layout-free Production Line เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับการผลิต ผสานกับระบบ Autonomous Mobile Robot (AMR), IoT, และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ร่วมกับ Mitsubishi Electric และ TKK Corporation เสนอโซลูชัน e-F@ctory บนเครือข่าย AIS 5G นำระบบ FA Remote (การทำงานระยะไกลในโรงงาน) ให้สอดคล้องกับการทำงานในภาวะโรคระบาด ลดความเสี่ยงการติดเชื้อและคลัสเตอร์ใหม่จากโรงงาน ยกระดับการทำงาน FA Remote ให้มีเสถียรภาพมากขึ้น
จากความร่วมมือทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ AIS สามารถใช้กำลังเครือข่าย 5G ผสานกับโซลูชันของพาร์ทเนอร์ และเทคโนโลยีเมกะเทรนด์ที่ AIS มีได้แก่ คลาวด์, ระบบความปลอดภัยไซเบอร์, IoT มาสร้าง End-to-End Solution ให้ลูกค้าโรงงาน และ AIS ยังพัฒนาบุคลากรมาเรียนรู้ระบบร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อที่กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความเชี่ยวชาญ สามารถซัพพอร์ตลูกค้า ทำให้เกิดกระบวนการ Digitization ให้เกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรม โดยลูกค้าไม่ต้องทำเองทุกอย่างตั้งแต่ต้น หรือลงทุนใหม่ทั้งหมดทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบุคลากร
ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง สำคัญที่สุด
การยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็น Smart Factory ยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก แต่ละโรงงานก็มีข้อจำกัดของตัวเอง ทั้งเรื่องเงินทุน การขาดแคลนบุคลากร แต่คุณธนพงษ์บอกว่า สิ่งที่สำคัญไม่แพ้เงินทุนและคนคือ วิสัยทัศน์ผู้บริหารที่ต้องการเปลี่ยนแปลง
โรงงานบางแห่งอาจติดกับความคิดที่ว่าการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ยังเป็นเรื่องไกลตัวเกินไป ยังไม่จำเป็นตอนนี้ ทำให้ยังยึดติดการผลิตแบบเดิม เสี่ยงต่อการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต
การเปลี่ยนแปลง ทำ Digitization ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากสเกลใหญ่ โรงงานสามารถเข้ามาร่วมมือกับ AIS เพื่อหาโซลูชันเริ่มจากสายการผลิตเล็ก แล้วค่อยๆ ขยายการใช้งานไปเรื่อยๆ ซึ่ง AIS และพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมี End-to-End Solution ให้ลูกค้าโรงงานได้
ผู้ที่สนใจบริการธุรกิจจาก AIS เพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ AIS Business ได้ทันที หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลท่านอยู่ |
# Panos Panay ถูกโปรโมตเป็นผู้บริหารระดับสูง Microsoft ขึ้นตรงกับ CEO Satya Nadella
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Panos Panay หัวหน้าฝ่าย Windows และผลิตภัณฑ์ ของไมโครซอฟท์ ได้รับการโปรโมตขึ้นเป็นรองประธานผู้บริหารระดับสูง และขึ้นตรงกับซีอีโอ Satya Nadella โดยก่อนหน้านี้ Phil Spencer หัวหน้า Xbox ก็ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงเช่นกัน
การปรับตำแหน่งนี้มีความสำคัญในเชิงบริหาร เนื่องจากไมโครซอฟท์ไม่มีผู้บริหารระดับสูงขึ้นตรงกับซีอีโอ ที่รับผิดชอบ Windows โดยตรงนับตั้งแต่ Terry Myerson ลาออกในปี 2018
ทั้งนี้ Panos ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากหัวหน้าทีม Surface เป็นหัวหน้าฝ่าย Windows และผลิตภัณฑ์เมื่อต้นปีที่แล้ว
ที่มา: The Verge |
# เปิดตัวเกม Saints Row ภาครีบูตใหม่ เนื้อเรื่องใหม่ กำหนดขายต้นปี 2022
Saints Row เกมแนวแก๊งมาเฟียโอเพนเวิลด์ ถูกนำมารีบูตใหม่อีกครั้ง (เกมภาค 1-4 ออกช่วงปี 2006-2013 แล้วหยุดออกภาคใหม่มาสักพัก) โดยเกมภาคใหม่ใช้ชื่อว่า "Saints Row" เฉยๆ ไม่มีชื่อภาค กำหนดออก 25 กุมภาพันธ์ 2022
เกมภาคใหม่ถูกรีเซ็ตจักรวาลในเกมใหม่ ย้ายมาที่เมืองสมมติชื่อ Santo Ileso ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครสร้างเอง (The Boss) ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คนเป็นแก๊ง Saints เวอร์ชันใหม่ ต่อสู้กับแก๊งอื่นๆ ในเมืองเพื่อชิงอำนาจกัน
เกมยังคงจุดเด่นของซีรีส์อย่างการต่อสู้ ยิงปืน ขับยานพาหนะประเภทต่างๆ ในโลกโอเพนเวิลด์ที่มีขนาดใหญ่ (ใครที่รอ GTA6 ก็เล่นเกมนี้ไปแทนก่อนได้) เกมจะลง PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X|S และพีซีผ่าน Epic Games Store
ในช่วงโปรโมทเกมภาคใหม่ Epic Games Store ยังนำเกมภาค 3 คือ Saints Row: The Third Remastered มาแจกฟรีด้วย อย่าลืมไปกดรับสิทธิกัน
ที่มา - Saints Row |
# Horizon Forbidden West เลื่อนวันวางขายเป็น 18 กุมภาพันธ์ 2022
โซนี่ประกาศเลื่อนวันวางขายเกม Horizon Forbidden West ภาคสองของซีรีส์ Horizon เป็นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2022 ล่าช้าจากเดิมที่ตั้งใจขายช่วงปลายปี 2021 ตรงตามข่าวลือก่อนหน้านี้
การเลื่อน Horizon Forbidden West ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะก่อนหน้านี้ Hermen Hulst หัวหน้า PlayStation Studios ก็เคยพูดเองว่ากำหนดการยังไม่แน่ชัด
สตูดิโอ Guerilla Games ให้เหตุผลของการเลื่อนว่าเป็นเพราะสถานการณ์โควิด ทำให้ทีมพัฒนาต้องปรับกระบวนการทำงานใหม่ จึงต้องการเวลาเพิ่มในการขัดเกลาคุณภาพของเกม
Horizon Forbidden West จะมีให้เล่นทั้งบน PS4 และ PS5 โดยวางขายพร้อมกัน และเปิดให้พรีออเดอร์ในวันที่ 2 กันยายน 2021
ที่มา - PlayStation Blog |
# Facebook อาจตั้งคณะทำงานดูเรื่องเลือกตั้งโดยเฉพาะ เลี่ยงการตกเป็นเป้าวิจารณ์ทางการเมือง
The New York Times รายงานโดยอ้างอิงบุคคลวงในว่า Facebook เตรียมตั้งคณะกรรมการเพื่อมาดูเรื่องการเลือกตั้งโดยเฉพาะ ทำหน้าที่ตัดสินใจว่า Facebook ควรมีแนวทางอย่างไรในช่วงเลือกตั้ง เตรียมประกาศตั้งคณะทำงานในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อให้ทันต่อการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในปี 2022
คณะทำงานจะเข้ามาช่วยให้คำแนะนำในเรื่องสำคัญอย่างเช่น ความเป็นไปได้ของโฆษณาทางการเมืองและสิ่งที่ควรทำเกี่ยวกับข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เป็นต้น
Facebook เป็นที่วิจารณ์ในประเด็นการเมืองตั้งแต่เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง เนื่องจากค้นพบว่า Facebook ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองแพร่ข่าวปลอมโจมตีผู้สมัครรับเลือกตั้ง ไปจนถึงฝั่งอนุรักษ์นิยมวิจารณ์ว่า Facebook มีความเอนเอียงกดทับเสียงของฝ่ายอนุรักษ์นิยมไว้ จนเป็นที่มาของการตั้ง Oversight Board ในปี 2018 เป็นองค์กรอิสระมาดูแลนโยบายของ Facebook อีกที เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นผู้กำหนดความเป็นจริงตามที่สังคมวิจารณ์
การตั้งคณะทำงานดูแลการเลือกตั้งก็ก่อตั้งขึ้นด้วยแนวคิดเดียวกับ Oversight Board แหล่งข่าวระบุกับ The New York Times ด้วยว่า ตัวมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ไม่อยากถูกมองว่าเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจเพียงคนเดียวเกี่ยวกับเนื้อหาทางการเมือง ก่อนหน้านี้เขายังประกาศจะจะหยุดแนะนำเนื้อหากลุ่มและเพจการเมือง ลดความแตกแยกด้วย
ที่มา - The New York Times |
# Instagram ทดสอบการแสดงภาพเมื่อค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด คล้าย Pinterest
ปกติแล้วการค้นหาเนื้อหาใดๆ บน Instagramสามารถใช้คีย์เวิร์ดหรือคำค้นหากว้างๆ ได้ จากนั้นระบบจะแสดงเพจ และแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เราเข้าไปค้นหาสิ่งที่ต้องการต่อไป แต่ล่าสุด Instagram ทดสอบการแสดงรูปภาพและวิดีโอแบบ grid เป็นผลการค้นหา เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น และยังให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Pinterest
จากรูปภาพด้านล่าง จะเห็นได้ว่าของใหม่อยู่ในเซกชั่น Top แสดงผลการค้นหาเป็นรูปภาพ และสามารถเลื่อนขวาเพื่อเข้าดูแต่ละบัญชีที่เกี่ยวข้องได้ โดยตอนนี้เน้นที่คำค้นหาในภาษาอังกฤษก่อน
ที่มา - Instagram |
# Google และ Microsoft ให้คำมั่นลงทุนความปลอดภัยไซเบอร์ 3 หมื่นล้านเหรียญ ภายใน 5 ปี
จากการประชุมบิ๊กบอสระหว่างซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์นั้น Google และ Microsoft ให้สัญญาว่าจะลงทุนเพื่อความปลอดภัยไซเบอร์รวมกันแล้ว 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดย Google ลงทุน 1 หมื่นล้าน และ Microsoft ลงทุน 2 หมื่นล้าน
Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft ระบุว่า ในการลงทุนนี้ 150 ล้านดอลลาร์ จะใช้เพื่อการฝึกอบรมบุคลากรในหน่วยงานรัฐของสหรัฐฯ เรื่องการรับมือภัยไซเบอร์ ในขณะเดียวกัน Google จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาความปลอดภัยแบบ Zero-trust การรักษาความปลอดภัยแบบโอเพนซอร์ส และฝึกอบรมประชาชนสหรัฐฯให้ได้ 1 แสนคน ภายใน 3 ปีข้างหน้า
ด้าน Apple จะสร้างโปรโตคอลเพื่อการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดยิ่งขึ้น, Amazon จะฝึกอบรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ภายในแก่สาธารณชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย, IBM ประกาศว่าจะฝึกอบรมบุคลากร 150,000 คนในทักษะการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในช่วงสามปีข้างหน้า และจะเน้นความหลากหลายทางเชื้อชาติของบุคลากรด้วย
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทต่างๆ กำลังปรับปรุงความปลอดภัยเพื่อรับมือภัยไซเบอร์ หลังเกิด ransomware โจมตีใหญ่ในหลายๆ ครั้งตั้งแต่กรณี SolarWinds, Kaseya VSA, Colonial Pipeline จนกลายเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ ยกระดับเท่ากับภัยก่อการร้าย
ที่มา - Engadget, ทำเนียบขาว |
# IEEE ประกาศภาษาโปรแกรมยอดนิยม C# ความนิยมพุ่งเร็วมาเป็นอันดับ 6
IEEE ประกาศอันดับภาษาโปรแกรมยอดนิยม พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ Python, Java, C, C++, JavaScript นั้นไม่มีความเปลี่ยนแปลง แต่ปีที่ผ่านมา C# กลับสามารถไต่อันดับจากอันดับ 25 มาเป็นอันดับ 6
การให้คะแนนของ IEEE อาศัยคะแนนจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเว็บ หรือทวิตเตอร์ แบบเดียวกับ TIOBE หรือจะเป็นอันดับภาษาโปรแกรมในเว็บ IEEE Jobs เอง ไปจนถึงการอ่านบทความในวารสารของ IEEE ความพิเศษคือเว็บของ IEEE เปิดให้ผู้ใช้ให้น้ำหนักคะแนนจากแหล่งต่างๆ ได้เอง แนวทางการให้คะแนนของ IEEE ทำให้อันดับความนิยมค่อนข้างนิ่ง เช่น ปีที่แล้วหากดูเฉพาะทวิตเตอร์จะพบว่าภาษา COBOL มาแรงมาก จากข่าวการหาโปรแกรมเมอร์ COBOL ช่วยแก้ระบบรับมือ COVID แต่อันดับรวมก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรนัก
IEEE ระบุว่าการที่ C# ขึ้นมาได้รับความนิยมสูงน่าจะเป็นเพราะ C# 9.0 และ .NET 5 เพิ่งออกมาช่วงปลายปี 2020 ประกอบกับข่าว Windows 11
ที่มา - IEEE Spectrum |
# Xiaomi ประกาศซื้อกิจการ DeepMotion สตาร์ทอัพรถยนต์ไร้คนขับ เป้าหมายคือไปถึง L4 ให้เร็วที่สุด
Wang Xiang ประธาน Xiaomi ได้เปิดเผยข้อมูลในช่วงแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส ว่าบริษัทเตรียมซื้อกิจการ DeepMotion สตาร์ทอัพพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ที่มูลค่า 77.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ออกสู่ตลาดได้รวดเร็วมากขึ้น
กลยุทธ์ที่ Wang ระบุเพิ่ม คือบริษัทจะเปิดรับสมัครงานด้านนี้ 500 อัตรา และมีเป้าหมายคือการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับในระดับที่ 4 (L4)
Xiaomi เป็นบริษัทเทคโนโลยีของจีนรายล่าสุดที่ประกาศเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยก่อนหน้านี้มีทั้ง Baidu, Alibaba และ Didi
ที่มา: TechCrunch |
# Xiaomi ไตรมาส 2/2021 รายได้ทำสถิติสูงสุดต่ออีกไตรมาส สมาร์ทโฟนส่วนแบ่งอันดับ 2 ของโลก
Xiaomi รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้รวมทำสถิติสูงสุดใหม่อีกไตรมาส 87,789.0 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 64.0% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน กำไรสุทธิ 6,321.5 ล้านหยวน ตามบัญชี non-IFRS
ไตรมาสที่ผ่านมา Xiaomi มีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยส่งมอบสมาร์ทโฟน 52.9 ล้านเครื่อง รายได้เฉพาะส่วนนี้ 59.1 พันล้านหยวน ขณะที่ธุรกิจ IoT และสินค้าไลฟ์สไตล์ ก็เติบโตเช่นกัน มีรายได้ 20.7 พันล้านหยวน สินค้าเด่นคือสมาร์ททีวี ส่งมอบไป 2.5 ล้านเครื่อง
นอกจากนี้ Xiaomi ยังมีธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ต รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 7.0 พันล้านหยวน จำนวนผู้ใช้งาน MIUI แบบเป็นประจำทุกเดือน (MAU) เพิ่มขึ้นเป็น 453.8 ล้านบัญชี
ที่มา: Xiaomi |
# ไม่เหมือนที่โม้ไว้นี่นา Elon Musk ยอมรับแล้ว Full Self-Driving ในปัจจุบันยังไม่เจ๋งพอ
Elon Musk โพสต์ยอมรับว่าฟีเจอร์ Full Self-Driving (FSD) เวอร์ชันล่าสุด Beta 9.2 ที่ใช้กล้องล้วนๆ ยังไม่เจ๋งอย่างที่คิดไว้ ("is actually not great") หลังก่อนหน้านี้วิศวกรของ Tesla ยอมรับว่าระบบยังไม่เจ๋งเท่ากับที่ Elon เคยโม้เอาไว้
Elon บอกว่าทีม Autopilot และทีม AI ทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนา FSD ให้ดีขึ้นโดยเร็ว แนวทางของ Tesla คือการใช้โปรแกรมตัวเดียวกัน ทำงานทั้งบนถนนปกติและไฮเวย์ (ที่พฤติกรรมของรถต่างกัน) จึงต้องเทรน neural network จำนวนมหาศาลมากๆ
มีผู้ใช้หลายรายที่ได้ FSD Beta 9.2 ไปทดสอบแล้วพบปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติสำหรับวงการรถยนต์ไร้คนขับในปัจจุบัน เพียงแต่ว่าบริษัทอื่นไม่ได้มีซีอีโอที่แสดงความมั่นใจว่าจะทำ Level 5 สำเร็จภายในสิ้นปี 2021 เท่านั้นเอง
ที่มา - Ars Technica |
# จากโครงการ Just for Fun วันนี้ลินุกซ์มีอายุ 30 ปีแล้ว
ลินุกซ์ มีอายุครบ 30 ปีในวันนี้ (25 สิงหาคม 2021) หลัง Linus Torvalds นักศึกษาชาวฟินแลนด์ โพสต์ข้อความเปิดตัวลินุกซ์ในบอร์ด comp.os.minix
ตอนแรก ลินุกซ์เป็นแค่โครงการส่วนตัวของ Torvalds เท่านั้น (เจ้าตัวเขียนเล่าเรื่องไว้ในหนังสือ Just for Fun ในปี 2002 ซึ่งมีฉบับแปลเป็นภาษาไทยด้วย) แต่ด้วยพลังของโลกโอเพนซอร์สก็ผลักดันให้ลินุกซ์กลายเป็นระบบปฏิบัติการสำคัญของโลกอย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้
โพสต์ของ Torvalds ใน Twitter เมื่อปี 2015 (และเป็นโพสต์สุดท้ายของเจ้าตัวด้วย)
ที่มา - The Register |
# เปิดราคาไทย OnePlus Nord 2 5G เริ่มต้น 17,990 บาท แพงขึ้นกว่ารุ่นแรก 3,000 บาท
OnePlus Nord 2 5G เปิดราคาประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วในงานถ่ายทอดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในราคาดังนี้
รุ่น แรม 12GB + หน่วยความจำภายใน 256GB สีเทา Gray Sierra ราคา 18,990 บาท
รุ่น แรม 8GB + หน่วยความจำภายใน 128GB สีฟ้า Blue Haze ราคา 17,990 บาท
ราคาเริ่มต้นแพงขึ้นกว่า OnePlus Nord รุ่นแรกพอสมควร จาก 14,990 บาทเป็น 17,990 บาท ส่วนรุ่น แรม 12GB+256GB ก็แพงขึ้นจาก 17,990 บาท เป็น 18,990 บาท
OnePlus Nord 2 5G รุ่นแรม 12GB+256GB วางขายก่อน ในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ซื้อได้ผ่าน Shopee Lazada และ Thisshop แถมประกันจอแตก 1 ปี และ OnePlus Gift Box ส่วนรุ่นแรม 8GB+128GB ยังไม่เปิดเผยวันวางจำหน่าย ระบุไว้ว่า เร็วๆ นี้
ที่มา - OnePlus |
# แซ่บต่อได้ OnlyFans ประกาศระงับแผนแบนเนื้อหาทางเพศ 1 ตุลาคมนี้
หลัง OnlyFans ประกาศเตรียมแบนเนื้อหาทางเพศวันที่ 1 ตุลาคม เพราะมีปัญหากับสถาบันการเงิน และนักลงทุน ที่อาจส่งผลกระทบในการขยายธุรกิจในอนาคต ล่าสุด OnlyFans กลับลำ ประกาศบนทวิตเตอร์ ระงับการแบนเนื้อหาทางเพศวันที่ 1 ตุลาคมนี้แล้ว
OnlyFans โพสต์ทวิตเตอร์ขอบคุณทุกความเห็น และระบุว่าบริษัทมีหลักประกันมากพอจะมั่นใจได้แล้ว ว่าจะสามารถให้การสนับสนุนชุมชนผู้สร้างคอนเทนต์ที่หลากหลายบนแพลตฟอร์มได้ และขอระงับการปรับเปลี่ยนข้อตกลงการใช้งาน ที่จะห้ามลงเนื้อหาทางเพศในวันที่ 1 ตุลาคม (ใช้คำว่า “suspended”)
ยังไม่แน่ชัดว่าการระงับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการระงับชั่วคราว หรือบริษัทจะตัดสินใจไม่แบนเนื้อหาทางเพศแล้วจริงๆ ฝั่ง OnlyFans ระบุว่าจะมีอีเมลแจ้งผู้ทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากนี้
ประกาศนี้ออกมาหลังมีผู้สร้างคอนเทนต์จำนวนมากเริ่มย้ายไปใช้แพลตฟอร์มอื่น และสื่อหลายสำนักก็มองว่าอาจเป็นจุดจบของ OnlyFans คงต้องติดตามต่อไปว่าการประกาศระงับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะดึงผู้สร้างคอนเทนต์กลับมาบนแพลตฟอร์มได้หรือไม่
ที่มา - OnlyFans |
# ต่อยแย้ด้วยจิตสังหาร Monster Hunter Rise ให้ผู้เล่นเล่นเป็น Akuma จากเกม Street Fighter ได้
Monster Hunter Rise เตรียมนำคอนเทนต์จาก Street Fighter เข้ามาในเกมในแคมเปญรวมคอนเทนต์ Capcom Collab 3 หลังก่อนหน้านี้เพิ่มชุด Amaterasu จากเกม Okami ให้กับสัตว์เลี้ยง palamute ของผู้เล่นไปแล้ว
คราวนี้เพิ่ม Event Quest ที่มีรางวัลเป็นเกราะที่จะเปลี่ยนตัวละครผู้เล่นเป็น Akuma ตัวร้ายจาก Street Fighter แถมยังเตะต่อย และใช้สกิลต่างๆ ทั้งโกฮาโดเคน ลูกเตะพายุ ทัตสึมากิ ซังคิวคาคุ และอื่นๆ เพื่อสู้กับมอนสเตอร์ได้เมื่อผู้เล่นไม่ถืออาวุธในมือ
Event Quest ใหม่นี้จะถูกเพิ่มมาในเกม Monster Hunter Rise บน Nintendo Switch ฟรี วันที่ 27 สิงหาคมนี้
ที่มา - Nintendo |
# นักวิจัยจากจุฬาฯ พัฒนา AutoVacc หุ่นยนต์ดึงวัคซีน AstraZeneca ลดการสูญเสียวัคซีน
นักวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนาหุ่นยนต์ AutoVacc หรือเครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ ที่สามารถดึงวัคซีน AstraZeneca ออกจากขวดแก้วได้ 12 โดสภายใน 4 นาที และสามารถดึงปริมาณวัคซีนมาใช้ได้มากกว่าการใช้แรงคน 20% เพิ่มโอกาสการกระจายวัคซีน และลดความเหนื่อยล้าจากการใช้แรงบุคลากร
จุฑามาศ รัตนวราภรณ์ หัวหน้าทีมวิจัยของศูนย์วิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ของมหาวิทยาลัย กล่าวว่า วัคซีน AstraZeneca หนึ่งขวดบรรจุ 10 โดส หรือฉีดได้ 10 คน แต่ทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเติมปริมาตรวัคซีนให้เป็น 13 โดส เนื่องจากแต่ละรอบที่บุคลากรต้องดูดวัคซีนขึ้นมาใช้ อาจเกิดการสูญเสียวัคซีน ได้ การพัฒนา AutoVacc ช่วยเพิ่มปริมาณวัคซีน หรือลดโอกาสการสูญเสียวัคซีนไป
กล่าวคือ สามารถดึงวัคซีนจาก 10 โดส ได้เป็น 12 โดสนั่นเอง
ทางทีมวิจัยคาดว่าจะสามารถผลิตหน่วย AutoVacc ได้อีก 20 เครื่องภายใน 3-4 เดือน เครื่องต้นแบบมีราคา 2.5 ล้านบาท และมีแผนจะพัฒนาหุ่นยนต์แบ่งดูดวัคซีน Pfizer-BioNTech ด้วย
รูปภาพหุ่นยนต์ AutoVacc สามารถดูได้ที่แหล่งข่าวต้นทาง
ภาพตัวอย่างวัคซีนของ AstraZeneca จากมหาวิทยาลัย Oxford
ที่มา - Reuters |
# EA ใจดี ปลดสิทธิบัตรเทคโนโลยีด้าน accessibility ให้ใช้ฟรี เพื่อผลประโยชน์ของผู้พิการ
EA ออกแถลงการ Accessibility First Patent Pledge ร่วมแบ่งปันเทคโนโลยีที่บริษัทจดสิทธิบัตรไว้ ให้บริษัทอื่นใช้ได้ฟรี เพื่อผลประโยชน์แก่การใช้งานและเล่นเกมของผู้พิการ โดย 5 สิทธิบัตรที่ EA ปลดล็อกชุดแรกมีดังนี้
ระบบตรวจสอบและประมวลผลภาพที่มีความสว่างคล้ายกันแบบอัตโนมัติ ช่วยผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นสี ให้มองเห็นได้ง่ายขึ้น (สิทธิบัตรหมายเลข US 10,118,097 และ CN 107694092)
ระบบตรวจจับอัตราส่วนคอนทราสต์ และระบบปรับเรนเดอร์ ที่จะช่วยตรวจสอบและปรับปรุงคอนทราสต์ เพื่อช่วยให้การมองเห็นเช่นกัน (สิทธิบัตรหมายเลข US 10,878,540
ระบบปรับเสียงตามลักษณะตอบสนองทางกายภาพของผู้ใช้แบบเรียลไทม์ ที่จะปรับการเล่นเสียง โดยคำนึงจากปัญหาด้านการได้ยินของผู้ใช้ สิทธิบัตรนี้เป็นการจดทะเบียนไอเดียไว้ล่วงหน้า ยังไม่มีการพัฒนาโดย EA เป็นสิทธิบัตรหมายเลข US 10,790,919
สุดท้ายคือระบบการสื่อสารแบบอิงบริบทในวิดีโอเกม หรือระบบ ping ในเกม Apex Legends นั่นเองสิทธิบัตรหมายเลข US 11,097,189
ระบบ ping ในเกม Apex Legends คือระบบที่ช่วยให้ผู้เล่นสื่อสารในเกมได้โดยใช้แค่การชี้และคลิก โดยไม่ต้องพูดเอง และการสื่อสารจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่ผู้เล่นชี้ในฉากและในเมนู เช่น เมื่อผู้เล่นเปิดหน้าเมนู นำเม้าส์ไปชี้ที่ช่องใส่กระสุนที่ว่างเปล่าของตัวเอง แล้วกดปุ่ม ping ตัวละครก็จะพูดว่า “ฉันต้องการกระสุนชนิด…” หรือการชี้ไอเท็มที่พบในฉากแล้วกด ping เพื่อให้ตัวละครพูดว่า “มีไอเท็ม … ตรงนี้นะ”
ผู้เล่นยังสามารถเลือกคำสั่งจาก ping wheel เพื่อเลือกบอกสิ่งต่างๆ กับเพื่อนร่วมทีมเพิ่มเติมได้ เช่น เพื่อใช้บอกว่ามีศัตรูอยู่ในพื้นที่ที่ผู้เล่นชี้ ให้เฝ้าระวังพื้นที่ที่ผู้เล่นชี้ หรือบอกให้โจมตีศัตรูที่ผู้เล่นชี้พร้อมกันทันที
ระบบนี้ที่ได้เสียงตอบรับที่ดีมากจากผู้เล่น เพราะช่วยให้ผู้เล่นสื่อสารกันเข้าใจได้ แม้เข้าใจภาษาอังกฤษแค่เพียงพื้นฐาน หรือมีปัญหาทางการได้ยิน เพราะจะมีตัวหนังสือบทบรรยายสิ่งที่ตัวละครพูด หรือลูกศรชี้และไฮไลท์ไอเท็มกับศัตรูขึ้นบอกในเกมเมื่อผู้เล่นกด ping ด้วย
EA ยังปล่อยซอร์สโค้ดสำหรับระบบปรับสีภาพและคอนทราสต์สำหรับผู้มีอาการตาบอดสี ให้นักพัฒนานำไปใช้งานได้ฟรีบน github รวมถึงให้สัญญาว่าจะไม่มีการฟ้องร้องผู้ที่นำเทคโนโลยีในสิทธิบัตรเหล่านี้ไปใช้ และอาจปลดล็อกสิทธิบัตรอื่นให้อีกในอนาคต
Chris Bruzzo รองประธานผู้บริหารฝั่งการค้าและมาร์เก็ตติ้งของ Positive Play โครงการเพื่อปรับปรุงสังคมเกมของ EA ระบุว่าการแชร์สิทธิบัตรครั้งนี้ เป็นไปเพราะอยากเห็นชุมชนเทคโนโลยี หันมาแชร์เทคโนโลยีที่จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่น เช่นผู้พิการ และช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น โดยลดความ toxic ในเกมเช่นการเหยียดเพศหรือเหยียดสีผิวจากการพิมพ์สื่อสารหรือคุยด้วยเสียงได้ด้วย
แม้ EA จะมีประเด็นปัญหาด้านการหารายได้จากระบบกล่องสุ่ม หรือ loot box ก่อนหน้านี้ แต่ก็เริ่มปรับปรุงระบบมากขึ้นในช่วงหลัง รวมถึงการเปิดกว้างทางสิทธิบัตรครั้งนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างใจกว้างอีกครั้งของ EA
ที่มา - gameindustry.biz |
# เกาหลีใต้เสนอแก้กฎหมาย ห้าม Google, Apple บังคับเก็บคอมมิชชั่นจากการซื้อในแอป
คณะกรรมการรัฐสภาเกาหลีใต้ ลงมติเสนอแก้ไขกฎหมายในพระราชบัญญัติธุรกิจโทรคมนาคม ห้าม Google และ Apple จากการบังคับเก็บค่าคอมมิชชั่นนักพัฒนาจากการซื้อในแอป ขั้นตอนต่อไปคือ การลงคะแนนเสียงขั้นสุดท้ายในรัฐสภา
Google และ Apple กำลังเผชิญการวิจารร์และความกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ จากการบังคับนักพัฒนาซอฟต์แวร์มาใช้ระบบจ่ายเงินของตัวเอง และคิดค่าคอมมิชชั่น 30% สหรัฐเองก็เล็งออกกฎลดอำนาจทั้งสองจากการควบคุมตลาดแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ทั้งสองบริษัทยังมีคดีความคั่งค้างกับ Epic รวมถึงอัยการสหรัฐฯรวมตัวฟ้อง Google ข้อหาผูกขาดด้วย
ต่อมา Google ประกาศลดค่าธรรมเนียมนักพัฒนาบน Play Store เหลือ 15% สำหรับรายได้ 1 ล้านดอลลาร์แรกต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2021 เป็นต้นไป
ด้าน Apple ออกแถลงการณ์ต่อความเคลื่อนไหวของเกาหลีว่า ตัวกฎหมายกระทบความปลอดภัยในการซื้อสินค้าดิจิทัล อาจเกิดเหตุฉ้อโกง และกระทบความเป็นส่วนตัว
ภาพจาก @ProtonMail ในการเปิดตัว CAF
ที่มา - Strait Times |
# AIS แจกพื้นที่ Google One ให้ลูกค้ารายเดือนฟรี 100GB แต่เฉพาะคนที่ยังไม่เคยสมัคร
AIS ประกาศความร่วมมือกับกูเกิล แจกแพ็กเกจพื้นที่สตอเรจของกูเกิล Google One ขนาดพื้นที่ 100GB ฟรีให้กับลูกค้า AIS รายเดือนทุกคน (และลูกค้าที่เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน)
แพ็กเกจรายเดือน 699 บาทขึ้นไป ได้ Google One นาน 6 เดือน
แพ็กเกจรายเดือนต่ำกว่า 699 บาท ได้ Google One นาน 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์นี้เฉพาะผู้ที่ไม่เคยสมัคร Google One มาก่อน และไม่เคยทดลองใช้ Google One ฟรีด้วย (ซึ่งชาว Blognone น่าจะตกข้อนี้กันไปเยอะมากแล้ว)
ที่มา - AIS |
# สมาร์ททีวี Samsung ถูกขโมยจากโกดัง บริษัทสั่งให้เครื่องใช้งานไม่ได้ผ่านอินเทอร์เน็ตได้
เกิดเหตุการณ์การจลาจลใน KwaZulu-Natal ประเทศแอฟริกาใต้ หลังประธานาธิบดี Jacob Zuma ยอมมอบตัวและจะถูกจำคุก 15 เดือนข้อหาหมิ่นศาล แต่อาจรอดจากข้อหาคอรัปชั่น การจลาจลครั้งนี้ทำให้มีสมาร์ททีวีของ Samsung ถูกขโมยไปจากโกดังเป็นจำนวนมาก
ทีวีของ Samsung มาพร้อมกับแอป Samsung TV Block ซึ่งจะเช็คเลขซีเรียลของเครื่องกับระบบ และถ้าตรงกับเลขซีเรียลที่ Samsung ระบุไว้ เช่นของเครื่องที่ถูกขโมยจากโกดัง แอปจะปิดการทำงานของทีวีทันที จนกว่าผู้ใช้จะส่งเรื่องยืนยันหลักฐานการซื้อเครื่องที่ถูกต้องกับตัวแทนจำหน่าย
Samsung ระบุว่าครั้งนี้แอปจะบล็อกเครื่องที่ถูกขโมยจากโกดังเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับกรณีขโมยอื่นๆ ในจลาจลครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม การมีแอปที่พร้อมปิดการทำงานทีวีเป็นจำนวนมากได้ผ่านอินเทอร์เน็ตติดมากับเครื่อง อาจสร้างความกังวลให้ผู้ใช้ได้ หากระบบของ Samsung ถูกโจมตีโดยผู้ไม่หวังดี หรือเกิดการผิดพลาดในการตรวจสอบเลขซีเรียลขึ้น คงต้องติดตามการใช้งานแอปนี้ของ Samsung กันต่อไป
ที่มา - The Register |
# John Carmack ผู้สร้าง Doom ไปช่วย Tesla แก้ปัญหาประสิทธิภาพกราฟิกภายในรถยนต์
ในวงการกราฟิกเกม 3 มิติคงไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่า John Carmack ผู้สร้างเกม Doom และ Quake ต้นแบบของเกมแนว FPS ในปัจจุบัน โครงการใหม่ล่าสุดของเขาคือไปช่วยแก้ปัญหาประสิทธิภาพกราฟิกในรถยนต์ Tesla
Carmack ลาออกจาก id Software ตั้งแต่ปี 2013 เพื่อย้ายไปเป็น CTO ของ Oculus โดยเขาอยู่กับ Oculus จนถึงปี 2019 จากนั้นลาออกมาพัฒนาโครงการ AI ส่วนตัว
นอกจากงานหลักในสายไอทีแล้ว Carmack ยังมีบริษัทอวกาศชื่อ Armadillo Aerospace ที่ก่อตั้งในปี 2000 (แต่ช่วงหลังก็ไม่ได้ทำธุรกิจจริงจังนัก) ล่าสุดเขาตอบรับคำเชิญของ Elon Musk ไปชมจรวด Starbase ของบริษัท SpaceX และโพสต์ภาพถ่ายร่วมกันออกมา
Elon Musk เคยพยายามดึง Carmack มาทำงานด้วยหลายรอบ ท่าทีของ Carmack ยังไม่ได้ตอบรับงานแบบฟูลไทม์ แต่เขาเปิดเผยว่าไปช่วยวิศวกรของ Tesla ปรับปรุงประสิทธิภาพของ UI ในรถยนต์ Tesla รุ่นเก่า (เขาขับ Tesla Model S รุ่นเก่า) ตอนนี้วิศวกรของ Tesla กำลังแชร์ข้อมูลให้เขาอยู่
Carmack ไม่ได้เปิดเผยว่าโครงการปรับปรุงกราฟิกของ Tesla Model S จะเสร็จเมื่อไร แต่ก็ถือเป็นข่าวดีของลูกค้า Tesla รุ่นเก่าๆ ที่ได้ปรมาจารย์ระดับ Carmack มาช่วยแก้บั๊กประสิทธิภาพของกราฟิกที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน (Tesla เปิดให้ลูกค้าอัพเกรดฮาร์ดแวร์ได้ แต่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 2,500 ดอลลาร์)
ที่มา - Electrek |
# กศน. สแกนนิยายให้อ่านฟรีบนห้องสมุดออนไลน์ นักเขียนร้องละเมิดลิขสิทธิ์ เลขากศน. สั่งลบด่วน
เกิดดราม่าเรื่องลิขสิทธิ์นิยายขึ้น เมื่อ กศน.อำเภอ และ กศน.จังหวัด ผู้ดูแลห้องสมุดประชาชนออนไลน์สแกนไฟล์นิยายขึ้นเว็บไซต์ห้องสมุดประชาชนออนไลน์ให้อ่านฟรี ระบุเป็นเจตนาดีเพื่อให้ประชาชนได้อ่านหนังสือฟรีในยุคโควิด จนนักเขียนนิยายเตรียมดำเนินการทางกฎหมายข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์
ล่าสุด ดร.วรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)ให้สัมภาษณ์ว่าได้สั่งให้ลบไฟล์ดังกล่าวแล้ว ชี้เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ภาพจากหน้าเว็บไซต์ E-Library
ดร.วรัท บอกว่าเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมาที่มีตัวแทนสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย มาเข้าพบเพื่อแจ้งว่ากศน.ได้ละเมิดลิขสิทธิ์สำนักพิมพ์ สแกนหนังสือของสำนักพิมพ์ขึ้นเว็บไซต์ของห้องสมุดประชาชนออนไลน์ ทันทีที่ทราบเรื่องก็ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดลงวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ถึงผู้อำนวยการสำนักงานกศน.จังหวัดทุกจังหวัดให้ลบออก แต่หนังสือสั่งการยังไปไม่ถึงระดับปฏิบัติ ในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 จึงทำหนังสือย้ำอีกครั้ง พร้อมเปิดทางให้สำนักงานกศน.จังหวัดจัดซื้ออีบุ๊กที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาและประชาชนได้โดยไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม มีหนังสือบางเล่มที่ไม่ได้สังกัดสำนักพิมพ์ยังคงถูกเผยแพร่ ดร.วรัท บอกว่าจะกำชับอีกครั้ง
ที่มา - มติชน |
# G-Able ถูกเรียกค่าไถ่โดยมัลแวร์ BlackMatter ข้อมูลบางส่วนถูกเผยแพร่
กลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ BlackMatter ประกาศการโจมตีระบบของบริษัท G-Able ส่งผลให้ข้อมูลในระบบถูกเข้ารหัสเพื่อเรียกค่าไถ่ และมีการนำข้อมูลออกมาจากระบบเพื่อเรียกค่าไถ่เพิ่มเติมอีกด้วย
จากการตรวจสอบที่เว็บไซต์ของกลุ่ม BlackMatter เบื้องต้น กลุ่ม BlackMatter อ้างว่าได้นำไฟล์ข้อมูลออกมาจากระบบ G-Able มากกว่า 100 GB รวมไปถึงได้มีการปล่อยไฟล์จำนวน 650 MB ออกมาก่อนเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า BlackMatter มีการครอบครองไฟล์ข้อมูลอยู่จริง
update: แถลงจาก G-Able
ที่มา: การติดตามข่าวจากผู้เขียนด้วยตนเอง
ข้อมูลเพิ่มเติมของกลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ BlackMatter
กลุ่มมัลแวร์เรียกค่าไถ่ BlackMatter ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีโมเดลการเรียกค่าไถ่แบบสองขั้น (double extortion) โดยการนำไฟล์ของเหยื่อออกจากระบบจะเกิดขึ้นก่อนการเข้ารหัสไฟล์เพื่อสร้างเงื่อนไขในการเรียกค่าไถ่แรก จากนั้นไฟล์ที่ถูกนำออกมาจะถูกนำมาสร้างเงื่อนไขที่สองโดยผู้โจมตีจะทำการข่มขู่ว่าหากไม่มีการจ่ายค่าไถ่ตามระยะเวลาที่กำหนด ไฟล์ที่ถูกนำออกมาทั้งหมดจะถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ หรืออาจมีการขายต่อให้กับผู้ที่ต้องการซื้อข้อมูล
พฤติกรรมของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ BlackMatter ที่เป็นจุดสังเกตมีดังนี้
BlackMatter เมื่อเข้ารหัสข้อมูลในระบบแล้วจะเปลี่ยนภาพพื้นหลังของระบบเพื่อแจ้งว่า BlackMatter ได้ทำการเข้ารหัสไฟล์แล้ว และจะแนะนำให้ผู้ใช้งานอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากไฟล์ ransom note หรือโน้ตอธิบายการเรียกค่าไถ่
ไฟล์ ransom note ของ BlackMatter จะถูกตั้งใช้ด้วยรหัสเฉพาะของเหยื่อซึ่งเป็นค่าสุ่ม (VICTIM_ID) ตามด้วย .README.txt ในขณะที่ไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสจะมีรูปแบบเป็น ORIGINAL_FILENAME.VICTIM_ID
โปรแกรมของมัลแวร์เรียกค่าไถ่จะมีการนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบออก ยกตัวอย่างเช่น ชื่อของระบบ, รุ่นของระบบปฏิบัติการและขนาดพื้นที่และการใช้งานดิสก์ อย่างไรก็ตามการตรวจสอบว่ามีข้อมูลอื่นใดถูกนำออกไปด้วยหรือไม่ต้องทำการตรวจสอบที่ระบบที่ได้รับผลกระทบเอง เนื่องจากกระบวนการนำไฟล์ออกนั้นไม่ได้เกิดจากโปรแกรมของมัลแวร์เรียกค่าไถ่ แต่เกิดจากผู้โจมตีที่ดำเนินการด้วยตัวเอง
มัลแวร์เรียกค่าไถ่รองรับการทำงานใน Windows, Linux, VMware ESXi, ผลิตภัณฑ์ NAS ในกลุ่ม Synology, OpenMediaVault, FreeNAS (TrueNAS)
ยังไม่มีวิธีการในการถอดรหัสไฟล์โดยไม่จ่ายค่าไถ่ในขณะนี้
ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนถึงพฤติกรรมที่ใช้ในการบุกรุก ยกระดับสิทธิ์ เข้าถึงไฟล์และนำไฟล์ออกจากระบบในขณะนี้
อ้างอิง: Cyble, Malpedia, RecordedFuture, Group-IB |
# iFixit แกะเครื่องเกมอินดี้ PlayDate คันโยกส่งสัญญาณด้วยแม่เหล็ก คะแนนความซ่อมง่าย 6/10
PlayDate เครื่องเล่นเกมพกพาจอขาวดำขนาดเล็ก และมีคันโยกเป็นคันบังคับ สร้างโดยค่ายเกม Panic ผู้สร้าง Firewatch และ Untitled Goose Game ร่วมกับ Teenage Engineering ได้มอบเครื่องให้ iFixit แกะสำรวจภายในแล้ว โดยรวมพบว่าแกะและเปลี่ยนแบตได้ง่าย แต่ก็มีส่วนที่ซ่อมยากอยู่บ้าง
PlayDate เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 แต่เจอปัญหาโควิด จนเพิ่งได้เปิดจองเมื่อ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา และเตรียมจัดส่งล็อตแรก 20,000 เครื่องภายในสิ้นปีนี้ในสหรัฐฯ ตัวเครื่องมีสเปกดังนี้
หน้าจอขาวดำ 2.7 นิ้ว 1bit ความละเอียด 400×240 จำนวนพิกเซลต่อนิ้วอยู่ที่ 173 ppi
ซีพียู ARM Cortex-M7F สัญญาณนาฬิกา 180 MHz
แรม 16 MB
หน่วยความจำภายในแบบแฟลช 4 GB
รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz , Bluetooth 4.2, ชาร์จด้วย USB-C มีรูหูฟัง
คันโยกแบบแมคคานิคัล
แบตเตอรี่ 740 mAh @3.7V (2.74 Wh) สแตนด์บาย 14 วัน เล่นได้ 8 ชั่วโมง
iFixit พบว่าตัวเครื่องแกะซ่อมง่าย แบตเตอรี่เปลี่ยนได้ไม่ยาก ส่วนคันโยกใช้มีแม่เหล็กติดอยู่ ตัวเครื่องใช้เซ็นเซอร์วัดการเปลี่ยนแปลงแรงดันไฟฟ้าที่เกิดจาก Hall Effect เมื่อผู้เล่นหมุนคันโยกและหมุนแม่เหล็ก เพื่อใช้ส่งสัญญาณบังคับการควบคุมในเกม และเป็นชิ้นส่วนที่ซ่อมได้
จุดที่ iFixit ติคือแผงหน้าจอที่ลือกันว่าเป็น Memory LCD ของ Sharp (ไม่มีข้อมูลยืนยัน) ถูกแปะกาวติดไว้กับแผงพลาสติกด้านหน้าของตัวเครื่องเลย หากจะเปลี่ยนหน้าจอก็ต้องเปลี่ยนทั้งแผง ปุ่มทั้งหมดอยู่บน FPC แผงเดียว ถ้าจะเปลี่ยนปลุ่มก็ต้องเปลี่ยนทั้งแผง ส่วนพอร์ต USB-C ก็ถูกเชื่อมติดกับเมนบอร์ดเลย และให้คะแนนซ่อมง่ายไว้ที่ 6/10
PlayDate วางขายอยู่บนเว็บไซต์ในราคา 179 ดอลลาร์ แพงกว่าตอนเปิดตัวที่ 149 ดอลลาร์มาอีกเล็กน้อย แต่เพิ่มจำนวนเกมที่จะทยอยปล่อยให้ดาวน์โหลดแบบไม่เปิดเผยลำดับ จาก 12 เป็น 24 เกม แบ่งเป็น 2 เกมต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยผู้เล่นแค่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi ไว้
นักพัฒนาสามารถทำเกมได้โดยใช้ชุดพัฒนาเกมของ PlayDate ที่เตรียมเปิดให้ใช้ฟรี และสามารถไซด์โหลดเกมจากคอมพิวเตอร์ไปยัง PlayDate ได้ทันที ทีมงานระบุว่านักพัฒนาอาจต้องขายเกมตามช่องทางของตัวเองไปก่อน แต่ก็กำลังคุยกันเรื่องหาช่องทางขายเกมให้อย่างเป็นทางการ (เช่น PlayDate Store) ในอนาคต
ที่มา - iFixit, PlayDate |
# ไอบีเอ็ม จับมือพาร์ตเนอร์กว่า 20 รายจัดสัมมนาออนไลน์ IBM Solutions Summit 2021 powered by IBM Partners
Blognone ขอเรียนเชิญ CEOs, Owners/founders, COOs, CIOs, CTO, IT directors, Line of Business leaders, Senior IT professionals, IT Manager, Cloud Engineer, Data Center Engineer, ผู้ดูแลระบบ IT และผู้ที่สนใจทุกท่าน เข้าร่วม IBM Virtual Event ในงาน “IBM Solutions Summit 2021 powered by IBM Partners” เพื่อเรียนรู้แนวโน้มเทคโนโลยีหลัก ไฮบริดคลาวด์ เอไอ และซีเคียวริตี้ ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติตอบโจทย์ องค์กรในโลกยุคดิจิทัลที่ต้องตอบสนองลูกค้าด้วยความรวดเร็ว รู้ใจและปลอดภัยสูง ในวันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2021 เวลา 08.30 – 13.00 น.
ชี้ 3 แนวโน้มเทคโนโลยีหลัก ไฮบริดคลาวด์ เอไอ และซีเคียวริตี้ ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติตอบโจทย์องค์กรในโลกยุคดิจิทัลที่ต้องตอบสนองลูกค้าด้วยความรวดเร็ว รู้ใจและปลอดภัยสูง
ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จับมือพาร์ตเนอร์มากกว่า 20 ราย จัดสัมมนาและนิทรรศการออนไลน์ IBM Solutions Summit 2021 powered by IBM Partners ในวันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 8.00 น – 13.00 น โดยในปีนี้จัดในธีม Re-imagine Innovation with Technology การเปลี่ยนภาพลักษณ์นวัตกรรมด้วยเทคโนโลยี 3 เสาหลัก คือ ไฮบริดคลาวด์ เอไอ และซีเคียวริตี้ ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ในการขับเคลื่อนด้วยระบบอัตโนมัติในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆ โดยมีไฮไลท์ประสบการณ์จริงจากลูกค้าผู้ใช้งาน ในการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีตอบรับกับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคนิวนอร์มอล
นอกจากหัวข้อดังกล่าวแล้ว ผู้เข้าร่วมจะได้รับชมการบรรยายและสาธิตการใช้งานเทคโนโลยีออนไลน์จากพาร์ตเนอร์กว่า 20 ราย เช่น 4Plus Consulting, Amind Group, C-Level, Computer Union, Datapro Computer Systems, G-Able, Ingram Micro, Metro Connect, Metro Systems Corporation, MFEC, NEOPLUS, NTT Solutions, Portalnet, Stream I.T. Consulting, Systems Dot Com, Triple Dot Consulting และ Zenith Comp เป็นต้น
ภายในงานมีแบ่งการนำเสนอเทคโนโลยีเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย
เทคโนโลยีส่วนแรก Cost Optimization & IT Modernization เป็นโซลูชันเทคโนโลยีในการบริหารต้นทุน จัดการวางแผนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการปรับระบบไอทีให้ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป
ในส่วนแรก เริ่มต้นจากหัวข้อ A New Approach to Financial Performance Management: Plan and Analyze Anytime, Anywhere ด้วยโซลูชัน IBM Planning Analytics with Watson โซลูชันวางแผนและวิเคราะห์งบประมาณการเงินช่วยให้ผู้บริหาร วางแผนงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ไม่ว่าจะทำงานจากที่ใดตอบรับการทำงานยุคนิวนอร์มอล เข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เห็นผลลัพธ์และงบการเงินได้ทันที
หัวข้อ Accelerate Digital Transformation by IBM Cloud Paks – Superior Performance with IBM POWER10 นำเสนอโซลูชัน IBM Cloud Paks ครบวงจรในการบริหารระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบไฮบริดคลาวด์ พร้อมเอไอช่วยให้ผู้จัดการระบบบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์ เช่น IBM POWER 10 ร่วมกับระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หัวข้อ Automated Hybrid Cloud with Ansible Automation Platform นำเสนอโซลูชัน Ansible Automation Platform เครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพยากรระบบไฮบริดคลาวด์แบบไม่ใช้เอเจนท์ ตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ จัดการโมดูลของระบบ รองรับ IBM Power Systems, IBM Z และแพลตฟอร์มอื่นๆ
หัวข้อ IBM Storage Foundation for Hybrid Cloud Platform โซลูชันที่ช่วยจัดการกับความท้าทายด้านสตอเรจบนโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮบริดคลาวด์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ด้วยการ 1) Move: จัดการย้ายข้อมูลระหว่างคลาวด์ 2) Access: เข้าถึงและปรับใช้ที่เก็บข้อมูลถาวรสำหรับคอนเทนเนอร์ด้วย IBM FlashSystems และ Storage Suite และ 3) Protect: สำรองข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นด้วย Spectrum Protect Plus และปกป้องข้อมูลสำคัญ ด้วยโซลูชัน SafeGuarded Copy
หัวข้อ IT Operation Modernization by AIOps นำเสนอโซลูชัน AIOps เป็นโซลูชันที่นำ Automation และ AI/ML เข้ามาประยุกต์ใช้ในแง่ของ IT Operation หรือ เพื่อวิเคราะห์ แก้ไขปัญหา และการบริหารจัดการ IT Operation ในปัจจุบันซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้น ให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ
ปิดท้ายช่วงท้ายของเซสชั่น ด้วยหัวข้อ Transform Your Business with AI – Industries Use Case เทคโนโลยีเอไอ กับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากสถานการณ์ปัจจุบัน ทำให้องค์กรเกิดความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ ที่ส่งผลมาจากความต้องการของลูกค้า และวิถีการดำเนินงานที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงโครงสร้างของข้อมูล Structure และ Un-structure data ที่เกิดขึ้นมหาศาล การนำเอไอ จึงเข้ามามีส่วนในการเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้อยู่รอดในอนาคต
ส่วนที่สอง Leverage New Ways of Working คือ การเตรียมความพร้อมระบบไอทีรองรับการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานแนวใหม่ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มการทำงานร่วมกันของพนักงาน ไม่ว่าจะทำงานจากที่ไหนก็ตาม
เริ่มหัวข้อแรก คือ AI-Powered Automation and Data with IBM Cloud Paks for Data and Business Automation ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี IBM Cloud Paks เพื่อการบริหารจัดการข้อมูลและขับเคลื่อนระบบธุรกิจได้อย่างอัตโนมัติ พร้อมการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการส่งเสริมให้พนักงานมุ่งเน้นไปยังสิ่งที่สำคัญ โดยมีเครื่องมืออัตโนมัติที่ขับเคลื่อนให้สามารถทำงานรูปแบบใหม่ๆ ได้หลากหลายขึ้น
หัวข้อ Customer Experience Management Platform จัดการข้อมูลลูกค้าครบวงจร ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้า, Loyalty & Personalized Campaign ทำงานบนแพลตฟอร์มดาต้า และปัญญาประดิษฐ์บนเทคโนโลยี IBM Cloud Pak for Data ผ่านเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลของไอบีเอ็ม ที่ให้มุมมองแบบ Single View และเรียลไทม์
หัวข้อ New Normal with Stream Digital Solutions: e-Tax Invoice & Robotics Process Automation ช่วยฝ่ายบัญชีในการออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ลดการสัมผัสเอกสาร ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และที่สำคัญเป็นการจัดทำระบบตามระเบียบข้อกำหนดของกรมสรรพากร และโซลูชัน RPA ที่นำระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ เข้ามาช่วยในการทำงานซ้ำๆ ทำให้โอกาสเกิดข้อผิดพลาดน้อย เพิ่มปริมาณผลงานในเวลาที่รวดเร็ว
หัวข้อ Prescriptive Maintenance Your Enterprise Assets with Artificial Intelligence เพิ่มความโดดเด่นให้ธุรกิจของคุณด้วยกรณีศึกษาจริงจากองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรม ค้นหาว่าลูกค้าเปลี่ยนข้อมูล IoT และเอไอให้เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันสร้างรายได้และปรับปรุงการดำเนินงานของคุณด้วย IBM Maximo Application Suite ได้อย่างไร
หัวข้อ Simplify Your Data Architecture & Management หลายองค์กรในประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถผลักดันโปรเจค Big Data ให้ประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาความยุ่งยากในการรวบรวมข้อมูลมหาศาลจากหลายแหล่ง ความซับซ้อนของการจัดการและบริหารโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลแล้ว G-Able Solution & Service พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์จากไอบีเอ็มจะสามารถเข้ามาช่วยจัดการปัญหานี้
และหัวข้อสุดท้ายของเซสชั่น ระบบอัตโนมัติทางธุรกิจ (Business Automation) แบบครบวงจร: IBM Cloud Pak for Automation โซลูชันแบบครบวงจรสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบอัตโนมัติทางธุรกิจ ช่วยแปลงกระบวนการดำเนินธุรกิจให้เป็นดิจิทัล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยแรงงานดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับ ส่วนที่ 3: Manage Security and Business Resiliency การจัดการความปลอดภัยของระบบไอทีและบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ รองรับเหตุไม่คาดคิดในสภาพแวดล้อมที่ผันผวน
เริ่มต้นด้วยหัวข้อแรก Data Management for The New Journey of Working Culture with IBM เทคโนโลยี Container และ Kubernetes ช่วยรองรับ Cloud Native Application ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำ DevOps ได้อย่างคล่องตัวแล้ว ยังถือเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยปูทางไปสู่ภาพของ Hybrid Cloud และ Multi-Cloud ได้อย่างง่ายและยืดหยุ่นอีกด้วย
หัวข้อ EDA Enterprise Database Appliance: Performance Secure Simplify ด้วยความสามารถและความเสถียรของ IBM Power จึงพัฒนาเครื่อง IBM Power ให้เป็น Enterprise Database Appliance โดยใช้กลไกการทำงานของ DB2 Enterprise ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลพร้อมใช้ ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ใช้งานง่าย ช่วยลดต้นทุน พร้อมมี API ที่มีความยืดหยุ่น
หัวข้อ Modernize and Simplify Your Cloud Backup Solution เทคโนโลยีเพื่อการจัดเก็บข้อมูลแบบ Unstructured Data ที่มีปริมาณมหาศาล ให้ข้อมูลมีความปลอดภัย และพร้อมใช้งาน เข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย สามารถรองรับการรวบรวมสะสมข้อมูลสำหรับงานเอไอได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นง่ายๆ ด้วย Product ICOS (Cloud Object Storage)
หัวข้อ Smoothing Your Road to Security Success ข้อมูลในองค์กรอาจจะไม่ปลอดภัย หากขาดความตระหนักและความเข้าใจที่ถูกต้องของพนักงาน โดยเน้นไปที่การนำนโยบายความปลอดภัย การปฏิบัติและเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อป้องกันสถานการณ์ผิดปกติที่อาจทำให้ข้อมูลลับตกอยู่ในความเสี่ยง อีกทั้งยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วย
หัวข้อ คิดอย่างเทพในการนำ Blockchain มาใช้ในธุรกิจยุคใหม่ โซลูชัน IBM Blockchain for Business เน้นการกระจายข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลแต่ละฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลตามรูปแบบที่กำหนดข้อตกลงในบทบาทของแบบเรียลไทม์ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลและกระบวนการทำงาน เพิ่มความโปร่งใสให้กับข้อมูล แต่ไม่ลดทอนเรื่อง security และ privacy
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในงานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายทันทีที่ https://www.thpartnersolutionssummit.com/ โดยทีมงานขอความกรุณากรอกข้อมูลชื่อบริษัทด้วยชื่อเต็มของหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการจัดการกับข้อมูลการลงทะเบียน #ibmthsummit
document.querySelectorAll(".submitted .username").forEach((ele) => { if (ele.innerText === "sponsored") { ele.innerText = "brandedcontent" } }) |
# เข้าสู่อีคอมเมิร์ซ TikTok ร่วมมือกับ Shopify เพิ่มปุ่มซื้อของ เริ่มในสหรัฐ, อังกฤษ, แคนาดา
TikTok ประกาศความร่วมมือกับ Shopify ทดสอบประสบการณ์ซื้อของบน TikTok โดยผู้ค้าบน Shopify ที่มีบัญชี TikTok For Business จะสามารถเพิ่มแท็บ "Shopping" ลงในโปรไฟล์ TikTok และซิงค์แคตตาล็อกสินค้าเพื่อสร้างหน้าร้านขนาดเล็กบน TikTok ได้ เริ่มทดสอบประสบการณ์ซื้อชองในสหรัฐ, อังกฤษ, แคนาดา
นอกจากสร้างหน้าร้านแล้ว ยังสามารถติดแท็กสินค้าในวิดีโอ และกดเพื่อดูรายการสินค้าได้โดยตรง Shopify และ TikTok เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันมาก่อนแล้ว เริ่มจากเพิ่มความสามารถให้คนขายของบน Shopify สร้างแคมเปญการตลาด TikTok ได้โดยตรงจากแดชบอร์ดของ Shopify
Shopify บอกด้วยว่า มีผู้ค้าที่อยากขายของบน TikTok เพิ่มขึ้น หลังจากร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ TikTok ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ถึงกุมภาพันธ์ 2021 มีการติดตั้งผ่านช่องทางโซเชียลคอมเมิร์ซของ Shopify เพิ่มขึ้น 76%
Instagram ก็มีแนงทางโซเชียลคอมเมิร์ซมาก่อนแล้วประสบการณ์ซื้อของบน Instagram คือสามารถจ่ายได้บนแพลตฟอร์ม ต่างจาก TikTok ที่ลิงค์หน้าการจ่ายเงินไปยัง Shopify
ที่มา - TechCrunch |
# ชายคนหนึ่งอ้างเป็นเจ้าหน้าที่แอปเปิลหลอกล่อขอรหัส iCloud ขโมยรูปกว่าหกแสน มีภาพเปลือยด้วย
Hao Kuo Chi อายุ 40 ปีจากเมือง La Puente ในลอสแองเจลิส สารภาพว่าได้บุกรุกเข้าไปใน Apple iCloud หลายพันบัญชี และทำการรวบรวมรูปภาพและวิดีโอส่วนตัวมากกว่า 620,000 รูป รวมถึงภาพเปลือยด้วย เขาต้องโทษจำคุก 5 ปี
วิธีการคือ เขาแอบอ้างว่าตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ Apple ส่งอีเมลไปหลอกล่อเหยื่อให้มอบ Apple ID และรหัสผ่านแก่เขา โดยเขาสามารถเข้าถึงภาพถ่ายและวิดีโอของเหยื่ออย่างน้อย 306 รายทั่วประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
นอกจากนี้ เขายังสร้างชื่อในออนไลน์ด้วยชื่อ icloudripper4you อ้างว่าเป็นผู้มีความสามารถบุกรุกเข้าบัญชี iCloud ขโมยรูปและวิดีโอออกมาได้ เอกสารของศาล FBI ระบุที่อยู่ Gmail สองแห่งที่ Chi ใช้เพื่อหลอกล่อเหยื่อให้เปลี่ยนข้อมูลการลงชื่อเข้าใช้ iCloud ทั้งสองบัญชีรวบรวมอีเมลมาได้มากกว่า 500,000 ฉบับ และมีอีเมล 4,700 ฉบับที่ระบุรหัสผ่านมาให้เขา
ที่มา - Los Angeles Times |
# Grafana ระดมทุนรอบใหม่ มูลค่าแตะ 3 พันล้านดอลลาร์ รวยแล้วใจดี ขยายแพ็กเกจฟรีให้
Grafana Labs บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แดชบอร์ด Grafana และ Prometheus ประกาศระดมทุน Series C มูลค่า 220 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3 พันล้านดอลลาร์แล้ว
Grafana เพิ่งระดมทุน Series A ในปี 2019 และ Series B ในปี 2020 มูลค่าบริษัทเพิ่มถึง 10 เท่าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานเกือบ 500 คนใน 40 ประเทศทั่วโลก
การระดมทุนรอบนี้ทำให้ Grafana ประกาศ "อัพเกรด" แพ็กเกจการใช้งานแบบฟรี เพิ่มจำนวนแดชบอร์ดเป็น 3 อัน, ปริมาณสตอเรจเก็บ log เพิ่มอีก 50GB และขยายเมทริก Prometeus เพิ่มเป็น 10,000 ซีรีส์
ที่มา - Grafana |
# Airbnb ช่วยจัดหาที่พักทั่วโลกฟรี ให้ผู้อพยพออกจากอัฟกานิสถาน 20,000 คน
Airbnb ประกาศช่วยสนับสนุนที่พักชั่วคราวให้แก่ผู้อพยพชาวอัฟกานิสถาน 20,000 คนทั่วโลก โดย Airbnb จะออกเงินค่าเช่าบ้านให้ผ่านโครงการไม่แสวงหากำไร Airbnb.org และเงินจาก Brian Chesky ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัท
Airbnb.org จะร่วมกับหน่วยงานด้านการอพยพ เพื่อดูว่าผู้อพยพชาวอัฟกันย้ายไปยังประเทศไหนบ้าง และจัดหาที่พักให้ชั่วคราวในประเทศนั้นๆ เพื่อให้มีเวลาปรับตัวก่อนเริ่มต้นชีวิตใหม่ บริษัทบอกว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้จัดหาที่พักกับผู้อพยพแล้ว 165 คนที่เดินทางเข้ามายังสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ Airbnb.org ได้หาที่พักให้ผู้อพยพมาแล้ว 25,000 คนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ที่มา - Airbnb |
# บริการเกมสตรีมมิ่ง xCloud ลงคอนโซล Xbox Series X และ Xbox One ปลายปีนี้
ไมโครซอฟท์ประกาศนำบริการเกมสตรีมมิ่งของตัวเอง xCloud (ชื่ออย่างเป็นทางการคือ Xbox Cloud Gaming) มาลงคอนโซลของตัวเองทั้งรุ่นใหม่ Xbox Series X|S และรุ่นเก่า Xbox One ช่วงปลายปีนี้
ก่อนหน้านี้ xCloud เปิดให้เล่นบนอุปกรณ์พกพาที่ประมวลผลเกมแรงๆ ไม่ไหว เช่น Android, iOS ตามด้วยพีซีผ่านเว็บเบราว์เซอร์ และยังประกาศว่าจะไปลงสมาร์ททีวีในอนาคต
การนำเกมมาลงคอนโซลรุ่นเก่า Xbox One มีประโยชน์คล้ายๆ กันคือเจ้าของ Xbox One สามารถเล่นเกมเจนใหม่จาก Xbox Series X|S ได้ผ่านคลาวด์ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ ขอแค่จ่ายค่าสมาชิก Game Pass Ultimate เท่านั้น
ส่วนผู้เล่น Xbox Series X|S ที่มีเกมเหมือนกันทุกประการ (แค่เลือกว่าเป็นเวอร์ชันดาวน์โหลดหรือสตรีมมิ่ง) อาจไม่เห็นประโยชน์มากเท่า Xbox One แต่ก็ได้เรื่องโหลดเร็วขึ้น ไม่ต้องรอดาวน์โหลด และไม่เปลืองสตอเรจในเครื่อง
ที่มา - Xbox |
# Waymo เริ่มทดสอบบริการแท็กซี่ไร้คนขับในซานฟรานซิสโก
Waymo ประกาศขยายการทดสอบบริการแท็กซี่ไร้คนขับไปยังเมืองซานฟรานซิสโก หลังจากทดสอบแบบเดียวกันในเมืองฟีนิกซ์มาตั้งแต่ปี 2017 จนกระทั่งเปิดบริการได้จริงในปี 2020
การทดสอบครั้งนี้ยังเป็นการทดสอบวงปิด โดยผู้ที่ต้องการทดสอบต้องสมัครเข้าโครงการ Trusted Tester ผ่านแอป Waymo One เสียก่อน และแม้รถจะไม่มีคนขับ แต่ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญประจำรถ (autonomous specialist) นั่งอยู่ด้วยเพื่อเก็บความคิดเห็น
Waymo ปล่อยรถในเมืองซานฟรานซิสโก้มาก่อนแล้ว แต่เปิดให้พนักงานของตัวเองใช้งานเท่านั้น
ที่มา - Waymo |
# Cisco และ Boston Consulting สำรวจการใช้คลาวด์ในอาเซียน พบอินโดนีเซียเติบโตสูง แต่กฎหมายจำกัดเขตแดนข้อมูลยังน่ากังวล
ซิสโก้ร่วมมือกับ Boston Consulting Group (BCG) ออกรายงานภาพคาดการณ์การใช้งานคลาวด์ในภูมิภาคอาเซียน และเอเชียแปซิฟิก (APJC) ทำนายว่าอัตราการใช้จ่ายระบบไอทีในภูมิภาคนี้จะเติบโตปีละ 8% แต่การใช้งานคลาวด์น่าจะเติบโตสูงกว่า 20% จนกลายเป็นการซื้อบริการคลาวด์ 40% ของการซื้อระบบไอทีทั้งหมด
รายงานคาดว่าประเทศไทยจะมีรายจ่ายระบบไอทีโดยรวม 4 พันล้านดอลลาร์ เติบโตปีละ 8% ขณะที่อัตราการเติบโตฝั่งคลาวด์จะเป็น 19% ชาติที่มีอัตราการใช้คลาวด์ค่อนข้างเร็วคืออินโดนีเซียและมาเลเซีย ที่อัตราการเติบโตน่าจะอยู่ที่ 25% และ 23% ตามลำดับ
ในงานเปิดตัวรายงานฉบับนี้ มี Dr. Simon Baptist นักเศรษฐศาสตร์จาก Economist Intelligence Unit ร่วมให้ความเห็น โดยระบุว่าเหตุการณ์ COVID-19 ตอนนี้กลับมีการลงทุนกลับขึ้นมาค่อนข้างเร็วหลังวิกฤติเศรษฐกิจ โดยปัจจัยมีหลายอย่าง ทั้งการทำงานจากที่บ้าน, การปรับกระบวนการขนส่ง, การศึกษา, และการแพทย์ แต่ประเด็นหนึ่งที่ Baptist พูดถึงคือการที่รัฐบาลต่างๆ มีกฎหมายหรือระเบียบในการเก็บข้อมูลไว้ในท้องถิ่น (data localisation) ซึ่งเป็นตัวผลักดันให้เอกชนต้องลงทุนระบบไอที แต่ก็อาจจะทำให้กระทบต่อแผนการใช้คลาวด์ของเอกชน
Naveen Menon ประธานซิสโก้ในภูมิภาคอาเซียนระบุว่าธุรกิจต่างๆ ตอนนี้มีมักไม่ได้ใช้คลาวด์จากผู้ให้บริการรายเดียว แต่ใช้ผู้ให้บริการคลาวด์เฉลี่ยมากกว่า 20 รายในบริการแบบต่างๆ ทั้งแบบ SaaS จนถึง IaaS การทำให้ระบบไอทีที่มีผู้ให้บริการจำนวนมากนี้อยู่ในความควบคุมจึงต้องำนึงถึงความปลอดภัย ทำให้องค์กรมองเห็นการใช้งานระบบไอทีอย่างทั่วถึง (observability) และมีการควบคุมความปลอดภัย
ที่มา - งานแถลงข่าวรายงาน The Future of Cloud in Asia Pacific |
# Starlink จัดส่งอุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมแล้ว 1 แสนชุด
Elon Musk เปิดเผยผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่า Starlink บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมของ SpaceX ได้จัดส่งชุดอุปกรณ์รับสัญญาณไปแล้วครบ 1 แสนชุด
ในทวีตถัดมา Musk ระบุประเทศที่ Starlink ให้บริการทั้งหมด 14 ประเทศ โดยเพิ่มเติมว่าในหลายประเทศนั้น บริษัทยังอยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาตให้บริการ ซึ่งก็หวังว่าจะได้ให้บริการทั่วโลกเร็ว ๆ นี้
Starlink เริ่มเปิดรับสมัครผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตดาวเทียมกลุ่มทดลอง ตั้งแต่ปลายปี 2020 มีค่าใช้บริการรายเดือน 99 ดอลลาร์ และไม่รวมค่าอุปกรณ์อีก 499 ดอลลาร์ ซึ่งได้รับความสนใจทั้งจากกลุ่มลูกค้าที่อยากทดลอง และกลุ่มลูกค้าชายขอบที่อินเทอร์เน็ตเข้าไม่ถึง
ยังมีข้อมูลน่าสนใจว่า Starlink เคยระบุเมื่อเดือนกรกฎาคมว่ามีผู้ใช้งานแล้ว 90,000 ราย เท่ากับว่าบริษัทใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ เพิ่มลูกค้ามาได้อีก 10,000 รายเลยทีเดียว
ที่มา: Engadget |
# Unity ซื้อบริษัท OTO ใช้ AI วิเคราะห์น้ำเสียงใน Voice Chat แก้ปัญหา Toxic ในหมู่เกมเมอร์
Unity ยังเดินหน้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง หลังซื้อซอฟต์แวร์สร้างต้นไม้ SpeedTree และรีโมทเดสก์ท็อป Parsec ล่าสุดประกาศซื้อ OTO บริษัทวิเคราะห์เสียงคุยแชทด้วย AI เพื่อแก้ปัญหาการกลั่นแกล้ง ดูถูกเหยียดหยามในหมู่เกมเมอร์
Unity บอกว่าวงการเกมมัลติเพลเยอร์มีปัญหาพฤติกรรมของผู้เล่นมานานแล้ว โดยอ้างสถิติว่า 68% ของผู้เล่นเกมมัลติเพลเยอร์เคยพบปัญหาเหล่านี้ โซลูชันของบริษัท OTO เรียกว่า acoustic analysis เป็นการวิเคราะห์น้ำเสียง (acoustic intonation) ที่ไม่ขึ้นกับภาษา และทำงานได้เร็วกว่า speech recognition ถึง 100 เท่า (หน้าเดโมเผื่อใครอยากลองเล่น)
เทคโนโลยีของ OTO จะถูกผนวกเข้ากับบริการ Unity Vivox สำหรับแชท-คุยเสียงในเกม ที่ Unity ขายเป็นบริการให้นักพัฒนาเกมอีกที (PUBG, LoL, Valorant เป็นลูกค้าที่ใช้ Vivox) โดย Unity ระบุว่าจะเปิดให้นักพัฒนาเกมเข้าถึงเทคโนโลยีของ OTO เพื่อวิเคราะห์เสียงของเกมเมอร์ได้
ที่มา - Unity |
# JD.com ไตรมาสล่าสุด รายได้เติบโต 26% - ธุรกิจ Logistics เข้าตลาดหุ้นแล้ว
JD.com รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ปี 2021 มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 26.2% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนเป็น 39,308 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 46.6 ล้านดอลลาร์
Sandy Xu ซีเอฟโอ JD.com กล่าวว่าไตรมาสนี้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี แม้ในปีที่แล้วจะมีฐานเปรียบเทียบที่สูง กิจกรรมลดราคา 618 (วันที่ 18 มิถุนายน) ก็ช่วยเพิ่มผู้ใช้งานใหม่ถึง 32 ล้านคน บริษัทยังคงดำเนินงานตามแผนกระจายรายได้หลายทาง ในธุรกิจใหม่ อาทิ ซัพพลายเชน และให้บริการเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน
ในไตรมาสที่ผ่านมา JD Logistics ธุรกิจในเครือของ JD.com ได้เข้าตลาดหุ้นฮ่องกง โดยจะนำเงินจากไอพีโอมาลงทุนเครือข่ายซัพพลายเชนต่อไป
ที่มา: JD.com |
# แอปเปิลสแกนภาพโป๊เด็กบน iCloud Mail มาตั้งแต่ปี 2019 แต่ไม่ได้สแกน iCloud Photos
หลังจากแอปเปิลประกาศสแกนภาพหากภาพโป๊เด็ก หรือ CSAM ทาง 9to5mac ก็ไปค้นหน้าประกาศ Child Safety เวอร์ชั่นเดิมของแอปเปิลแล้วพบว่าแอปเปิลพูดถึงระบบตรวจจับภาพล่วงละเมิดเด็กมาก่อนหน้านี้แล้ว และหลังจากสอบถามไปยังแอปเปิลก็ได้คำตอบว่าก่อนหน้านี้แอปเปิลสแกนเฉพาะ iCloud Mail และข้อมูลอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2019
ประกาศเดิมของแอปเปิลเป็นเพียงประกาศย่อหน้าเดียว โดยระบุว่าระบบทำงานแบบเดียวกับการสแกนอีเมลสแปม และหากพบก็จะปิดบัญชีผู้ใช้ โดยไม่ได้พูดถึงการแจ้งเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
แนวทางนี้ทำให้เรารู้ว่าแอปเปิลมีตัวสแกนข้อมูลในฝั่งเซิร์ฟเวอร์อยู่แล้ว แต่ตัดสินใจเลือกที่จะย้ายตัวสแกนนี้มาอยู่ในอุปกรณ์ผู้ใช้เพื่อสแกนภาพก่อนส่งขึ้น iCloud Photos
ที่มา - 9to5mac |
# เปิดตัว Dyson V12 Detect Slim เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รุ่นแรกที่มีเลเซอร์ตรวจจับฝุ่น ราคาเริ่มต้น 21,900 บาท
Dyson เปิดตัวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ Dyson V12 Detect Slim หัวแปรงดูดฝุ่นมีไดโอดเลเซอร์สีเขียว ช่วยฉายให้เห็นฝุ่นที่มองเห็นด้วยตาเปล่าได้ยาก เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น หัวแปรงออกแบบใหม่ แถบแปรงเป็นทรงกรวย แบบ anti-tangle hair screw ลดการติดพันของเส้นผมและเส้นขนต่างๆ
ที่หัวแปรงยังมีเซ็นเซอร์ Acoustic Piezo ที่จะใช้เส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ตรวจจับและคำนวณจำนวนอนุภาคฝุ่นที่เครื่องกำลังดูดอยู่ถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที และไปแสดงขนาดและปริมาณฝุ่นที่เครื่องดูดได้บนจอ LCD
Dyson V12 Detect Slim ใช้ระบบการกรองของ Dyson ดักจับอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ 99.99% รวมถึงมีเทคโนโลยีไซโคลนของ ดูดฝุ่นได้ลึกขึ้น และเก็บกักฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกลับออกมาด้านนอก
Dyson V12 Detect Slim วางแล้ววันนี้ มีสามรุ่นคือ Fluffy แถม 1 หัวดูดทำความสะอาดและ 5 อุปกรณ์เสริม ราคา 21,900 บาท รุ่น Total Clean มีหัวทำความสะอาดไดเร็คไดรฟ์สำหรับพรม เพิ่มเข้ามา ราคา 24,900 บาท และ รุ่น Absolute Extra มีทุกอย่างของรุ่นก่อนหน้า เพิ่มแท่นวางแบบตั้งพื้น และแบตเตอรี่เสริม ราคา 28,900 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Dyson.co.th
ที่มา - จดหมายประชาสัมพันธ์ |
# เปิดตัว TikTok Effect Studio คนนอกสร้างเอฟเฟกต์ AR ได้เหมือน Instagram, Snapchat
TikTok เปิดตัว TikTok Effect Studio พื้นที่ให้นักพัฒนาหรือคนนอกเข้ามาสร้างเอฟเฟกต์ AR ใช้งานบนแพลตฟอร์มได้ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่ Instagram, Snapchat ทำ
TikTok Effect Studio ยังอยู่ในขั้นทดลอง เปิดเว็บไซต์รับนักพัฒนาที่สนใจเข้าร่วม เริ่มเปิดรับในบางประเทศ รวมสหรัฐฯด้วย
การสร้างแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นเพื่อให้สามารถแข่งขันกับเจ้าใหญ่ที่ทำมาก่อนได้ และการสร้างเอฟเฟกต์เพื่อใช้งานสนุกๆ ก็เป็นที่นิยมมากในโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น Snap ลงทุน 3.5 ล้านดอลลาร์เพื่อการสร้างเลนส์ Snapchat AR ส่วน Facebook ก็ขยายแพลตฟอร์ม Spark AR ไปสู่ผู้สร้างกว่า 600,000 รายใน 190 ประเทศ ถือเป็นแพลตฟอร์ม AR บนมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว
ที่มา - TechCrunch |
# Google Meet เพิ่มฟีเจอร์ดักจับเสียงสะท้อนขณะประชุม แจ้งเตือนคนที่ทำให้เกิดเสียงสะท้อน
หนึ่งในปัญหายอดฮิตยุคประชุมออนไลน์คือ เสียงไม่ออกและเสียงสะท้อนรบกวนคนอื่น ปัญหาข้อหลังเกิดจากเสียงที่ออกลำโพงวนไปเข้าไมโครโฟนอีกครั้ง แต่เมื่อเจ้าของอุปกรณ์ไม่รู้ตัวว่าทำให้เกิดเสียงสะท้อน (ที่ทุกคนในห้องได้ยิน) คนอื่นๆ จึงมักต้องทนฟังไปสักระยะหนึ่ง กว่าจะรู้ตัวและแก้ปัญหาเสียงสะท้อนได้
Google Meet ประกาศแก้ปัญหานี้โดยเพิ่มฟีเจอร์ echo detection ตรวจจับเสียงสะท้อนระหว่างการสนทนา แล้วขึ้นข้อความเตือนคนที่เป็นสาเหตุของเสียงสะท้อน
ฟีเจอร์นี้เปิดใช้เป็นดีฟอลต์ใน Google Meet โดยทยอยเริ่มเปิดใช้กับผู้ใช้ทีละกลุ่มแล้ว
ที่มา - Google, 9to5google |
# คลาวด์ไม่ใช่ของใหม่แล้ว Amazon EC2 ฉลองอายุครบ 15 ปี
Amazon EC2 หนึ่งในบริการคลาวด์คอมพิวเตอร์ยุคแรกที่สุด (ตัวแรกจริงๆ คือ S3 ออกเร็วกว่ากัน 5 เดือน) มีอายุครบรอบ 15 ปีแล้วในเดือนสิงหาคม 2021
EC2 เปิดตัวครั้งแรกด้วยฟีเจอร์ที่ค่อนข้างจำกัดมาก (ในยุคนี้) เช่น ไม่มีสตอเรจสำหรับเก็บข้อมูลถาวร มีอายุเท่ากับ instance นั้นๆ, ไม่มี block storage, ต้องเก็บ root disk image (AMI) ลงใน S3 แทน, มี instance ให้เลือกเพียงประเภทเดียว (ตั้งชื่อในภายหลังว่า m1.small), คิดราคาเป็นรายชั่วโมง แต่เมื่อเปิดตัวก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยคลาวด์ที่ AWS กลายเป็นผู้นำตลาด และทยอยพัฒนาฟีเจอร์อื่นๆ ตามมาในภายหลัง
ที่มา - AWS Blog |
# ดิสนีย์อยากระงับข้อพิพาทกับ Scarlett Johansson จากการฉาย Black Widow ลง Disney+
มีความคืบหน้าคดีฟ้องร้องโดย Scarlett Johansson นักแสดงนำหนัง Black Widow ฟ้องร้องบริษัทดิสนีย์ จากการสตรีมหนังใน Disney+ ทำให้สูญเสียผลประโยชน์ในฐานะนักแสดง โดยทนายความของดิสนีย์ร้องต่อศาลเพื่อระงับข้อพิพาทหรือ อนุญาโตตุลาการ
เนื้อหาส่วนหนึ่งในคำร้องของทนายความดิสนีย์ระบุว่าตามสัญญาระบุว่า ตัวหนังจะต้องมีการฉายในโรงหนังไม่ต่ำกว่า 1,500 จอ ซึ่งหนังเรื่องนี้เปิดตัวจริงมากกว่า 9,600 จอในสหรัฐอเมริกาและกว่า 30,000 จอทั่วโลก นอกจากนี้ ทนายความของดิสนีย์ยังมีปัญหากับคำกล่าวอ้างของ Johansson ที่ว่าเธอสูญเสียรายได้จากโมเดลฉายหนังคู่กับสตรีมมิ่ง ซึ่งไม่ได้ระบุแน่ชัดในสัญญา
ยังไม่รู้แน่ชัดว่าฝั่ง Johansson จะยอมรับการระงับข้อพิพาทหรือไม่ แต่ The Hollywood Reporter รายงานอ้างคำสัมภาษณ์ทนายความ John Berlinski ว่า Marvel ให้สัญญาว่าจะฉาย Black Widow ในโรงทั่วไปเหมือนกับหนังเรื่องอื่นๆ และยืนยันว่า Disney+ จะไม่เข้ามากินส่วนแบ่งเพื่อหวังเพิ่มยอดผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม ทางทนายความตั้งตารอจะยื่นหลักฐานเพื่อพิสูจน์คดีนี้ต่อไป
คดีนี้เป็นที่ถกเถียงในวงกว้าง ที่ไปไกลกว่าการเปรียบเทียบประสบการณ์ระหว่างดูหนังในโรงและสตรีมมิ่ง แต่ยังรวมถึงรายได้นักแสดงและทีมงานผู้สร้างหนังด้วย
ที่มา - The Verge |
# ตัวติดตั้ง Razer Synapse มีบั๊ก ทำให้ผู้ใช้ Windows ได้สิทธิ์ SYSTEM เพียงแค่เสียบเมาส์เข้าเครื่อง
นักวิจัยความปลอดภัยที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า jonhat เปิดเผยช่องโหว่ของตัวติดตั้ง Razer Synapse ที่จะติดตั้งผ่านระบบ plug-and-play ของวินโดวส์หลังเสียบเมาส์หรือคีย์บอร์ดเข้ากับ USB ในคอมพิวเตอร์ที่รัน Windows 10/11 ทำให้ผู้ใช้สามารถรันคำสั่งในสิทธิ์ SYSTEM ที่เป็นสิทธิ์สูงสุดได้ แม้จะเป็นเพียงผู้ใช้ธรรมดาในระบบ
ตัวติดตั้ง Razer Synapse มีชื่อไฟล์ว่า RazerInstall.exe นั้นได้รับสิทธิ์ระดับ SYSTEM อยู่แล้วเนื่องจากเป็นไดร์เวอร์ทางการของผู้ผลิต อย่างไรก็ดีระหว่างติดตั้งจะมี dialog ขึ้นมาถาม folder สำหรับติดตั้งโปรแกรม หากผู้ใช้กด SHIFT และคลิกขวา จะมีเมนูให้เลือกเปิด PowerShell ได้ แนะ PowerShell ก็จะได้สิทธิ์ SYSTEM ด้วยเช่นกัน
การโจมตีช่องโหว่นี้ผู้โจมตีต้องอยู่หน้าเครื่องโดยตรงเท่านั้น แต่ก็มีคอมพิวเตอร์ในองค์กรจำนวนมากที่จำกัดสิทธิ์ผู้ใช้ ในกรณีนี้หากผู้ใช้นำเมาส์ Razer ไปเสียบก็สามารถเจาะระบบได้
jonhat ระบุว่าตอนแรกไม่สามารถติดต่อ Razer ได้จึงออกมาทวีตเปิดเผย แต่ภายหลังทาง Razer ก็ติดต่อมาและกำลังรีบแก้ไขช่องโหว่นี้
ที่มา - Bleeping Computer |
# ข้อมูลหนังสือเดินทางของผู้เดินทางเข้าไทยกว่า 106 ล้านรายการรั่วไหล ดำเนินการแก้ไขแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ Bob Diachenko เปิดเผยการค้นพบคลัสเตอร์ของ Elasticsearch ที่สามารถเข้าถึงได้จากอินเตอร์เน็ต โดยภายในมีข้อมูลของหนังสือเดินทางของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 106 ล้านรายการ
อ้างอิงจากการตรวจสอบโดยผู้ค้นพบ ข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อมูลที่พบได้ในหนังสือเดินทาง การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าข้อมูลโดยส่วนใหญ่นั้นเป็นข้อมูลของชาวไทยและอาจมีขอบเขตของข้อมูลครอบคลุมการเดินทางเข้าประเทศย้อนหลังถึง 10 ปี
การค้นพบดังกล่าวถูกเผยแพร่ในบัญชีทวิตเตอร์ของผู้ค้นพบในวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมาพร้อมกับระบุถึงการประสานงานกับ ThaiCERT และการแจ้งไปยังกองปราบปรามทันที เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยนี้ถูกรายงานผ่านบัญชีทวิตเตอร์ของผู้ค้นพบอีกครั้งว่าได้รับการดำเนินการแล้วหลังจากเวลาผ่านไปไม่ถึง 1 ชั่วโมง
ในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่มาของระบบเก็บข้อมูลดังกล่าว และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลชุดนี้จะถูกเข้าถึงไปก่อนแล้วโดยผู้ไม่ประสงค์ดี
ที่มา: @MayhemDayOne (1, 2, 3) |
# ยอดจอง Galaxy Z Flip 3 และ Z Fold 3 แซงยอดขายโทรศัพท์ตระกูล Z ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา
Samsung ออกแถลงการแสดงความขอบคุณที่มีผู้สนใจ Galaxy Z Fold 3 และ Z Flip 3 อย่างมาก และปัจจุบัน ยอดสั่งจองของทั้ง Galaxy Z Fold 3 และ Z Flip 3 รวมกัน แซงยอดขายรวมของมือถือตระกูล Z ทั้ง Z Fold 2 และ Z Flip ในปีที่ผ่านมาแล้ว
สื่อจากประเทศเกาหลีใต้ The Korea Herald รายงานตัวเลขเพิ่มเติม อ้างอิงแหล่งข่าวไม่เปิดเผยที่มา ระบุว่ายอดสั่งจองปัจจุบัน รวมทั้งสองรุ่น สูงถึง 450,000 เครื่อง และอาจสูงสุดได้ถึง 600,000-800,000 เครื่อง
Galaxy Z Fold 3 และ Z Flip 3 มีการปรับปรุงหลายสิ่งจากรุ่นอื่น เช่นกล้องหน้าใต้จอ และหน้าจอประหยัดพลังงาน บน Z Fold 3 หน้าจอที่สว่างขึ้นของ Z Flip 3 อัตรารีเฟรชหน้าจอที่ 120Hz และฟังก์ชั่นกันน้ำ IPX8
ด้านราคาก็ปรับลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน ปัจจุบัน Z Flip 3 ราคาเริ่มต้นเหลือ 34,900 บาท จาก 44,990 บาทในรุ่นก่อน พอๆ กับมือถือเรือธงหลายๆ รุ่นแล้ว ส่วน Z Fold 3 แม้จะราคายังสูงถึง 57,900 บาท แต่ก็ลดลงจากรุ่นก่อนที่เริ่มต้น 69,990 บาท ราคาที่ลดลงและฟีเจอร์ที่เพิ่มขึ้นนี้ น่าจะดึงดูดผู้ใช้ได้มากขึ้นพอสมควร
ที่มา - XDA-Developers, The Korea Herald |
# อินเทลชนะโครงการ ก.กลาโหมสหรัฐ อุดหนุนเงินสร้างโรงงานผลิตชิปบนแผ่นดินสหรัฐ
อินเทล ชนะการคัดเลือกโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ (Department of Defense) ที่ต้องการสร้างโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์บนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา
โครงการนี้มีชื่อว่า Rapid Assured Microelectronics Prototypes - Commercial (RAMP-C) เป็นการผลักดันให้เกิด ecosystem ของการผลิตชิปเชิงพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา ตามนโยบายของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ต้องการดึงโรงงานผลิตชิปกลับมายังสหรัฐ แก้ปัญหาทั้งความมั่นคงเรื่องซัพพลายเชน และแก้ปัญหาชิปขาดตลาด
แนวคิดของโครงการ RAMP-C คือ กระทรวงกลาโหมสหรัฐต้องการจ้างโรงงานผลิตชิปที่อยู่บนแผ่นดินสหรัฐ (on-shore) ที่สามารถผลิตชิปขนาดเล็กกว่า 7 นาโนเมตร ซึ่งปัจจุบันไม่มีโรงงานผลิตชิปแบบนี้อยู่ในสหรัฐเลย เหตุเพราะบริษัทเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติอเมริกันเกือบทั้งหมดเป็นแบบ fabless แล้ว ส่วนโรงงานที่มีเหลืออยู่ ก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีก้าวหน้าที่สุดในโลก อย่างโรงงานของอินเทลก็เองยังทำได้แค่ 10 นาโนเมตรเท่านั้น
ทางออกจึงเป็นการสนับสนุนเงินจากภาครัฐ เพื่อให้เกิดโรงงานผลิตชิปเชิงพาณิชย์ลักษณะนี้ ซึ่งอินเทลเป็นผู้ชนะของโครงการ RAMP-C นี้
อินเทลจะใช้ธุรกิจโรงงานรับจ้างผลิตชิป Intel Foundry Services มารับงานนี้ โดยจับมือกับพาร์ทเนอร์คือ IBM, Cadence, Synopsys และใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับอังสตรอม Intel 18A ตามที่เคยประกาศไว้
ภาพโรงงานใหม่ล่าสุดของอินเทล Fab 42 ที่แอริโซนา
ที่มา - Intel |
# [ลือ] ประชุมบิ๊กบอส ไบเดนนัดถกความปลอดภัยไซเบอร์กับซีอีโอแอปเปิล, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน
Bloomberg รายงานว่า โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมจัดประชุมคุยประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์กับซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญบนโลกไอทียุคใหม่ กับ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิล, Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ และ Andy Jassy ซีอีโอแอมะซอน ซึ่ง กูเกิล, IBM, JPMorgan Chase และบริษัทพลังงาน Southern Company ก็ได้รับเชิญด้วย
การประชุมจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 25 ส.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทต่างๆ กำลังปรับปรุงความปลอดภัยเพื่อรับมือภัยไซเบอร์ หลังเกิด ransomware โจมตีใหญ่ในหลายๆ ครั้งตั้งแต่กรณี SolarWinds, Kaseya VSA, Colonial Pipeline จนกลายเป็นวาระสำคัญแห่งชาติ ยกระดับเท่ากับภัยก่อการร้าย
ที่มา - The Verge |
# Facebook จะนำวิดีโอคอลมาไว้บนแอปหลัก ไม่ต้องกระโดดข้ามแอปไป Messenger
Bloomberg รายงาน Facebook ทดสอบนำวิดีโอคอลมาไว้บนแอปหลัก หลังจาก Facebook Messenger เป็นตัวใช้งานวิดีโอคอลมาตลอด เพื่อลดระยะเวลาการกระโดดข้ามไปมาระหว่างแอปหลักและ Messenger การทดสอบเริ่มที่สหรัฐและในบางประเทศ ซึ่งภายหลัง Facebook ยืนยันแล้วว่ากำลังทดสอบจริง
ครั้งหนึ่ง Facebook และ Messenger เคยอยู่ร่วมกันในแอปเดียว จนกระทั่งในปี 2014 Facebook ทำ Messenger เป็นแอปแยก ทำให้ผู้ใช้ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มเพื่อใช้งานแชท
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่การรวม Messenger ลงใน Facebook ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในแบบเดียวกับที่รวมข้อความของ Messenger และ Instagram เข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ทั้งสองแพลตฟอร์มใหญ่แยกขาดจากกันยากขึ้นไปอีก หลังโดนเพ่งเล็งเรื่องการผูกขาดโซเชียลมีเดีย และการฟ้องร้องผูกขาดจาก FTC กรรมการด้านการค้าของสหรัฐ
ที่มา - Bloomberg, Mac Rumors |
# AI ตรวจจับเสียงปืนส่งชายคนหนึ่งเข้าคุกข้อหาฆาตกรรม พบว่าระบบตรวจจับผิดพลาดในภายหลัง
Michael Williams วัย 65 ปีถูกตัดสินจำคุกข้อหาฆาตกรรม Safarian Herring วัย 25 ปี และหลักฐานหนึ่งที่บ่งชี้คือ AI ตรวจจับเสียงปืนของบริษัท ShotSpotter
จากคำให้การของ Williams ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในชิคาโกช่วงเดือน พ.ค. ปี 2020 Williams ขับรถไปซื้อบุหรี่และเจอกับ Herring และเขาจำได้ว่า Herring เป็นคนในละแวกบ้านจึงรับขึ้นรถมาด้วยกัน แต่แล้วก็มีรถอีกคันขับเข้ามา คนที่อยู่ในรถคันนั้นหยิบปืนมายิง Herring และ Williams พา Herring ไปโรงพยาบาลซึ่งภายหลังเขาเสียชีวิตจากพิษบาดแผล
Williams ลงเอยด้วยการถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม โดยมีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้คือ AI ตรวจจับเสียงปืนของบริษัท ShotSpotter บริษัทจัดการระบบเสียงในสหรัฐฯ ตัว machine-learning ตรวจจับกล้องได้ว่าเป็นเสียงปืน ทางบริษัทได้แจ้งเรื่องนี้อต่อตำรวจ ในคดีนี้ ตำรวจไม่พบอาวุธ ไม่ได้ระบุแรงจูงใจ และ Williams เคยมีประวัติอาชญากรรมสมัยยังอายุน้อย
ภาพจาก ShotSpotter
แต่เรื่องเริ่มพลิกผันเมื่อทนายความของ Williams คือ Lisa Boughton และ Brendan Max ชี้ว่า ShotSpotter ได้หยิบเอาเสียงคล้ายดอกไม้ไฟที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งไมล์ ซึ่งพนักงาน ShotSpotter ได้จัดประเภทของเสียงใหม่ในภายหลัง และพนักงานคนนั้นเคยทำงานให้กับกรมตำรวจชิคาโก อย่างไรก็ตาม ShotSpotter ยืนยันว่าไม่ได้แก้ไขข้อมูลใดๆ เพื่อสนับสนุนคดีของตำรวจ
ผู้พิพากษาจึงเพิกถอนรายงานของ ShotSpotter และหยุดคดีนี้ไว้เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ
ที่มา - The Register |
# Xiaomi เลิกใช้แบรนด์ Mi ทำตลาด เหลือแค่ Xiaomi อย่างเดียว เริ่มจาก Xiaomi Mix 4
Xiaomi ประกาศเลิกใช้แบรนด์ย่อย Mi ทำตลาด โดยมือถือรุ่นแรกที่เปลี่ยนแปลงคือ Xiaomi Mix 4 ที่ชื่อรุ่นไม่มีคำว่า Mi อีกแล้ว ส่วนสินค้าในอนาคตก็จะไม่มีคำว่า Mi เช่นกัน
ในประเทศจีน Xiaomi ไม่ใช้คำว่า Mi ในชื่อรุ่นมาได้สักพักแล้ว (เช่น Mi 11 ก็ใช้ชื่อว่า Xiaomi 11) การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะสะท้อนรูปแบบการตั้งชื่อรุ่นในจีนด้วยเช่นกัน
ที่มา - xda |
# Play Store จะแสดงเรตติ้งและรีวิวของแอป แยกตามประเทศของผู้ใช้งาน มีผลพฤศจิกายนนี้
กูเกิลแจ้งนักพัฒนาบน Android เรื่องการปรับวิธีแสดงผลเรตติ้ง (ดาว) และรีวิวของแอปใน Play Store กับผู้ใช้งาน โดยอิงข้อมูลพื้นที่ของผู้ใช้งาน และอุปกรณ์ที่จะดาวน์โหลดแอปนั้นมากขึ้น มีรายละเอียดดังนี้
ตั้งแต่ พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานบนสมาร์ทโฟน จะเริ่มเห็นเรตติ้งและรีวิว ที่จำเพาะกับประเทศที่ลงทะเบียนใช้งาน
ตั้งแต่ต้นปี 2022 เป็นต้นไป จะผู้ใช้อุปกรณ์ Android อื่นที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟน เช่น แท็บเล็ต Chromebook อุปกรณ์สวมใส่ จะเห็นเรตติ้งและรีวิวเฉพาะของอุปกรณ์นั้น ๆ
กูเกิลแนะนำให้นักพัฒนาตรวจสอบคะแนนและรีวิวแยกตามหมวดที่จะมีผลใน Google Play Console ก่อนถึงกำหนดการเปลี่ยนแปลง
ที่มา: กูเกิล |
# Instagram จะยกเลิกการแทรกลิงก์ใน Stories แบบ Swipe-Up มาเป็น Sticker แทน
Instagram เริ่มแสดงข้อความแจ้งผู้ใช้งานที่สามารถแทรกลิงก์ใน Stories ได้ ว่าจะยกเลิกฟีเจอร์การปัดขึ้น (swipe-up) เพื่อเข้าไปดูลิงก์จากเว็บภายนอก มีผลตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้ Instagram จะให้การแทรกลิงก์เว็บภายนอกใน Stories เปลี่ยนมาใช้ลิงก์แบบสติกเกอร์แทน ซึ่ง Instagram บอกว่าสามารถสร้างสรรค์ลูกเล่นใน Stories ได้มากกว่า
การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกับผู้ใช้งานที่สามารถใช้ฟีเจอร์ Swipe-Up ก่อนหน้านี้ ส่วนการแทรกลิงก์แบบสติกเกอร์มีแผนจะขยายไปยังผู้ใช้งานเพิ่มเติมในอนาคต
ที่มา: The Verge |
# Valve ระบุกำลังทำงานร่วมกับ AMD, เพื่อให้มั่นใจว่า Steam Deck จะพร้อมรัน Windows 11
Steam Deck เครื่องเล่นเกมพกพาจาก Valve ที่กำลังเป็นกระแสจากความเป็นเกมมิ่งพีซีพกพาประสิทธิภาพดีในราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งแม้ว่าตัว Steam Deck จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ SteamOS 3.0 ที่เบื้องหลังคือ Linux ที่สามารถเล่นเกมฝั่ง Windows ได้ผ่านเครื่องมือของ Valve ที่มีชื่อว่า Proton
แต่สำหรับเกมเมอร์ที่สนใจใช้ Steam Deck เพื่อเล่นเกมจากสโตร์อื่นๆ นอกเหนือจากบน Steam แล้วการติดตั้ง Windows ก็ยังดูเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า และสำหรับท่านที่รอฟังข่าวคราวเรื่องความเข้ากันได้กับ Windows ตอนนี้ทาง Valve ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว
จากการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ PC Gamer ทาง Valve ได้ระบุว่า Steam Deck ควรจะรัน Windows 11 ระบบปฏิบัติการรุ่นถัดไปของไมโครซอฟท์ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ เมื่อเครื่องวางจำหน่าย แม้ว่าก่อนหน้านี้ Valve จะโฟกัสกับการทำให้เครื่องรัน Windows 10 ได้เท่านั้น
แต่ในตอนนี้พวกเขาก็กำลังทำงานเพื่อทำให้ Steam Deck สามารถรัน Windows 11 ได้ ทั้งในส่วนของความต้องการชิป TPM และตัวหน่วยประมวลผลเอพียู โดยอย่างหลังนั้น Valve ยังได้พูดคุยกับ AMD เพื่อให้มั่นใจว่าตัวเอพียูที่ผลิตโดย AMD นั้นจะเข้ากันได้กับ Windows 11 ในระดับ BIOS
นับว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับท่านที่เล็งซื้อ Steam Deck มาติดตั้ง Windows เมื่อดูจากท่าทีของ Valve ที่ไม่เพียงไม่ปิดกั้นแต่ยังสนับสนุนให้ใช้งานกับ Windows ได้ดีอีกด้วย
ที่มา - PC Gamer via Windows Central |
# IBM เปิดตัวซีพียูใหม่ Telum ใช้กับเมนเฟรม Z รุ่นถัดไป มีหน่วยประมวลผล AI ในตัว
IBM เปิดตัวหน่วยประมวลผลใหม่ Telum ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลรุ่นแรกของ IBM ที่มีชิปเร่งความเร็วประมวลผล AI ที่พัฒนาเองโดย IBM Research ใช้เวลาพัฒนามานาน 3 ปี
Telum จะถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์เมนเฟรมตระกูล IBM Z และ LinuxONE รุ่นถัดไป แทนชิป z15 ตัวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
สเปกทางเทคนิคของ IBM Telum เท่าที่เปิดเผยคือ
มีจำนวนซีพียูหลัก 8 คอร์ ทำงานที่ความถี่เกิน 5GHz ประมวลผลงานทั่วไป
แคช L2 ขนาด 32MB ต่อคอร์ ต่อกันผ่านบัสพิเศษเพื่อให้ "เสมือนเป็น" หน่วยความจำผืนเดียวกัน (L3 ขนาด 256MB)
มีตัวเร่งความเร็ว AI ที่ทำงานอยู่บนหน่วยความจำ 256MB นี้ ยังไม่เปิดเผยข้อมูลละเอียด แต่บอกว่าชิปมีสมรรถนะ AI 6 TFLOPs ต่อชิป
มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย Secure Execution สำหรับรันงานที่เข้ารหัส
Telum จะใช้โรงงานผลิตของซัมซุงขนาด 7nm EUV และนำมาใช้ในคอมพิวเตอร์จริงๆ ช่วงครึ่งแรกของปี 2022
ที่มา - IBM |
# MDN เพิ่มข้อมูลการรองรับ Web API ของ Deno วางคู่กับ NodeJS
MDN Web Docs โครงการดูแลเอกสารฟีเจอร์ต่างๆ ของ Web API ที่เดิมเป็นโครงการของ Mozilla แต่ได้รับเงินจากโครงการ Open Web Docs เป็นการเฉพาะในภายหลัง ล่าสุดทาง MDN ก็เพิ่มข้อมูลในหมวด Deno เอนจินเว็บสำหรับการทำงานฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ตอนนี้ข้อมูลบน MDN มีข้อมูลฝั่งเซิร์ฟเวอร์สองตัวคือ Deno และ NodeJS
Deno เป็นรันไทม์จาวาสคริปต์ที่สร้างโดย Ryan Dahl ผู้เริ่มโครงการ NodeJS เอง แต่กลับมาสร้าง Deno โดยใช้แนวทางใหม่ๆ เช่น ใช้ภาษา Rust ในการพัฒนา โมเดลความปลอดภัยเน้นการล็อกไว้ก่อนเป็นค่าเริ่มต้น และมีไลบรารีมาตรฐานที่เลียนแบบมาจากไลบรารีของภาษา Go
ข้อมูลใน MDN จะทำให้นักพัฒนาหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น ว่าฟีเจอร์ต่างๆ นั้นใช้กับ Deno ได้หรือไม่ และใช้ได้กับเวอร์ชั่นใดบ้าง
ที่มา - Deno |
# อย.สหรัฐฯ รับรองวัคซีน COVID-19 ของ Pfizer-BioNTech เต็มรูปแบบ
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ประกาศรับรองวัคซีน Comirnaty (BNT162b2) ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง Pfizer-BioNTech นับเป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับการรับรองแบบเต็มรูปแบบ โดยช่วงเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมาวัคซีนทั้งหมดที่ใช้งานกันเป็นการรับรองฉุกเฉินเท่านั้น ทาง FDA ระบุว่าการรับรองเต็มรูปแบบนี้น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้คนที่ยังลังเลให้ไปรับวัคซีนได้
แถลงการอนุญาตใช้งานเต็มรูปแบบนี้ระบุว่าวัคซีน Comirnaty เพิ่มความเสี่ยงอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) โดยเฉพาะในช่วงเจ็ดวันแรกหลังฉีดเข็มที่สอง โดยความเสี่ยงในชายอายุต่ำกว่า 40 ปีจะสูงกว่ากลุ่มอื่น และสูงสุดในกลุ่มชายอายุ 12-17 ปี ส่วนใหญ่อาการนี้จะหายไปเอง มีเพียงบางคนที่ต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษ
การรับรองครั้งนี้อนุญาตให้ใช้งานเฉพาะในผู้อายุเกิน 16 ปี และรับรองสำหรับการใช้งานสองเข็มแรกเท่านั้น สำหรับการใช้วัคซีนในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และการใช้งานเป็นเข็มที่สามยังอาศัยการอนุญาตแบบฉุกเฉินอยู่
ที่มา - FDA |
# Xiaomi ประกาศจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ 15 กันยายนนี้
Xiaomi ประกาศจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ ในวันที่ 15 กันยายนนี้ เวลา 1 ทุ่มตรง ตามเวลาในประเทศไทย ผ่านทาง YouTube, Twitter และ Facebook ของ Xiaomi
ข้อมูลที่ประกาศมีเพียงเท่านี้ และภาพประกอบเองก็ไม่ได้บอกใบ้อะไรมากนักว่าจะเป็นสินค้าใด แต่หากเทียบเคียงช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน Xiaomi ได้เปิดตัว Mi 10T และ Mi 10T Pro ในเดือนกันยายน จึงเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 11T นั่นเอง
ที่มา: GSM Arena |
# Visa ซื้อ CryptoPunk #7610 งานพิกเซลอาร์ต NFT มูลค่าราว 5 ล้านบาท ระบุมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
Visa ทวีตข่าวว่า บริษัทได้ซื้องานศิลปะ NFT CryptoPunk #7610 จาก Larva Labs มูลค่าราว 149,939 ดอลลาร์ หรือราว 5 ล้านบาท เข้าเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่นแล้ว
ในทวีตพูดถึงการสะสมสิ่งที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์การพาณิชย์มายาวนานตลอด 60 ปีของ Visa ตั้งแต่บัตรเครดิตกระดาษในยุคแรก ไปจนถึงเครื่อง zip-zap (เครื่องบันทึกการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต) รุ่นแรกๆ และกล่าวว่าวันนี้บริษัทเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการพาณิชย์ NFT แล้ว
CryptoPunks เป็นโปรเจกต์งานศิลปะ NFT ของ Larva Labs ในรูปแบบภาพพิกเซลอาร์ต สุ่ม 10,000 แบบ ไม่ซ้ำกัน ทำงานอยู่บนเครือข่าย Ethereum Chain ผู้ซื้อจะได้ภาพพร้อมโทเค่นแสดงสิทธิ์การเป็นเจ้าของ โดยสถิติ CryptoPunk ที่แพงที่สุดในปัจจุบัน คือ CryptoPunk #3100 ที่ถูกขายไปในราคา 7.58 ล้านดอลลาร์ หรือราว 252 ล้านบาท
ที่มา - Visa |
# Samsung แซง Intel ขึ้นแท่นบริษัทอันดับหนึ่งในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ หลังชิปแรมขายดี
IC Insights บริษัทวิเคราะห์ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ เปิดเผยภาพรวมตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2021 พบว่า Samsung ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนแชมป์เก่าอย่าง Intel แล้ว
ปัจจัยหลักมาจากความต้องการชิปความจำ DRAM และ flash memory ที่ทำให้ Samsung ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปความจำที่ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดขายไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1/2021 ถึง 19% เป็น 20.2 พันล้านดอลลาร์ ส่วน อันดับ 2 และ 3 อย่าง Intel และ TSMC ที่เจอพิษปัญหาการผลิต มียอดขายเติบโตเพียง 3% เท่ากัน อยู่ที่ 19.3 พันล้านดอลลาร์ และ 13.3 พันล้านดอลลาร์ตามลำดับ
หากนับยอดขาย IC อย่างเดียว Samsung ยังตาม Intel อยู่เล็กน้อย ที่ 19.2 พันล้านดอลลาร์ ต้องนับรวมยอดขาย OSD (ออปโตอิเล็กทรอนิกส์, เซ็นเซอร์ และอุปกรณ์วงจรแบบดิสครีต) อีกราว 1 พันล้านดอลลาร์ Samsung จึงแซง Intel ได้
อันดับที่ 4 และ 5 อย่าง SK Hynix และ Micron มียอดขายเติบโตถึง 20% และ 16% ตามลำดับ Qualcomm ที่อยู่อันดับ 6 ก็เจอพิษอัตราการผลิตที่ลดลงของ TSMC เช่นกัน ทำให้ยอดขายโตได้เพียง 3% ส่วน AMD อยู่ในอันดับ 11 และยอดขายเติบโต 12% จากไตรมาสก่อน
ส่วนแบ่งตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของบริษัท 10 อันดับแรกยังมีขนาดใหญ่และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยถึง 10% ทำเงินได้เกิน 4.2 พันล้านดอลลาร์ทั้งหมด และอัตราเติบโตเฉลี่ย แซงภาพรวมตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโต 8% ในไตรมาส 2/2021
ส่วนการคาดการณ์ยอดขายของบริษัทต่างๆ ในไตรมาส 3/2021 มีตั้งแต่ Intel ที่ระบุว่ายอดขายอาจลดลง 3% ไปจนถึง Qualcomm ที่คาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มถึง 12% แต่ทั้งหมดนี้ IC Insights ระบุว่ายังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัท ว่าปีนี้ตลาดจะเซมิคอนดักเตอร์จะเติบโตถึง 23%
ที่มา - IC Insights |
# เอามารันเบราว์เซอร์ ซัมซุงเปิดตัวโมดูล DDR5-7200 ความจุ 512GB คาดเริ่มวางตลาดปีนี้
ซัมซุงเปิดข้อมูลโมดูลแรม DDR5-7200 ที่ความจุสูงสุด 512GB มากกว่าโมดูลแรมใหญ่สุดทุกวันนี้ที่มีขายไม่เกิน 256GB อย่างไรก็ดี สเปค DDR5-7200 ที่ควรจะกำหนดโดย JEDEC นั้นยังไม่นิ่งทำให้ไม่แน่ชัดว่าซีพียูหรือเมนบอร์ดตัวไหนจะรองรับโมดูลแรมนี้บ้าง
ความพิเศษของโมดูลแรมใหม่นี้คือซัมซุงซ้อนชิปเข้าด้วยกันถึง 8 ชั้นและยังมีความหนาโดยรวมของแพ็กเกจเพียง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวชิปแรมมีระบบแก้ไขความผิดพลาดในตัวชิป (on-die ECC) เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตจากโรงงาน (เพราะชิปยังใช้งานได้แม้มีความผิดพลาดบางบิต) เทคนิคนี้ทำให้อัตราข้อมูลผิดพลาดลดลงถึง 1 ล้านเท่า ชดเชยความผิดพลาดที่มากขึ้นจากการลดขนาดวงจร
คาดว่าโมดูลแรมแบบ 512GB จะเริ่มผลิตเป็นจำนวนมากได้ภายในสิ้นปีนี้
ที่มา - AnandTech
ภาพโดยซัมซุง |
# เกมเมอร์เดือด ทีมแข่ง Valorant ไทย ถูกปรับแพ้หลังใช้บั๊ก แต่ทีมจากอินโดนีเซียแค่ถูกตักเตือน
ในงานแข่ง Valorant Champions Tour 2021 หรือ VCT 2021 ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีทีมไทยเข้าร่วมการแข่งขัน 3 ทีม คือ X10 Esports, Full Sense และ Sharper Esports การแข่งขันแบ่งเป็น 2 แมพ และต้องชนะ 13 จาก 25 เกมถึงจะถือว่าชนะแมพนั้นไป
ในรอบ SEA VCT Stage 3: Challengers Play-off ทีม X10 Esports พบ Galaxy Racer จากฟิลิปปินส์ ก่อนชนะไปทั้งสองแมพที่ 2-0 แต่มีปัญหาเกิดภายหลัง เพราะมีผู้เล่นในทีม X10 Esports ใช้สกิลกล้องของตัวละคร Cypher ปาไปในจุดที่มีบั๊ก ทำให้เห็นผู้เล่นฝั่งตรงข้ามในอีกฟากแผนที่และผู้เล่นอีกฝั่งตรงข้ามไม่สามารถยิงทำลายกล้องได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ในการแข่งฝั่งยุโรป ทีม Vodafone Giants เคยใช้บั๊กเดียวกันนี้และถูกปรับแต้มเช่นกัน
ทีม X10 Esports จึงถูกปรับแต้มในสองเกมที่ใช้บั๊ก ทำให้คะแนนจาก 13-11 เกมในแมพ Breeze กลายเป็น 10-13 และเสียคะแนนแมพแรกไป ทำให้สกอร์จบที่ 1-1 แมพ ซึ่งอาจส่งผลกับสิทธิ์การไปแข่ง VCT Masters 2: Berlin ที่ต้องเก็บคะแนนให้ถึงให้ได้
ทีม X10 Esports
ประเด็นปัญหาเกิดขึ้นเพราะในรอบถัดๆ มา เพราะทีม Alter Ego จากอินโดนีเซียก็ใช้บั๊กเมื่อพบกับทีม Full Sense จากไทย แต่เป็นบั๊กที่ทำให้โดรนของ Sova บินได้สูงผิดปกติ แต่ Alter Ego กลับถูกตักเตือนเท่านั้น ทำให้แฟนๆ เกมทั้งชาวไทยและประเทศอื่นไม่พอใจ พร้อมกับตั้งคำถามกับมาตรฐานของทีมงาน โดยติดแฮชแท็ก #SaveX10 บนทวิตเตอร์
คลิปจังหวะเจ้าปัญหา ที่ทีม Alter Ego ใช้บั๊กโดรนของ Sova
มีแฟนๆ ชาวต่างชาติให้ความเห็นว่า ทีม X10 Esports ใช้บั๊กหลายครั้ง และชนะในเกมที่ใช้บั๊ก ส่วน Alter Ego ใช้บั๊กแค่ครั้งเดียว และแพ้ในเกมนั้นด้วย แต่ก็มีแฟนๆ คนอื่นออกมาขัดเช่นกัน ว่าใช้บั๊กก็คือทำผิดกฎแล้ว ไม่น่าเกี่ยวว่าใช้กี่ครั้ง และแพ้หรือชนะในเกมนั้น
คงต้องติดตามต่อว่าทีมจัดการแข่งขันของ Riot Games จะอธิบายเพิ่มเติมถึงเหตุผลในการตัดสินครั้งนี้หรือไม่ และจะจัดการอย่างไรต่อไป เพราะดราม่าครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้แฟนๆ ชาวไทยไม่น้อย
ที่มา - Upcomer |
# ทีมนักเรียนด้านหุ่นยนต์หญิงล้วน อพยพจากอัฟกานิสถานได้แล้ว พร้อมได้ทุนเรียนต่อในสหรัฐฯด้วย
จากเหตุการณ์กลุ่มตาลีบันยึดประเทศ ทำให้ประชาชนอัฟกานิสถานตกอยู่ในความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้หญิง พวกเขาต้องหาทางอพยพออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัยโดยได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน และหน่วยงานต่างประเทศเพื่อการช่วยเหลือ
หนึ่งในทีมที่ได้รับความช่วยเหลือคือทีมนักศึกษาหญิงที่ศึกษาหุ่นยนต์หรือทีม Afghan Dreamers โดยกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ยืนยันเมื่อว่าสมาชิกของทีมบางส่วนได้มาถึงโดฮาอย่างปลอดภัยแล้ว และล่าสุดทีม Afghan Dreamers ได้รับความช่วยเหลือทุนการศึกษาให้ศึกษาต่อด้านหุ่นยนต์ในสหรัฐอเมริกาด้วย
หนึ่งในผู้ที่วิ่งเต้นเรื่องการช่วยเหลือคือ Allyson Reneau ผู้ที่มีโอกาสได้พบกับทีม Afghan Dreamers ในงานสัมมนา Humans to Mars summit ที่วอชิงตันดีซีในปี 2019 โดย Reneau บอกว่าตอนนี้ทางทีมได้รับการเสนอเข้าเรียนต่อด้านหุ่นยนต์ที่พวกเธอชอบแล้ว
Reneau บอกว่านี่จะเป็นครั้งแรกในชีวิตพวกเธอมีอิสระในสิ่งที่อยากเป็น และเป็นผู้กำหนดชีวิตได้เอง
ที่มา - Business Insider |
# มีผู้พบ PS5 โมเดลใหม่ในออสเตรเลีย น้ำหนักลด 300 กรัม เปลี่ยนน็อตขาตั้งให้ขันด้วยมือได้
สื่อเกมมิ่งออสเตรีเลีย รายงานว่าเริ่มมีผู้พบ PS5 โมเดลใหม่วางขายในประเทศ รหัสซีเรียลของเครื่องเปลี่ยนเป็น CFI-11XX จากรุ่นแรกที่เป็น CFI-1XXX ผู้ซื้อพบจุดเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือน็อตที่ใช้ยึดขาตั้งเปลี่ยนใหม่เป็นแบบใช้มือหมุนได้ จากเดิมต้องใช้ไขควงเพื่อขันเข้าออกเท่านั้น และน้ำหนักโดยรวมของเครื่อง เบาลง 300 กรัม
รูปร่างที่ประหลาดของ PS5 ทำให้ต้องใช้งานพร้อมขาตั้งเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้หลายครั้ง แม้แต่โซนี่เองก็เคยทำโฆษณาโดยวางเครื่องผิดด้าน ตัวน็อตล็อกขาตั้งที่ต้องใช้ไขควงก็นับเป็นอีกจุดเล็กๆ ที่ผู้ใช้หลายคนรำคาญกัน
สำหรับความเปลี่ยนแปลงภายใน แม้ Sony จะเคยจดทะเบียนอุปกรณ์รับส่งสัญญาณไร้สายตัวใหม่สำหรับ PS5 กับ กสทช. สหรัฐฯ (FCC) ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยนำมาแทนอุปกรณ์เก่า รหัส J20H100 อุปกรณ์ใหม่นี้จะมีอัตราการขยายสัญญาณ (peak antenna gain) สำหรับ Wi-Fi แบบ 2.4GHz สูงสุดที่ 4.0/3.5dBi เทียบกับ 6.0/6.0dBi ในตัวเก่า และ 6.0/4.5dBi เทียบกับ 5.0/3.5dBi สำหรับ Wi-Fi แบบ 5GHz
ยังไม่แน่ชัดว่า PS5 โมเดลใหม่นี้เปลี่ยนอุปกรณ์ไร้สายเป็นอุปกรณ์ใหม่นี้ด้วยหรือไม่ คงต้องรอมีคนได้ซื้อ PS5 โมเดลใหม่มากกว่านี้ และถอดเปรียบเทียบภายในดูอีกครั้ง เนื่องจากน้ำหนักที่ลดลงถึง 300 กรัม น่าจะมีส่วนอื่นๆ เปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ที่มา - Press-Start |
# GitHub เปิดบริการเว็บบอร์ด GitHub Discussions ใช้พูดคุยเกี่ยวกับโปรเจคต์
GitHub เปิดบริการเว็บบอร์ด-ฟอรั่ม GitHub Discussions อย่างเป็นทางการ หลังเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 และเปิดทดสอบมาระยะหนึ่ง
GitHub Discussions เป็นช่องทางสนทนาเกี่ยวกับโครงการซอฟต์แวร์นั้นๆ โดยเจ้าของ repository ต้องเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ก่อน (ตัวอย่างหน้า Discussions ของโครงการ Node.js) รูปแบบการใช้งานก็เหมือนเว็บบอร์ดทั่วไป มีการแยกห้องย่อยได้ โหวตกระทู้ แปะป้าย label ให้กระทู้ได้ และฟีเจอร์เฉพาะของ GitHub ที่เชื่อมโยงกับ pull request/issue ได้ด้วย
ที่มา - GitHub |
# กลุ่มแฮกเกอร์อ้างขโมยข้อมูลลูกค้า AT&T ถึง 70 ล้านราย ด้านบริษัทชี้ ไม่เป็นความจริง
กลุ่มแฮกเกอร์อ้างว่าตนได้ขโมยข้อมูลลูกค้า AT&T โอเปอเรเตอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐถึง 70 ล้านราย และลงขายในราคา 1 ล้านดอลลาร์ ผู้ที่รายงานข่าวนี้เป็นแห่งแรกคือ RestorePrivacy กลุ่มสร้างความตระหนักเรื่องความเป็นส่วนตัว อย่างไรก็ตาม AT&T ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยบอกว่าข้อมูลดังกล่าวไม่ได้มาจากระบบของ AT&T
ทางเว็บไซต์ RestorePrivacy ได้วิเคราะห์ข้อมูลในฟอรัมแฮ็กเกอร์ พบว่ามีข้อมูลอย่างเช่น หมายเลขประกันสังคม วันเกิด และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ตัวอย่างข้อมูลบางส่วนพบว่าตรงกับข้อมูลสาธารณะ แต่ยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าเป็นข้อมูลของลูกค้า AT&T และไม่มีรายละเอียดเรื่องวิธีการได้มา
ข่าวนี้มาไล่เลี่ยกันกับข่าวแฮกข้อมูล T-Mobile กระทบข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 54 ล้านราย
ที่มา - Business Insider |
# จีนผ่านกฎคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทต้องขอความยินยอม ปกป้องข้อมูลเมื่อถ่ายโอนนอกประเทศ
จีนผ่านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว มีผลบังคับใช้ 1 พฤศจิกายนนี้ ตัวกฎออกแบบมาเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในจีน บริษัทต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้งานในการนำข้อมูลไปใช้ จำกัดขอบเขตในการจัดการข้อมูล มีแนวทางในการป้องกันข้อมูลเมื่อต้องถ่ายโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ เรียกได้ว่ามีความใกล้เคียงกับ GDPR หรือกฎคุ้มครองข้อมูลในยุโรปเลย
ที่ผ่านมา คนจีนวิจารณ์บริษัทต่างๆ เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลที่ผิดพลาดและการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งส่งผลให้เกิดการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ประกอบกับรัฐบาลจีนมีการยกระดับการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีในจีนด้วย จึงมีการร่างกฎคุ้มครองข้อมูลขึ้นมา และเผยแพร่ร่างเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
กฎคุ้มครองข้อมูลส่วนบบุคคลหรือ Personal Information Protection Law มาคู่กับกฎคุ้มครองข้อมูล หรือ Data Security Law กำหนดกรอบการทำงานสำหรับบริษัทในการจัดประเภทข้อมูลตามมูลทางเศรษฐกิจและความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติของจีน มีผลบังคับใช้ 1 กันยายนนี้
ภาพจาก enriquelopezgarre from Pixabay
ที่ผ่านมารัฐบาลจีนพยายามควบคุมบริษัทเทคโนโลยีจีนในวงกว้าง เดือนกรกฎาคมสำนักงานไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) จะเปิดการสอบสวน บริษัท Didi Global Inc ผู้ให้บริการรถโดยสารรายใหญ่ของจีนในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดนสั่งถอดจากร้านค้าแอป, เตรียมจำกัดการใช้อัลกอริทึมในพื้นที่ออนไลน์, หน่วยงานกำกับดูแลการตลาดแห่งรัฐของจีน (SAMR) ผ่านกฎห้ามรีวิวปลอม
เมื่อวันพุธที่ 18 สิงหาคม กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ชี้มี 43 แอปฯ ที่ถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้อย่างผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ทำการแก้ไขด่วน
ที่มา - Reuters |
# [ลือ] Apple จะเปิดตัว Mac mini ดีไซน์ใหม่ ชิป M1X ปลายปีนี้
จดหมายข่าว Power On ของ Mark Gurman ผู้สื่อข่าว Bloomberg สัปดาห์นี้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับ Mac mini รุ่นใหม่ โดยเขาบอกว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Mac mini ตัวใหม่ในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
ข้อมูลสเป็กเบื้องต้น Gurman บอกว่าจะเป็นดีไซน์แบบใหม่ มีพอร์ตเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้น ใช้ชิป M1X และแอปเปิลจะแทนที่ Mac mini รุ่นเก่าซีพียูอินเทล เป็น Apple Silicon ทั้งหมด ทั้งนี้คาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว Mac mini รุ่นใหม่ ในงานเดียวกับที่จะเปิดตัว MacBook Pro จอ 14 และ 16 นิ้ว ซึ่งมีข่าวลือก่อนหน้านี้
เมื่อปีที่แล้ว แอปเปิลเปิดตัว Mac mini ที่เปลี่ยนมาเป็นชิป M1 แต่ยังใช้ดีไซน์เครื่องแบบเดิม
ที่มา: MacRumors |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.