txt
stringlengths 202
53.1k
|
---|
# T-Mobile ยอมรับถูกแฮ็กจริง แต่ยังประเมินไม่ได้ว่าข้อมูลลูกค้ารั่ว 100 ล้านคนหรือไม่
ความคืบหน้าจากข่าว T-Mobile สอบสวนเหตุข้อมูลหลุด แฮกเกอร์นำข้อมูลลงขายแล้ว คาดมีผู้ได้รับผลกระทบ 100 ล้านราย
T-Mobile ออกแถลงการณ์ ยืนยันแล้วว่าพบร่องรอยการบุกรุกเข้ามาในระบบจริง แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่ามีข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าหลุดออกไปด้วยหรือไม่ และจำนวนข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะสอบสวนเพิ่มและแถลงเพิ่มในภายหลัง
ที่มา - T-Mobile |
# Apple อัพเดต iCloud for Windows 12.5 รองรับตัวจัดการรหัสผ่าน iCloud Keychain
แอปเปิลออกอัพเดตแอพพลิเคชัน iCloud บน Windows เวอร์ชัน 12.5 โดยเพิ่มการรองรับตัวจัดการรหัสผ่าน iCloud Keychain สำหรับผู้ใช้ Windows เพิ่มเติม
ผู้ใช้งานสามารถจัดการรหัสผ่าน เพื่อใช้งานต่อบนเว็บเบราว์เซอร์ รองรับทั้ง Microsoft Edge และ Chrome โดยรหัสผ่านจะถูกจัดเก็บไว้ในโปรแกรม iCloud แบบเข้ารหัส
ผู้ใช้งาน iCloud บน Windows สามารถอัพเดตแอพได้บน Microsoft Store โดยแอพ iCloud นี้เดิมรองรับการเข้าถึงข้อมูลบน iCloud อาทิเอกสาร รูปภาพ อีเมล
ที่มา: MacRumors รูป Microsoft Store |
# อินเทลเปิดตัวแบรนด์การ์ดจอแยก Intel Arc ขายจริงต้นปี 2022
อินเทลเปิดตัว Intel Arc เป็นแบรนด์การ์ดจอแยกสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดย Arc เป็นการพัฒนาต่อมาจากชิปกราฟิก Xe-HPG ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 มีชื่อรหัสเป็นชุดตามตัวอักษร ได้แก่ Alchemist, Battlemage, Celestial, และ Druid
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลของ Arc มากนัก แต่อินเทลระบุว่าชิปกราฟิก Alchemist ตัวแรกจะรองรับการเรนเดอร์แบบ ray tracing สามารถทำ super sampling เพิ่มความละเอียดภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ และรองรับ DirectX 12 Ultimate
อินเทลจะเริ่มวางตลาด Alchemist ผ่านทางผู้ผลิตพีซีภายในไตรมาสแรกปี 2022
ที่มา - Intel |
# Android 12 เพิ่มฟีเจอร์ผู้พิการ ใช้กล้องหน้าถ่ายใบหน้า ยิ้ม อ้าปาก เพื่อสั่งงานโทรศัพท์
Android 12 Beta 4 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ด้าน Accessibility สำหรับผู้พิการ ชื่อว่า "Camera Switches" เปิดให้ใช้ใบหน้าควบคุมโทรศัพท์ได้
ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Switch Access ช่วยให้คนที่อาจใช้นิ้วกดสั่งการโทรศัพท์ไม่ได้ สามารถใช้อุปกรณ์ปุ่มกดภายนอก (switch ตามชื่อ) ต่อผ่าน Bluetooth/USB เพื่อสั่งการแทนได้ (ดูคลิปประกอบ) ส่วนฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มมาคือ ใช้กล้องหน้าแยกแยะใบหน้าแทนปุ่มกด เช่น ยิ้มแปลว่า "ถัดไป" ส่วนรูปแบบใบหน้าต่างๆ มีให้เลือก 6 แบบคือ ยิ้ม อ้าปาก เลิกคิ้ว มองขึ้น มองซ้าย มองขวา
ที่มา - xda |
# Cloudflare ทดลองระบบทดแทน CAPTCHA ยืนยันว่าเป็นคนด้วยการสแกนนิ้ว-หน้า
ต่อจากข่าว Cloudflare เลิกใช้ CAPTCHA เปลี่ยนมาตรวจสอบบ็อต/คนด้วย USB Key ด้วยวิธีที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "Cryptographic Attestation of Personhood"
ล่าสุด Cloudflare ขยายอุปกรณ์ที่รองรับให้กว้างขึ้นแล้ว โดยรองรับ biometric หลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Apple Face ID, Windows Hello, Android Biometric Authentication เราสามารถยืนยันว่าเป็นมนุษย์ด้วยการสแกนหน้าหรือสแกนนิ้ว
ผู้สนใจสามารถลองได้จากหน้าเว็บ https://cloudflarechallenge.com ผมลองทดสอบด้วย Windows Hello ก็พบว่าสามารถใช้งานได้แล้ว
Cloudflare ยืนยันว่าวิธี Cryptographic Attestation of Personhood รักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เพราะข้อมูล biometric ไม่ได้ถูกส่งออกไปนอกเครื่อง การประมวลผลตัวตนเกิดขึ้นในเครื่องเท่านั้น เมื่อยืนยันว่าเป็นคนจริงๆ (ผ่าน biometric ที่ตรงกัน) ถึงส่งข้อมูลกลับไปบอก Cloudflare
ที่มา - Cloudflare Blog |
# เหมาทั้งชาร์ท Nintendo Switch ครอง 30 อันดับเกมขายดีญี่ปุ่น ทำได้ครั้งสุดท้ายปี 1988
Famitsu นิตยสารเกมชื่อดังของญี่ปุ่น เปิดผลสำรวจเกมขายดี 30 อันดับ ประจำสัปดาห์วันที่ 2-8 สิงหาคม พบว่าทั้ง 30 เกมเป็นเกมของเครื่อง Nintendo Switch ทั้งหมด
แม้ Nintendo จะเคยครองชาร์ต 30 อันดับนี้หลายครั้งในยุค 90 แต่มักเป็นเกมจากเครื่องเกมหลายรุ่นของบริษัท เช่น Famicom, Super Famicom และ Gameboy ปนกันไป ครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งในรอบ 30 ปีที่เกมจากเครื่องเกมรุ่นเดียวของ Nintendo เหมาทุกตำแหน่ง หลัง Famicom เคยทำได้ในปี 1988
เกมขายดีอันดับ 1 คือ Minecraft ที่ยังเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลายในญี่ปุ่น The Legend of Zelda: Skyward Sword HD ที่เป็นเกมขายดีที่สุดในสหรัฐฯ ช่วงเดือนกรกฎาคมตามมาเป็นอันดับสอง ส่วนอันดับสามเป็นเกมชินจังผจญภัย (Crayon Shin-chan: Ora to Hakase no Natsuyasumi - Owaranai Nanokakan no Tabi)
ยอดขายเกม Nintendo Switch ที่ยังร้อนแรงในช่วงนี้ อาจได้อานิสงค์จากที่บางเขตในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาเจอการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีการล็อกดาวน์บางส่วน และผู้คนเริ่มใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยอดขายเกมที่ยังดีอยู่ ก็อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ Nintendo ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องออก Switch รุ่นอัพเกรดฮาร์ดแวร์มากนัก นอกเหนือไปจากรุ่นอัพเกรดแบตเตอรี่, Switch Lite และ Switch OLED แม้เครื่องเกมเจ็นนี้ของ Nintendo จะมีอายุราว 4 ปีแล้วก็ตาม
ที่มา - Famitsu via Engadget |
# นักพากย์งานแข่ง Overwatch ไม่ยอมเอ่ยชื่อตัวละคร McCree หลังเจ้าของชื่อลาออกเพราะเรื่องฉาว
หลัง Jesse McCree หัวหน้าทีมออกแบบ Diablo IV และเจ้าของชื่อตัวละคร McCree ในเกม Overwatch ลาออกจาก Blizzard เพราะประเด็นคุกคามทางเพศ นักพากย์งานแข่งเกม Overwatch League อย่าง Brennon ‘Bren’ Hook และ Josh ‘Sideshow’ Wilkinson ก็เลือกที่จะไม่พูดชื่อ McCree ออกอากาศ และเลี่ยงไปเรียกตัวละครว่า “The Cowboy” แทน
ทั้งสองคนยังกดไลค์ทวีตจากคนดูที่สังเกตเรื่องนี้ เพื่อยืนยันว่าพวกเขาตั้งใจทำจริงๆ และ Brennon ยังยืนยันกับ Kotaku ว่าการเลือกไม่พูดชื่อนี้เป็นการตัดสินใจของเขาและ Josh Wilkinson เอง ไม่เกี่ยวกับ Overwatch League หรือ Blizzard แต่อย่างใด
การลาออกของ Jesse McCree มีประเด็นว่าอาจเกี่ยวข้องกับการคุกคามทางเพศ หลังเขาอยู่ในรูปถ่าย “Cosby Suite” ในงานปาร์ตี้ของบริษัทช่วง Blizzcon 2013 ที่ Alex Afrasiabi ทำพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับพนักงานหญิง และลาออกไปก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ Mitch ‘Uber’ Leslie นักพากย์อีสปอร์ตชื่อดังอีกคน ก็ออกมาทวีตเห็นด้วยกับการกระทำเชิงสัญลักษณ์ของทั้งสองธิธีกรในครั้งนี้ และยังมีแฟนเกมจำนวนมากที่เรียกร้องให้ Blizzard เปลี่ยนชื่อ McCree เป็นชื่ออื่นเช่นกัน
ดูเหมือน Activision Blizzard โดยเฉพาะฝั่ง Blizzard จะกำลังเจอมรสุมครั้งใหญ่ เพราะมีพนักงานลาออกมากมาย รวมถึงระดับประธานบริษัทอย่าง J. Allen Brack ด้วย ส่วนพนักงานที่ยังอยู่ก็ดูจะไม่พอใจท่าทีของบริษัทในการจัดการปัญหาครั้งนี้เท่าไร คงต้องติดตามสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดต่อไป
ที่มา - Kotaku |
# Pine64 เปิดตัวแท็บเล็ต PineNote จอ E-ink และรันด้วยลินุกซ์
Pine64 เป็นบริษัทผลิตบอร์ดคอมพิวเตอร์ในสายลินุกซ์ ล่าสุดได้เปิดตัวแท็บเล็ตจอ E-ink ที่ทำงานด้วยลินุกซ์ในชื่อ PineNote
สำหรับสเปคของแท็บเล็ต PineNote มีดังนี้
ชิป RK3566 quad-core A55 SoC
LPDDR4 RAM 4 GB
หน่วยความจำ eMMC ขนาด 128 GB
พอร์ต USB-Type C
5Ghz AC WiFi
ขนาดหน้าจอ 10.3 นิ้ว
ความละเอียดหน้าจอ 1404×1872 พิกเซล
โดยจะเปิดขายสำหรับ early adopters ราคา 399 ดอลลาร์ ภายในปีนี้
ที่มา - Introducing the PineNote - Pine64 |
# K PLUS เปิดให้สมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อผ่านแอป ระบุรู้ผลไวสุด 15 นาที
ธนาคารกสิกรไทย เปิดให้สมัครบริการสินเชื่อ 3 อย่างผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS คือ สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan, บัตรเงินด่วน Xpress Cash และบัตรเครดิตกสิกรไทย โดยทางธนาคารระบุว่ารู้ผลอนุมัติเร็วสุด 15 นาที
ผู้ที่ต้องการสมัครสินเชื่อ ต้องสมัครบริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) บน K PLUS ก่อน และไปยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง จึงจะสามารถดำเนินการสมัครสินเชื่อบน K PLUS ได้
ช่องทางยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน
1) ตู้ ATM ที่มีสติกเกอร์ K CHECK ID
2) สาขาธนาคาร
3) ตัวแทนให้บริการ KBank Service
สินเชื่อเงินด่วน Xpress Loan สำหรับลูกค้าที่มีเงินเดือน 7,500 บาทขึ้นไป ไม่ต้องใช้เอกสาร แต่ต้องมีบัญชีเงินเดือนหรือเดินบัญชีกับธนาคารกสิกรไทยติดต่อกันอย่างน้อย 7 เดือน
บัตรเงินด่วน Xpress Cash สำหรับลูกค้าที่มีเงินเดือน 7,500 บาทขึ้นไป ไม่ต้องใช้เอกสาร ต้องมีบัญชีเงินเดือนหรือเดินบัญชีกับธนาคารกสิกรไทยติดต่อกันอย่างน้อย 7 เดือน
บัตรเครดิตกสิกรไทย Life Never Miss สำหรับลูกค้าที่มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท ไม่ต้องใช้เอกสาร และต้องมีบัญชีเงินเดือน หรือเดินบัญชีกับธนาคารกสิกรไทย ติดต่อกันอย่างน้อย 7 เดือน
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ 1, 2, 3 |
# Amazon ล้มดีล เลิกย้ายซอฟต์แวร์ HR จาก PeopleSoft มาเป็น Workday
รอบเดือนที่ผ่านมา วงการซอฟต์แวร์สาย HR มีประเด็นข่าวที่น่าสนใจคือยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ตัดสินใจเลิกใช้ซอฟต์แวร์ Workday Human Capital Management ของบริษัท Workday ส่งผลให้หุ้นของ Workday ตกลงทันที
เดิมที Amazon ใช้ซอฟต์แวร์ Oracle PeopleSoft จัดการพนักงาน แต่ช่วงหลังเมื่อสายสัมพันธ์ของ Amazon กับ Oracle แย่ลง จนเลิกใช้ซอฟต์แวร์ Oracle หลายตัว ทำให้เมื่อปี 2017 Amazon เซ็นสัญญาย้ายไปใช้ Workday แทน ซึ่งถือเป็นชัยชนะของ Workday ที่ได้ลูกค้าใหญ่ระดับ Amazon
แต่เวลาผ่านมาหลายปี Amazon กลับไม่สามารถย้ายระบบมาเป็น Workday ได้ (ด้วยเหตุผลที่ไม่ระบุชัดเจนต่อสาธารณะ แต่ก็มีลือกันว่าเป็นเรื่องประสิทธิภาพของระบบ) กลับยังต้องใช้ PeopleSoft ต่อไป และสุดท้าย Amazon ต้องล้มเลิกแผนการย้ายมาใช้ Workday ไปเมื่อ 18 เดือนก่อน (Workday ระบุว่าบริษัทลูกของ Amazon บางแห่งใช้ Workday แล้ว เช่น Twitch, Audible, Whole Foods)
ในแถลงการณ์ของ Workday เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ระบุว่าเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้งสองบริษัท และ Workday ยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีของ Amazon Web Services ต่อไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน สัปดาห์ที่แล้ว Workday ก็แถลงข่าวร่วมกับ Google Cloud ในฐานะพาร์ทเนอร์ธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่การใช้ซอฟต์แวร์ Workday HCM บน Google Cloud รวมถึงการทำตลาด และการพัฒนาโซลูชันร่วมกันในอนาคต
ภาพจาก Facebook Workday
ที่มา - Workday, Cloud Wars, Protocol, Google |
# Phil Spencer ประธาน Xbox ได้ลอง Steam Deck แล้ว ระบุเล่นเกมคล่องมือ, xCloud ใช้ได้ดี
ดูเหมือนว่า Valve จะส่ง Steam Deck รุ่นก่อนวางจำหน่าย พร้อมกระเป๋าใส่เครื่องให้ Phil Spencer ประธาน Xbox ได้ลองใช้งาน หลัง Phil Spencer ออกมาทวิตว่า เขาได้ลองเล่นเกมบน Steam Deck มาประมาณเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว และพบว่าการควบคุมในเกมอย่าง Halo และ Age of Empires III ทำได้ดี และ xCloud บริการสตรีมมิ่งเกมของ Xbox Game Pass ก็ทำงานได้ดีเช่นกัน
การที่ Halo เล่นได้ดีนั้นไม่น่าแปลกใจเท่าไร เพราะก็เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ถูกออกแบบเพื่อให้เล่นบนเครื่องคอนโซลเช่น Xbox ได้ แต่การที่เกม Age of Empire ซึ่งเป็นเกมวางแผนที่ต้องใช้เมาส์ควบคุมเป็นหลักเล่นได้ดีเช่นกัน แปลว่าการควบคุมผ่านจอสัมผัสและทัชแพดของ Steam Deck น่าจะใช้งานแทนเม้าส์ได้ดีพอสมควร ส่วนการเล่นเกมบน xCloud ได้นั้นไม่น่าแปลกใจ เพราะ Steam Deck จริงๆ ก็คือพีซีที่ใช้ลินุกซ์เครื่องหนึ่งนั่นเอง
อีกจุดที่น่าสนใจในทวิตนี้คือการ Phil Spencer เข้าไปคุยกับ Valve ถึงออฟฟิศ หาก Valve สามารถสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งร่วมกับ Microsoft/Xbox เพื่อรองรับทั้ง Xbox Game Pass ที่มีเกมฟรีมากมาย และทำให้ Steam Deck เล่น xCloud ได้อย่างไม่มีสะดุด ในที่สุดแล้ว Steam Deck น่าจะกลายมาเป็นอุปกรณ์เล่นเกมที่น่ากลัวไม่น้อย
ที่มา - Twitter: Phil Spencer
ภาพ Steam Deck พร้อมกระเป๋า ของ Phil Spencer |
# Thrive with Cloud เร่งความสำเร็จด้านดิจิทัล ด้วยส่วนลดสูงสุด 90% จากบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ จาก HUAWEI CLOUD
โปรโมชัน Flash Sale: ประหยัดถึง 98% สำหรับผลิตภัณฑ์คลาวด์ที่เลือกในราคาเพียง 0.9 USD ต่อรายการ
สำหรับลูกค้าใหม่ของ HUAWEI CLOUD มีโปรโมชัน Thrive with Cloud แบบจำกัดจำนวนที่มีข้อเสนอที่ยอดเยี่ยม 4 ข้อ
เลือกจาก:
Elastic Cloud Server (ECS): 1 vCPUs และ 2GB RAM สำหรับ 6 เดือน
HUAWEI CLOUD Meeting: ผู้เข้าร่วมประชุม 25 คน เป็นเวลา 6 เดือน
Content Delivery Network (CDN): 500GB สำหรับ 1 ปี
Optical Character Recognition (OCR): สแกน 5,000 ครั้งเป็นเวลา 1 เดือน
เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
Elastic Cloud Server (ECS) ความสามารถในการประมวลผลทรัพยากรตามความต้องการที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ ซึ่งช่วยให้คุณปรับใช้แอปพลิเคชันและปริมาณงานได้อย่างยืดหยุ่น
HUAWEI CLOUD Meeting นำเสนอการประชุมทางวิดีโอแบบทำงานร่วมกันบนอุปกรณ์คลาวด์ในทุกสถานการณ์สำหรับการสื่อสารและการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด
Content Delivery Network (CDN) เร่งการส่งเนื้อหาโดยการแคชเนื้อหาบน edge node เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้เร็วขึ้น
Optical Character Recognition (OCR) จดจำและแปลงอักขระ แปลงข้อมูลตัวพิมพ์ และตัวเขียนด้วยลายมือ ให้เป็นข้อความที่สามารถแก้ไขได้โดยอัตโนมัติ ลดการใช้ระบบManual ให้สามารถรับข้อมูลที่ถูกต้องจากภาพใบอนุญาต ใบแจ้งหนี้ และแบบฟอร์มต่างๆได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพทางธุรกิจอีกด้วย
ซื้อเลยตอนนี้!
ข้อเสนอนี้ใช้ได้จนถึงวันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564นื้เท่านั้น ซื้อตอนนี้เพื่อเร่งความสำเร็จทางดิจิทัลของคุณและเติบโตด้วยคลาวด์โดย HUAWEI CLOUD
ไปที่หน้าโปรโมชัน Thrive with Cloud promotion page เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
แพ็คเกจ All-in-One สำหรับนักพัฒนา: ประหยัดถึง 87% สำหรับแพ็คเกจคลาวด์ 4 ผลิตภัณฑ์ ในราคาเพียง 9 USD
เปิดตัวแล้ววันนี้! ก้าวสู่คลาวด์ด้วย 4 ผลิตภัณฑ์ เพื่อโฮสต์แอปพลิเคชันของคุณ ปกป้องเซิร์ฟเวอร์ จัดเก็บข้อมูล และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในแพ็คเกจพิเศษแบบรวมทุกอย่างในราคา 9 USD เท่านั้น
สำหรับลูกค้าใหม่ของ HUAWEI CLOUD สามารถใช้แพ็คเกจโปรโมชัน Thrive with Cloud นี้ได้นานถึง 3 เดือน
แพ็คเกจประกอบด้วย 4 ผลิตภัณฑ์
Elastic Cloud Server (ECS): 2 vCPUs และ 4GB RAM
Elastic Volume Service (EVS): พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 400GB ด้วย I/O ที่สูง
Elastic IP (EIP): 1Mbit/s traffic
Host Security Service (HSS): Enterprise Edition
เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
1. Elastic Cloud Server (ECS) ความสามารถในการประมวลผลทรัพยากรตามความต้องการที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้ ซึ่งช่วยให้คุณปรับใช้แอปพลิเคชันและปริมาณงานได้อย่างยืดหยุ่น
2. Elastic Volume Service (EVS) นำเสนอบล็อกสตอเรจที่มีความน่าเชื่อถือสูงพร้อมความทนทาน 99.9999999% และเวลาแฝงในการอ่าน/เขียนเพียง 1 มิลลิวินาทีสำหรับแอปพลิเคชันที่สำคัญต่อภารกิจมากมาย
3. Elastic IP (EIP) บริการนำเสนอที่อยู่ IP สาธารณะแบบคงที่และแบนด์วิดท์ที่ปรับขนาดได้ ทำให้ทรัพยากรระบบคลาวด์ของคุณสามารถสื่อสารกับอินเทอร์เน็ตได้
4. Host Security Service (HSS) ปกป้องเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ Linux และ Windows ของคุณจากภายในสู่ภายนอก ด้วยชุดฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งรวมถึงการป้องกัน Brute-Force การตรวจจับการบุกรุกและการแก้ไขช่องโหว่
ซื้อเลยตอนนี้!
ข้อเสนอนี้ใช้ได้จนถึงวันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564นื้เท่านั้น ซื้อตอนนี้เพื่อเร่งความสำเร็จทางดิจิทัลของคุณและเติบโตด้วยคลาวด์โดย HUAWEI CLOUD
ไปที่หน้าโปรโมชัน Thrive with Cloud promotion page เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อเสนอพิเศษ: ประหยัดถึง 85% สำหรับผลิตภัณฑ์คลาวด์ยอดนิยม
ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ HUAWEI CLOUD เป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ และช่วยเร่งความสำเร็จทางดิจิทัลของคุณ
ลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนลดมากมายเหล่านี้กับผลิตภัณฑ์คลาวด์ยอดนิยมที่หลากหลาย ครอบคลุมการประมวลผลบนคลาวด์ ความปลอดภัย ฐานข้อมูล เครือข่ายและที่เก็บข้อมูล ปัญญาประดิษฐ์ และการเร่งความเร็วเว็บไซต์
You can also claim special money-off coupons for a number of related offers.
คุณยังสามารถรับคูปองส่วนลดพิเศษสำหรับข้อเสนอที่เกี่ยวข้องได้อีกมากมาย
เลือกจาก:
Elastic Cloud Server (ECS) – นานถึง 6 เดือน
Host Security Service (HSS) – 1-3 เดือน
Web Application Firewall (WAF) – 1-3 เดือน
Advanced Anti-DDoS (AAD) – นานถึง 1 ปี
Database Security Service (DBSS) – 1-3 เดือน
RDS for MySQL – นานถึง 6 เดือน
Document Database Service (DDS) – นานถึง 1 ปี
Cloud Connect (CC) – นานถึง 1 ปี
Object Storage Service (OBS) – นานถึง 6 เดือนใน Single Availability Zone
Optical Character Recognition (OCR) – นานถึง 1 ปี
Content Delivery Network (CDN) – นานถึง 1 ปี
ซื้อเลยตอนนี้!
ข้อเสนอนี้ใช้ได้จนถึงวันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564นื้เท่านั้น ซื้อตอนนี้เพื่อเร่งความสำเร็จทางดิจิทัลของคุณและเติบโตด้วยคลาวด์โดย HUAWEI CLOUD
ไปที่หน้าโปรโมชัน Thrive with Cloud promotion page เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม |
# ซัมซุงเริ่มนำ AI มาใช้ออกแบบชิปให้มีประสิทธิภาพกว่ามนุษย์ทำ ใช้แล้วกับ Exynos
ซัมซุงเริ่มนำ AI มาใช้ในงานออกแบบชิปซึ่งเป็นงานที่มีความซับซ้อนสูง โดยยืนยันว่าใช้กับชิปตระกูล Exynos แล้ว (แต่ไม่ระบุรุ่น)
ซัมซุงใช้ซอฟต์แวร์ DSO.ai (Design Space Optimization AI) จากบริษัทออกแบบชิป Synopsys ที่นำเทคนิค machine learning มาเรียนรู้และหาวิธีออกแบบวงจรบนชิปให้มีประสิทธิภาพต่อพื้นที่ดีที่สุด บริษัท Synopsys ระบุว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ autonomous chip design ที่ AI ทำงานมีประสิทธิภาพสูงกว่ามนุษย์
นอกจากซัมซุงที่นำ DSO.ai มาใช้เป็นรายแรกแล้ว Synopsys ยังบอกว่าร่วมกับบริษัทผู้ผลิตชิปรายอื่นๆ ด้วย ที่ระบุชื่อบนเว็บไซต์ของ Synopsys คือบริษัท Renesas
มีบริษัทไอทีหลายแห่งเริ่มนำ AI มาใช้ออกแบบชิปแล้วเช่น Google, NVIDIA, IBM แต่ความร่วมมือของซัมซุงและ Synopsys ถือเป็นรายแรกที่เริ่มนำมาใช้จริงในชิปที่ขายสู่ตลาด
ที่มา - Ars Technica |
# Facebook อาจต้องขายกิจการ Giphy ออกไป เพราะเข้าข่ายผูกขาดโซเชียลมีเดีย
เดือน พ.ค. ปี 2020 Facebook ประกาศควบรวมกิจการ Giphy เว็บพอร์ทัลรวมรูป GIF หลังจากนั้นไม่นาน หน่วยงานด้านการแข่งขันและตลาด (Competition and Markets Authotiry - CMA) ของสหราชอาณาจักรเข้ามาสอบสวนการควบรวมกิจการว่าจะส่งผลต่อการแข่งขันในกลุ่มผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียหรือไม่
ล่าสุด มีรายงานจาก CMA ว่าต้องการยับยั้งการควบรวมโดยให้เหตุผลว่า GIF เป็นเนื้อหาส่วนหนึ่งที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียในหลากหลายแพลตฟอร์ม การลดตัวเลือกหรือคุณภาพของ GIF อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อวิธีที่ผู้คนใช้โซเชียลมีเดีย ด้าน Facebook บอกว่า ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของ CMA และจะเดินหน้าแก้ไขความเข้าใจผิดต่อไป
CMA บอกด้วยว่าโซเชียลมีเดียรายใหญ่ส่วนใหญ่ที่แข่งขันกับ Facebook ก็ใช้ Giphy กันทั้งนั้น และ Giphy ยังเป็นผู้ให้บริการภาพ GIF รายใหญ่รายเดียว การเป็นเจ้าของ Giphy ของ Facebook อาจนำไปสู่การปฏิเสธแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่อยากเข้าถึงบริการ GIF ของตนได้
ช่วงการสอบสวน CMA ยังให้เหตุผลด้วยว่า ก่อนเข้าควบรวม Giphy กำลังสร้างธุรกิจโฆษณาซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งผู้แข่งขันของ Facebook การเข้าควบรวมทำให้ Giphy ต้องหยุดโครงการไว้ แต่ Facebook บอกว่าไม่จริง และให้เหตุผลว่า Giphy ไม่มีฐานผู้ใช้งานของตัวเองและพึ่งพา Facebook เพื่อให้ได้เข้าถึงผู้ใช้งานด้วยซ้ำ
มีรายงานจากบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์บอกว่า Giphy ระดมทุน 150 ล้านดอลลาร์ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีกำไร และเงินเริ่มหมดตอนที่ขายกิจการให้ Facebook และมีพนักงาน Giphy หลายรายที่ไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Facebook ด้วย ซึ่ง Facebook ได้จ่ายเงินให้กับหุ้นส่วนใหญ่ของ Giphy แล้ว
สำหรับคำตัดสินครั้งสุดท้ายอย่างเป็นทางการของ CMA จะสิ้นสุดช่วงต้นเดือนตุลาคม
ที่มา - The Verge |
# T-Mobile สอบสวนเหตุข้อมูลหลุด แฮกเกอร์นำข้อมูลลงขายแล้ว คาดมีผู้ได้รับผลกระทบ 100 ล้านราย
T-Mobile ผู้ให้บริการเครือข่ายในสหรัฐฯ ยืนยันกำลังสืบสวนเหตุข้อมูลหลุด ที่คาดว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบถึง 100 ล้านราย โดยก่อนหน้านี้สำนักข่าว VICE รายงานว่าทาง T-Mobile ติดต่อกับคนขายข้อมูลที่อ้างว่าตัวเองนำข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ของ T-Mobile มาขาย ไม่ว่าจะเป็น หมายเลขประกันสังคม ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลใบขับขี่ ทาง Vice ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วระบุว่าเป็นข้อมูลจริง (authentic)
ในฟอรัมออนไลน์ที่เจรจาการขายข้อมูล ผู้ขายต้องการข้อแลกเปลี่ยนเป็น 6 bitcoin หรือประมาณ 270,000 ดอลลาร์ สำหรับข้อมูลบางส่วนที่มีหมายเลขประกันสังคม 30 ล้านหมายเลขและข้อมูลใบขับขี่ ตอนนี้แฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของ T-Mobile คาดว่าบริษัทรู้ตัวและแก้ไข แต่แฮกเกอร์ก็ดาวน์โหลดข้อมูลออกมาแล้ว และยังบอกอีกว่า ทางบริษัทสำรองข้อมูลไว้หลายที่
T-Mobile ระบุแค่ว่ากำลังสืบสวนเหตุการณ์อยู่ แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดเพิ่มเติม
ภาพจาก T-Mobile
T-Mobile ตกเป็นเป้าโจมตีของแฮกเกอร์อยู่เนืองๆ เหตุครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 2018 แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า T-Mobile ประมาณ 2 ล้านคนซึ่งรวมถึงชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัญชี และในปี 2019 ลูกค้าแบบเติมเงินของ T-Mobile บางรายก็ได้รับผลกระทบจากการละเมิดด้วย จนกระทั่งในปี 2020 ก็เกิดเหตุอีกครั้ง มีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของลูกค้า T-Mobile หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชีอื่นๆ
ที่มา - VICE, The Verge |
# ประวัติศาสตร์การสร้าง Android ยุคแรก เคยถูกซัมซุงหัวเราะเยาะ ก่อนขายกิจการให้กูเกิล
ปลายเดือนนี้กำลังจะมีหนังสือเล่มใหม่ Androids: The team that built the Android operating system (Amazon, Google Play) เล่าประวัติของระบบปฏิบัติการ Android ในยุคแรกๆ ออกวางขาย หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Chet Haase หนึ่งในทีมวิศวกร Android ยุคถัดมาเล็กน้อย (เริ่มงานปี 2010) ที่อาศัยการสัมภาษณ์ข้อมูลทีมงานยุคแรกๆ มาสรุปเป็นหนังสือ
บางส่วนของหนังสือเล่มนี้ถูกนำมาเผยแพร่เพื่อโปรโมทหนังสือ ทำให้เราได้ทราบเรื่องราวของ Android ในปี 2005 ช่วงที่กำลังระดมทุน และสุดท้ายขายให้กูเกิล จนกลายเป็นระบบปฏิบัติการที่เรารู้จักกันดี
ทีมงาน Android ในยุคแรกเริ่มเป็นทีมจากบริษัท Danger ที่ก่อตั้งในปี 1999 และพัฒนามือถือ T-Mobile Sidekick ออกขายในปี 2002 จากนั้นทีมงานหลักที่นำโดย Andy Rubin ก็ลาออกมาตั้งบริษัท Android ในปี 2003 ด้วยวิสัยทัศน์ว่าต้องการสร้างระบบปฏิบัติการมือถือ ที่โอเพนซอร์สและไม่ขึ้นกับโอเปอเรเตอร์รายใด
ในฐานะสตาร์ตอัพ บริษัท Android จำเป็นต้องระดมทุนจากนักลงทุน VC ซึ่งเริ่มกระบวนการนำเสนอ (pitching) ในช่วงต้นปี 2005 แต่ในช่วงเดียวกันนั้น ทีม Android ก็ได้รับการติดต่อจาก Larry Page ที่ชื่นชอบ T-Mobile Sidekick และทราบว่า Rubin กำลังพัฒนา OS ตัวใหม่ เลยอยากรับทราบว่า Rubin ทำอะไรอยู่บ้าง
ทีม Android พบกับกูเกิล 2 ครั้งในเดือนมกราคมและมีนาคม 2005 แต่ก็แค่นำเสนอความคิดและเดโมเท่านั้น จากนั้นทีม Android หันไปคุยกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนฝั่งเอเชีย เพื่อเสนอ OS ให้ใช้งาน โดยบินไปเกาหลีเพื่อเจอซัมซุง และไต้หวันเพื่อเจอ HTC
การพบปะกับซัมซุงได้เจอกับ K.T. Lee ประธานฝ่ายมือถือที่ชอบ Sidekick เช่นกัน และบอกว่าไม่อยากพลาดโอกาสนี้อีก เขาจึงสนับสนุน Android เต็มที่ แต่เมื่อทีม Android ไปพบกับผู้บริหารระดับรองๆ ลงมากว่า 10 คน ก็มีคำถามว่าทำไมทีม Android ถึงมีแค่ไม่กี่คน เพราะทีมพัฒนา OS ของซัมซุงมีคนมากถึง 300 คน พร้อมทั้งหัวเราะใส่ และบอกว่าทีม Android ฝันเฟื่องไปหรือเปล่า
สุดท้ายทีม Android ไม่ได้เซ็นสัญญากับซัมซุง แต่การพบปะครั้งนี้ทำให้มือถือ Android รุ่นแรกสุดมีโค้ดเนมว่า "Dream" (ภายหลังคือ T-Mobile G1) จากคำดูถูกของซัมซุงนั่นเอง
จากนั้น ทีม Android บินไปไต้หวันและได้เจอกับ Peter Chou ซีอีโอคนดังของ HTC (ในตอนนั้น) ที่ต้องการ exclusivity ให้ฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกทำโดย HTC รายเดียว ซึ่งแนวคิดนี้ขัดกับวิสัยทัศน์ของ Android ที่ต้องการให้เป็นระบบเปิด ถ้าผูกกับผู้ผลิตรายเดียวก็จะซ้ำรอย T-Mobile Sidekick อีก
เมื่อทีมงานกลับมาอเมริกา ก็นำเสนอผลงานต่อ VC ต่อและเริ่มมีคนสนใจ ตอนนั้นกูเกิลก็นัดพบขอคุยเป็นครั้งที่สาม ระหว่างที่ Rubin และทีมกำลังนำเสนอความคืบหน้าของทีม ก็โดนคนของกูเกิลขัดจังหวะ และบอกว่า "เราอยากซื้อพวกคุณ" (‘Let us interrupt you there. We just want to buy you.’)
ข้อเสนอของกูเกิลน่าสนใจ เพราะกูเกิลบอกว่าทีม Android จะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการวิ่งหาเงินลงทุน มาอยู่กับกูเกิลแล้วมีเงินเหลือเฟือ กูเกิลสามารถใช้กำไรจาก search มาแบ่งให้กับโอเปอเรเตอร์เพื่อจูงใจให้ใช้ Android ได้ ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอยู่หลายเดือน (โดย Larry Page มีส่วนร่วมโดยตรง) และจบด้วยทีมงาน Android กลายเป็นพนักงานกูเกิลในวันที่ 11 กรกฎาคม 2005
หลังจากนั้นไม่นาน Page พา Rubin มาแนะนำตัวกับทีมผู้บริหารภายในกูเกิล ซึ่งทีมก็โชว์เดโมไปตามปกติ แต่ตอนพูดถึงสไลด์หน้าที่เกี่ยวกับโมเดลการหาเงินของ Android ก็โดน Page ตัดบท แล้วบอกว่าอย่าเป็นห่วงเรื่องนั้นเลย ผมอยากให้พวกคุณสร้างโทรศัพท์ที่ดีที่สุด แล้วพวกเราจะจัดการเรื่องอื่นเอง
ที่มา - Ars Technica |
# ดีอีเอสเพิ่มข้อบังคับจัดเก็บข้อมูลระบุตัวตน ต้องเก็บข้อมูลมากกว่าเดิมร้านเน็ตต้องตั้งกล้องวงจรปิด
วันที่ 13 ส.ค. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศกฎหมายลูกของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ. 2564 ลงราชกิจจานุเบกษา มีข้อกำหนดเพิ่มเติมหลายเรื่อง และแบ่งแยกประเภทผู้ให้บริการรูปแบบใหม่ๆ อย่าง Clubhouse และ Telegram ด้วย
ประกาศฉบับนี้เป็นการอัปเดตจากประกาศฉบับเดิมเมื่อปี 2007 ที่ออกตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับแรก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ระบุให้ผู้ให้บริการต้องเก็บล็อกที่สามารถระบุรายละเอียดผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้ (Identification and Authentication) เช่น ลักษณะการใช้บริการ Proxy Server, Network Address Translation (NAT) หรือ Proxy Cache หรือ Cache Engine หรือบริการ Free Internet หรือ Wi-Fi Hotspot มาแต่แรก แต่ประกาศฉบับใหม่นี้เพิ่ม มาตรฐานการเก็บข้อมูลจราจรเข้ามาในภาคผนวก ข. มีเงื่อนไขหลายประการเพิ่มเติม เช่น รายละเอียดการใช้บริการในระบบคอมพิวเตอร์, ข้อมูลตัวอุปกรณ์ที่เข้าใช้งาน (system ID), รายงานการล็อกอินต้องระบุถึงการล็อกอินที่ไม่สำเร็จ, ไปจนถึงรายละเอียดธุรกรรมที่กำลังใช้งาน
ประกาศฉบับนี้ยังเพิ่มหมวดหมู่ผู้ใ้หบริการเพิ่มเติมเข้ามาอีกสองหมวด ได้แก่ บริการสื่อสารและแอปสโตร์ ที่รวมถึง เช่น App Store, Google Play, Clubhouse และ Telegram โดยเรียกว่า "ผู้ให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, แอปพลิเคชัน ที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถติดต่อสื่อสารข้อมูลถึงกันได้ (Online Application Store)" ในขณะที่แพลตฟอร์มหลักอย่าง Facebook, YouTube, WhatsApp, LINE, Instagram ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ "ผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์รวมถึงผู้ให้บริการในฐานะสื่อกลางในการรับส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะมีระบบบอกรับสมาชิกหรือไม่ก็ตาม"
สำหรับกรณีที่เป็นผู้ให้บริการร้านอินเทอร์เน็ตก็ต้องจัดเก็บข้อมูล จะต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดและบันทึกรายละเอียดการเข้าใช้งานของผู้ใช้บริการหรือลูกค้าในร้านของตนที่สามารถระบุตัวตนได้ และทำบันทึกที่เกี่ยวข้องกับการเข้าใช้บริการของลูกค้าของตนในแต่ละวันเพื่อให้ใช้เป็นหลักฐานที่ตรวจสอบได้ในภายหลัง
ที่มา - ประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ไทยรัฐพลัส |
# Twitter เตรียมแก้ไขโทนสี ในเว็บดีไซน์ใหม่ หลังมีผู้ร้องเรียนว่าปวดหัว สายตาล้า จากการใช้งาน
หลังจากที่ Twitter ประกาศปรับดีไซน์ของเว็บใหม่ โดยมีประเด็นสำคัญคือการใช้คู่สีที่ high contrast มากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานที่มีข้อจำกัด (accessibility) สามารถแยกความแตกต่างได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีอีกด้าน
Twitter ยอมรับผ่านบัญชี Twitter Accessibility ว่าการปรับดีไซน์นี้ ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งใช้งานได้ยากขึ้น ทั้งจากการปรับเปลี่ยนคู่สี และฟอนต์ Chirp โดยมีการร้องเรียนว่ามีอาการปวดศีรษะ หรือสายตาล้าเมื่อใช้งานไประยะเวลาหนึ่ง ซึ่ง Twitter จะทยอยแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
นอกจากนี้มีอีกประเด็น ที่ผู้ใช้งานสับสนกันมากคือปุ่ม Follow โดยคนที่เรายังไม่ติดตามจะเป็นปุ่ม Follow พื้นดำ ฟอนต์ขาว แต่ถ้าติดตามแล้วจะเป็นพื้นขาว ฟอนต์ดำ
ที่มา: Engadget |
# Debian 11 "Bullseye" ออกแล้ว
Debian 11.0 โค้ดเนม "Bullseye" (ตุ๊กตาม้าใน Toy Story) เข้าสถานะเสถียรหลังพัฒนามานาน 2 ปีกว่า ระบบปฏิบัติการจะใช้ได้นาน 5 ปี
ของใหม่ใน Debian 11 คือเป็น Debian รุ่นแรกที่รองรับระบบไฟล์ exFAT ที่ใช้ใน SD card, รองรับเครื่องพิมพ์ผ่านโปรโตคอล IPP-over-USB
แพ็กเกจซอฟต์แวร์ของ Debian 11 ก็ปรับให้ใหม่ขึ้น ฝั่งเดสก์ท็อปมีให้เลือกหลากหลาย Gnome 3.38, KDE Plasma 5.20, LXDE 11, MATE 1.24, Xfce 4.16 แพ็กเกจซอฟต์แวร์อื่นได้แก่ GIMP 2.10.22, Inkscape 1.0.2, LibreOffice 7.0, PHP 7.4 เป็นต้น
Debian ยังคงการออกรุ่นใหญ่ทุก 2 ปี รุ่นถัดไปคือ Debian 12 "Bookworm" (ตุ๊กตาหนอน) ในปี 2023 และ Debian 13 "Trixie" ตุ๊กตาไดโนเสาร์ ปี 2025
ที่มา - Debian
ภาพจาก Disney |
# แอปเปิลชี้แจงระบบสแกนภาพ ต้องยืนยันว่าเป็นภาพโป๊เด็กจากหลายชาติ, ให้ผู้ตรวจยืนยันว่าไม่ตรวจข้อมูลอื่น
แอปเปิลเพิ่มเอกสารชี้แจงจุดที่อาจจะถูกโจมตีได้ของระบบสแกนภาพอนาจารเด็กหรือ CSAM หลังจาก Craig Federighi เดินสายให้สัมภาษณ์และยอมรับว่ามีกระแสตีกลับ โดยเอกสารระบุถึงเงื่อนไขการออกแบบของแอปเปิล
เงื่อนไขที่แอปเปิลพูดถึงในเอกสารฉบับใหม่ ระบุว่าค่าแฮชที่แอปเปิลจะยอมรับ ต้องเป็นค่าแฮชที่ตรงกันจากองค์กรคุ้มครองเด็กสององค์กรที่อยู่ภายใต้คนละรัฐบาลกัน (separate sovereign jurisdictions) เงื่อนไขนี้ไม่ปรากฎอยู่ในเอกสารด้านเทคนิคฉบับแรกที่แอปเปิลเปิดเผยออกมาที่ระบุเพียงว่าค่าแฮชจะมาจาก NCMEC และองค์กรคุ้มครองเด็กอื่นๆ
กระบวนการอัพเดตฐานข้อมูลค่าแฮชนี้จะต้องอัพเดตผ่านการอัพเดตระบบปฎิบัติการที่ตรงกันทั้งโลก จะไม่มีการอัพเดตเฉพาะตัวฐานข้อมูลเปล่าๆ และไม่สามารถอัพเดตฐานข้อมูลบนเครื่องผู้ใช้รายคน แอปเปิลจะแสดงค่า root hash ของฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ และแสดงในเครื่องของผู้ใช้เอง
สำหรับประสิทธิภาพของตัวสแกน NeuralHash แอปเปิลสแกนภาพทั้งจากฐานข้อมูลของ NCMEC กับภาพที่ไม่เกี่ยวข้อง 100 ล้านภาพ พบภาพถูกแจ้งเตือนอย่างผิดๆ เพียง 3 ภาพ และเมื่อทดสอบกับภาพโป๊อื่นๆ อีก 500,000 ภาพก็ไม่พบภาพถูกแจ้งเตือนเลย โดยแอปเปิลยืนยันว่า NeuralHash ไม่ได้พยายามจับลักษณะภาพใดเป็นพิเศษ เช่น ลักษณะใบหน้า นอกจากนี้แอปเปิลยังป้องกันการแจ้งเตือนอย่างผิดๆ ด้วยการตั้งค่าว่าต้องพบภาพในฐานข้อมูลถึง 30 ภาพจึงแจ้งเตือน (ข้อมูลนี้เปิดเผยครั้งแรกหลัง Craig Federighi พบสื่อ โดยตอนให้สัมภาษณ์เขาพูดเพียงว่า "ประมาณ 30 ภาพ" แต่เอกสารยืนยันภายหลังว่าฐานข้อมูลแรกจะใช้เกณฑ์ 30 ภาพ) เกณฑ์นี้จะเปลี่ยนไปได้ในอนาคต และแอปเปิลจะแสดงข้อมูลคู่กับค่า root hash
แอปเปิลจะไม่มีฐานข้อมูลภาพ CSAM ที่องค์กรคุ้มครองเด็กส่งมาให้ อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ใช้มีภาพที่ถูกแจ้งเตือนครบเกณฑ์ เจ้าหน้าที่ของแอปเปิลจะเห็นภาพที่ถูกแจ้งเตือนและตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นภาพที่เข้าข่าย CSAM จริง แนวทางนี้ป้องกันการสอดไส้ค่าแฮชของข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในฐานข้อมูล และแอปเปิลจะให้ผู้ตรวจภายนอก (third party auditor) ยืนยันว่าทำตามกระบวนการที่วางไว้ทั้งหมดจริง
ที่มา - Apple |
# Rancher Desktop ออกรุ่น 0.4: สแกนความปลอดภัยอิมเมจ, ใช้งานจากลินุกซ์ใน WSL
Rancher Desktop โปรแกรมสำหรับรัน Kubernetes บนเดสก์ทอปออกรุ่น 0.4 ปรับปรุงการทำงานบนระบบปฎิบัติการทั้งวินโดวส์และแมคได้ดีขึ้นหลายอย่าง เช่น
เพิ่มฟีเจอร์สแกนความปลอดภัยของอิมเมจที่โหลดเข้ามา
เปลี่ยนเอนจินบนแมคเป็น Lima ที่ทำงานคล้ายกับ WSL บนวินโดวส์ ฟีเจอร์สำคัญคือ Rancher Desktop สามารถใช้พอร์ต TCP/UDP ของ Mac OS ได้แล้ว ทำให้นักพัฒนาาสามารถเรียกเซอร์วิสต่างๆ ทาง localhost ได้เลย ไม่ต้องหาไอพีของ VM ที่รันอีกที
เพิ่มฟีเจอร์ WSL Integration แบบเดียวกับ Docker Desktop ทำให้สามารถเรียกใช้ Rancher Desktop จากลินุกซ์ที่รันบน WSL ได้ โดยรองรับทั้งคำสั่ง kubectl, helm, และ kim
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ย่อยๆ เช่น เปลียนพอร์ตของ Kubernetes เพื่อหลบโปรเซสอื่นๆ ที่อาจจะใช้พอร์ตเดียวกับ Kubernetes อยู่ และรองรับ kubectl หลายเวอร์ชั่นขึ้น
ที่มา - SUSE |
# นักวิจัยเจาะข้อมูลออกจาก Virtual Machine แบบเข้ารหัสแรมบนซีพียู AMD ได้สำเร็จ
ฟีเจอร์ Secure Encrypted Virtualization (SEV) ของซีพียู AMD EPYC นับเป็นจุดขายสำคัญของ AMD ในช่วงหลังเนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์สามารถนำไปให้บริการคลาวด์แบบเข้ารหัส เพื่อรับประกันว่าแม้แต่เจ้าของเครื่องอย่างผู้ให้บริการคลาวด์เองก็ไม่เห็นข้อมูลภายในเครื่อง แต่ล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Technische Universität Berlin ก็พบแนวทางการเจาะข้อมูลออกจาก virtual machine ที่รันแบบเข้ารหัสนี้ได้
แนวทางของทีมวิจัยอาศัยไมโครคอนโทรลเลอร์ควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ บนเมนบอร์ดอย่างตรงเวลา โดยช่วงเริ่มบูตและกำลังโหลดรอม นักวิจัยพบว่าหากปรับโวลต์เข้าซีพียูให้ต่ำๆ ก็จะเกิดความผิดพลาดจนสามารถใส่รอมอื่นที่ไม่ใช่ของ AMD เองเข้าไปรันบนซีพียูได้ ส่งผลให้คนร้ายรันซอฟต์แวร์ระดับลึกที่สุดในซีพียูได้สำเร็จ นักวิจัยเสนอแนวทางลดผลกระทบช่องโหว่ ด้วยการเพิ่มฮาร์ดแวร์ตรวจสอบการจ่ายไฟเข้าซีพียูผิดปกติ หรือตรวจสอบรอมซ้ำก่อนรันเพื่อหาความผิดพลาด
ทาง AMD ระบุกับ The Register ว่าช่องโหว่เช่นนี้ต้องคนร้ายต้องเข้าถึงตัวเครื่องโดยตรงเท่านั้น ไม่สามารถโจมตีจากระยะไกลได้
ฟีเจอร์ SEV สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์มีประโยชน์สองระดับคือปกปิดข้อมูลบน VM จากผู้ใช้งานอื่นที่อยู่บนฮาร์ดแวร์เดียวกันในกรณีที่คนร้ายเจาะทะลุ VM ออกมาได้ และปกปิดข้อมูลจากผู้ให้บริการคลาวด์เอง ในกรณีนี้หากตัวผู้ให้บริการคลาวด์กลายเป็นคนร้ายเสียเองก็อาจจะใช้ช่องโหว่นี้ได้ แต่ในกรณีที่ใช้ป้องกันผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์ร่วมกันก็ยังนับว่าใช้ป้องกันได้อยู่
ตอนนี้ผู้ใช้ฟีเจอร์ SEV ของ AMD มีทั้ง Google Cloud, และ VMware
ที่มา - The Register |
# Boeing ยกเลิกการส่งยาน Starliner ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ หลังพบวาล์วไม่ทำงาน
Boeing ยกยาน Starliner ออกจากจรวด Atlas V เพื่อส่งยานกลับไปตรวจสอบในโรงงาน หลังทดสอบแล้วพบว่าวาล์วระบบขับดันสี่ตัวไม่ทำงาน
การยกยานกลับไปตรวจสอบในโรงงานทำให้ Boeing ไม่สามารถนำส่งยานได้ในช่วงนี้อีกแล้วเนื่องจากแท่นยิงต้องใช้กับภารกิจอื่นๆ ต่อไป
ยาน Starliner ในภารกิจ OFT-2 นี้มีกำหนดส่งขึ้นไปยังสถานีอวกาศนานาชาติเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ระหว่างการทดสอบและนับถอยหลังไปจนถึงเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งก่อนยิง ทาง Boeing ก็ยกเลิกภารกิจออกไป และไม่สามารถเดินหน้าภารกิจได้จนตัดสินใจถอดยานกลับไปทดสอบครั้งนี้
ที่มา - Boeing
ภาพโดย Boeing |
# เปิดตัว Exynos W920 ชิปตัวใหม่สำหรับนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ เริ่มใช้ใน Galaxy Watch 4
นอกจากการเปิดตัว Galaxy Watch 4 ซัมซุงยังเปิดตัวชิป Exynos W920 ที่ใช้ใน Galaxy Watch 4 ออกมาพร้อมกัน
การมาถึงของ Exynos W920 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของนาฬิกาสายซัมซุง เพราะ Galaxy Watch 1-3 ล้วนแต่ใช้ชิป Exynos 9110 ตัวเดียวกันหมด การอัพเกรดชิปรอบนี้ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกระดับ
สเปกของ Exynos W920 คือ
ซีพียูเป็นดูอัลคอร์ Cortex-A55 1.18GHz ประสิทธิภาพดีขึ้น 10% จากซีพียูของ Exynos 9110
จีพียู Mali-G68 MP2 ประสิทธิภาพขึ้น 10 เท่า
รองรับการแสดงผล qHD (960x540) ซึ่งความละเอียดสูงกว่าหน้าจอสมาร์ทวอทช์อยู่แล้ว
มีหน่วยประมวลผลพลังงานต่ำ Cortex-M55 แยกสำหรับการแสดงผลหน้าจอ Always-on-display เพื่อไม่ให้เปลืองพลังซีพียูหลัก
รองรับ LTE Cat.4 และ Cat.5
ผลิตด้วยกระบวนการ 5nm EUV ช่วยเรื่องพลังงาน, ใช้แพ็กเกจตัวชิปแบบ Fan-Out Panel Level Packaging (FO-PLP) ให้มีขนาดเล็ก
Exynos W920 จะถูกใช้งานในนาฬิกา Galaxy Watch 4 เป็นรุ่นแรก แต่ซัมซุงก็บอกว่าจะมีอุปกรณ์สวมใส่ยี่ห้ออื่นๆ สาย Wear OS ใช้ชิปตัวนี้ตามมาในอนาคต (Pixel Watch confirmed!)
ที่มา - Samsung |
# Quake ยังไม่ตาย เตรียมฉลอง 25 ปีด้วยฉากใหม่จาก Machine Games
Bethesda เผลอโพสต์ตารางการไลฟ์งาน QuakeCon 2021 ที่จะจัดในสัปดาห์หน้า (19-21 สิงหาคม) มีข้อมูลพูดถึงเกม Quake ที่มีอายุครบ 25 ปี และสตูดิโอในสังกัดคือ Machine Games (เจ้าของซีรีส์ Wolfenstein) จะมาสร้างฉากใหม่ให้กับ Quake "revitalized edition"
ในอดีต Machine Games เคยสร้างฉากใหม่ให้เกม Quake ภาคแรกมาแล้วคือ Dimension of the Past ในปี 2016 เพื่อฉลองเกม Quake อายุครบ 20 ปี
เมื่อไม่นานมานี้ เรายังเห็น Bethesda จับมือกับ NVIDIA พัฒนา Quake II ให้รองรับ ray-tracing แต่นั่นคือภาค 2 ไม่ใช่เกมต้นฉบับภาคแรก ต้องรอดูกันสัปดาห์หน้าว่า นอกจากเพิ่มฉากใหม่แล้วเราจะเห็นการยกเครื่องกราฟิกใหม่แบบเดียวกันหรือไม่
ภาพจาก Quake II เวอร์ชัน RTX
ที่มา - Ars Technica |
# Firefox ทดลองตั้งเลขเวอร์ชัน User Agent String เป็น 100 ทดสอบว่าเว็บพังหรือไม่
ปัจจุบัน เลขเวอร์ชันของ Firefox คือ 91 แต่ถ้าดูจากการเร่งออกเวอร์ชันใหม่ทุก 4 สัปดาห์ เราจะเห็น Firefox เวอร์ชัน 100 ในเดือนมีนาคม 2022
ลำพังเลขเวอร์ชันอย่างเดียวคงไม่มีผลในการใช้งานมากนัก แต่เว็บเบราว์เซอร์ต้องใส่เลขเวอร์ชันลงใน user agent string ที่ส่งให้ฝั่งเว็บไซต์-เว็บเซิร์ฟเวอร์ทราบด้วย การขยับเลขเวอร์ชันจาก 2 หลักเป็น 3 หลักจึงอาจส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ที่ไม่ได้เตรียมตัวเรื่องนี้ไว้
ล่าสุดทีม Mozilla จึงเริ่มทดลองปรับเลขเวอร์ชันใน user agent string ให้เป็น 100 เพื่อทดสอบดูว่าใช้งานแล้วจะพบปัญหาในเว็บไซต์ต่างๆ หรือไม่ หากพบปัญหาเยอะมาก แนวทางคงต้องคงเลขเวอร์ชันไว้ที่ 99.0 แทน
ทีมงาน Mozilla พบว่าลองตั้งค่าเป็น 100.0 ทำให้ใช้งานหน้าเว็บ Slack ภายในของ Mozilla เองไม่ได้ (ที่น่าสนใจคือถ้าตั้งเลขเวอร์ชันเป็น 100-519 จะพัง แต่ถ้าเลขเวอร์ชันเป็น 520 ขึ้นไปจะใช้ได้เฉยเลย) ซึ่งทีมงานฝั่ง Slack ก็รับทราบและแก้ปัญหาให้เรียบร้อยแล้ว
คนที่อยากทดสอบบ้างสามารถเข้าไปที่หน้า about:config และแก้ไขค่า general.useragent.override เป็น user agent string ข้างต้นดูได้
ที่มา - Bugzilla, Bleeping Computer |
# Facebook Messenger เพิ่มฟีเจอร์โทรด้วยเสียงและวิดีโอคอลแบบเข้ารหัสแล้ว
Facebook เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับแชทแบบเข้ารหัส โดยเพิ่มฟีเจอร์โทรด้วยเสียงและวิดีโอคอล รวมถึงอัพเดตเกี่ยวกับข้อความทำลายตัวเองอีกเล็กน้อย
สำหรับโทรด้วยเสียงและวิดีโอคอลแบบเข้ารหัส end-to-end จะเป็นฟีเจอร์เสริมจากการส่งข้อความแบบเข้ารหัสเดิม โดยเทคโนโลยีเบื้องหลังที่ใช้จะเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน WhatsApp ดังนั้นระหว่างทางรวมถึง Facebook เองก็ไม่สามารถเห็นได้ว่าสนทนาอะไรกัน
ส่วนระบบข้อความทำลายตัวเอง Facebook ระบุว่าเพิ่มการตั้งค่าเพื่อให้ตัวเลือกข้อความทำลายตัวเองให้มากขึ้น เร็วสุด 5 วินาที ไปจนถึงนานสุด 24 ชั่วโมง
Facebook ระบุว่า สัปดาห์หน้าทางบริษัทจะเริ่มทดสอบระบบเข้ารหัสเต็มรูปแบบในอีกหลายฟีเจอร์ เช่น แชทกลุ่มและโทรกลุ่มแบบเข้ารหัสใน Facebook Messenger และแชทเข้ารหัสสำหรับ DM บน Instagram
ที่มา - Facebook Messenger Newsroom |
# Cisco ซื้อกิจการ Epsagon มาเสริมแพลตฟอร์ม Full-Stack Observability
Cisco ประกาศซื้อกิจการ Epsagon ผู้พัฒนาเครื่องมือตรวจสอบการทำงานของแอพพลิเคชัน ที่โดดเด่นเรื่องแอพพลิเคชันบนสภาพแวดล้อมทั้งคอนเทนเนอร์ และเซิร์ฟเวอร์เลส เพื่อนำมาเสริมกับบริการแพลตฟอร์ม Full-Stack Observability ของ Cisco เอง
ดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่าอย่างเป็นทางการ แต่ทาง CRN ให้ข้อมูลว่าอยู่ที่ราว 500 ล้านดอลลาร์
Cisco อธิบายว่าแอพพลิเคชันเข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คนมากขึ้น องค์กรต้องการเครื่องมือที่ช่วยทั้งการพัฒนา ตรวจสอบ สเกล แอพพลิเคชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมาพร้อมกับความซับซ้อนของระบบที่มากขึ้น เครื่องมือตรวจสอบที่สามารถเข้าถึง เชื่อมโยงข้อมูลได้ในทุกจุดจึงมีบทบาทสำคัญ
ก่อนหน้านี้ Cisco ได้ซื้อกิจการ AppDynamics, ThousandEyes และ Intersight เพื่อมาเสริมกับแพลตฟอร์ม Full-Stack Observability ตามกลยุทธ์เน้นธุรกิจซอฟต์แวร์แบบ subscription ให้มากขึ้น
ที่มา: CRN และ Cisco |
# GitHub เล่าประสบการณ์ย้าย dev environment พนักงานมาเป็น Codespaces VM
GitHub ประกาศนำกระบวนการพัฒนาตัวเว็บ GitHub.com (github/github) มาอยู่บนผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองคือ GitHub Codespaces ทั้งหมดแล้ว
Codespaces คือบริการ IDE ครบวงจร ตั้งแต่ตัว code editor บนเว็บ (เป็น VS Code) และประมวลผลบน VM สมรรถนะสูงบนคลาวด์ (GitHub ใช้คำว่า "faster than your laptop") ทำงานได้จากทุกที่ขอแค่มีเพียงเว็บเบราว์เซอร์
GitHub เขียนเล่าเบื้องหลังการย้ายระบบตัวเองมาสู่ Codespaces ว่าในยุคแรกๆ ของบริษัท กำหนดสภาพแวดล้อมเป็น macOS แล้วให้พนักงานโคลน github/github มาลงเครื่อง รันสคริปต์ครั้งแรกเพื่อ bootstrap เซ็ตอัพระบบก่อนเริ่มลงมือทำงาน แต่เมื่อระบบซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ วิธีการนี้ก็เริ่มไม่เวิร์คอีกต่อไป การเซ็ตอัพอาจใช้เวลานานถึง 45 นาที
วิธีการแบบเดิมยังชี้ให้เห็นจุดอ่อนของการใช้ local environment ที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องแตกต่างกัน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่กลับทิศกับโลก infrastructure ที่มองว่าเซิร์ฟเวอร์แต่ละตัวสามารถใช้แทนกันได้เสมอ ถ้าเครื่องพังก็แค่เปลี่ยนเครื่องใหม่ใส่เข้าไป เมื่อมีโอกาสมาสร้าง Codespaces ทำให้ GitHub นำแนวคิดของฝั่งเซิร์ฟเวอร์มาใช้งาน ถ้าสภาพแวดล้อม dev environment พังก็แค่เปลี่ยน VM ตัวใหม่ แล้วทำงานต่อได้ทันที
การย้ายสภาพแวดล้อมพัฒนามาอยู่บน VM ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องระยะเวลาเซ็ตระบบ GitHub ระบุว่า repository ของ GitHub.com มีขนาดทั้งหมด 13GB แค่การโคลนก็ใช้เวลา 20 นาทีแล้ว การเซ็ตอัพระบบอย่างเดียวใช้เวลาถึง 45 นาที
พอมาทำ Codespaces ทีมงานก็เปลี่ยนวิธีคิดใหม่คือ โคลน repository ทั้งหมดไว้ล่วงหน้า และดึงข้อมูลจาก dependency ต่างๆ มาสร้างเป็น Docker image ที่อัพเดตใหม่ทุกคืน ถ้านักพัฒนาต้องการเรียกใช้งานพร้อมใช้ทันที ลดระยะเวลาเซ็ตอัพจาก 45 นาทีได้เหลือ 10 วินาทีเท่านั้น (GitHub โม้ว่าพนักงานใหม่ได้ dev environment ก่อนลง Slack เสร็จ) ถ้า dev environment พังก็แค่สลับ VM ใหม่ วันนั้นไม่เสียเวลาเปล่า ทำงานต่อได้เลย
GitHub ยังบอกว่าโมเดล VM ของ Codespaces ยังช่วยเรื่องประสิทธิภาพด้วย เพราะทำ optimization รอไว้ล่วงหน้าได้เลย ซึ่งเรามักไม่ค่อยได้ทำบน local environment เพราะมีต้นทุนเรื่องระยะเวลามากเกินไป แถมถ้าอยากปรับสเปกเครื่อง เพิ่มคอร์ซีพียู เพิ่มแรม ก็เปลี่ยนค่าบรรทัดเดียว อัพเกรดเครื่องให้วิศวกรทุกคนได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาซื้อเครื่องใหม่แล้วส่งไปให้ที่บ้าน
Codespaces ใช้ VS Code เป็นเครื่องมือหลัก แต่ก็ไม่อยากทิ้งนักพัฒนาสายอื่นๆ จึงเพิ่มทางเลือกคือเปิด SSH ไว้ให้ ใครที่อยากใช้ Vim หรือ Emacs ก็ล็อกอินเข้ามาใช้กันเองได้
ที่มา - GitHub |
# Craig Federighi ชี้แจงเอง เรื่องระบบสแกนภาพใน iPhone ยอมรับว่ามีกระแสตีกลับ
Craig Federighi หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ The Wall Street Journal ในประเด็นระบบสแกนภาพอนาจารเด็กในโทรศัพท์ (CSAM) ซึ่งมีกระแสตีกลับแสดงความกังวลอยู่มาก แม้แต่ในกลุ่มพนักงานของแอปเปิลเอง
โดย Craig บอกว่ากระแสตอบรับที่ออกมามีความเข้าใจในด้านลบอยู่มาก เขาจึงอยากชี้แจงให้ทุกคนเห็นข้อดีและเข้าใจสิ่งที่แอปเปิลทำอยู่ ประเด็นแรกคือแอปเปิลเปิดตัว 2 ฟีเจอร์ใหม่พร้อมกัน นั่นคือ ระบบสแกนภาพโป๊เด็กที่มีการอัปโหลดขึ้น iCloud และระบบวิเคราะห์หาภาพโป๊ใน Message สำหรับผู้ปกครองใช้ตรวจสอบเด็ก โดยสองฟีเจอร์นี้ทำงานแยกขาดจากกันเด็ดขาด ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด
Craig ลงรายละเอียดของส่วนการสแกนภาพโป๊เด็ก โดยย้ำว่าจะสแกนเฉพาะภาพที่อัปโหลดขึ้น iCloud เท่านั้น จึงไม่มีการสแกนหาภาพที่ระดับโทรศัพท์ และระบบจะตรวจจับภาพที่เข้าข่ายโดยจับคู่กับฐานข้อมูลภาพโป๊เด็กที่มี ซึ่งมาจากองค์กรที่มีการตรวจสอบข้อมูล และต้องมีจำนวนภาพถึงระดับหนึ่งเท่านั้น (ในข่าวระบุว่า 30) แอปเปิลจึงจะได้รับการแจ้งเตือนเพื่อเข้าไปตรวจสอบบัญชี ฉะนั้นรูปที่ไม่เข้าเกณฑ์เช่น ภาพลูกที่บ้านนั่งเล่นในอ่างอาบน้ำ ซึ่งมีคนตั้งคำถามเป็นจำนวนมาก หรือภาพโป๊อื่น ๆ ก็จะไม่ถูกตรวจสอบในกรณีนี้ รวมทั้งรูปในฐานข้อมูลที่อ้างอิงก็เป็นหน่วยงานที่ทำด้าน CSAM โดยเฉพาะ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีการสอดแทรกข้อมูลเพื่อตรวจสอบในแง่อื่นหรือไม่
ส่วนระบบของ Message ที่ให้ผู้ปกครองรับการแจ้งเตือนเมื่อเด็กรับส่งภาพโป๊นั้น การแจ้งเตือนจะส่งให้กับผู้ปกครองเท่านั้น แอปเปิลจะไม่รับทราบเรื่องนี้ และผู้ใช้ต้องกดยินยอมก่อนการใช้งาน
ที่มา: The Wall Street Journal |
# เปิดตัว Frostpunk 2 ภาคต่อเกมสร้างเมืองในโลกน้ำแข็ง, เปลี่ยนน้ำมันเป็นทรัพยากรหลัก, เพิ่มปัญหาขัดแย้งระหว่างฝ่าย
11 Bit Studios เปิดตัว Frostpunk 2 ภาคต่อเกมสร้างเมืองในโลกที่ถูกพายุน้ำแข็งปกคลุมในยุคปี 1800 ที่ผู้เล่นต้องบริหารทรัพยากรและวางแผนสร้างเมืองโดยอิงความอบอุ่นจากเครื่องกำเนิดพลังงานไอน้ำ เพื่อพามนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายฟันฝ่าโลกอันโหดร้ายไปให้ได้ โดยต้องออกกฎเกณฑ์และตัดสินใจเพื่อรักษาค่าพลังความหวัง และความไม่พอใจของชาวเมือง ให้อยู่ในระดับที่ไม่เกิดปัญหา
เหตุการณ์ใน Frostpunk 2 จะเกิดขึ้นหลังภาคแรก 30 ปี คราวนี้เปลี่ยนทรัพยากรหลักจากถ่านหินในเครื่องจักรไอน้ำ มาเป็นการใช้น้ำมันเป็นมาให้พลังงานและความอบอุ่นกับชาวเมืองแทน และยังเพิ่มประเด็นใหม่ด้านการเมือง ที่ผู้เล่นต้องจัดการความขัดแย้งระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่คอยแก่งแย่งทรัพยากรอยู่ตลอดเวลา
ตอนนี้ Frostpunk ภาคแรก เปิดให้เล่นฟรีบน Steam ถึง 17 สิงหาคม ส่วน Frostpunk 2 ยังไม่กำหนดวันวางจำหน่าย แต่สามารถเพิ่มไว้ใน Wishlist บน Steam ได้ทันที
ที่มา - Kotaku |
# อาลีบาบาตั้งทีมตรวจสอบพฤติกรรมคุกคามเพศ จัดเทรนนิ่งป้องกันตัวเองจากการถูกล่วงละเมิด
การคุกคามเพศในที่ทำงานกำลังเป็นประเด็นร้อนใน Activision Blizzard, Ubisoft ล่าสุดอาลีบาบาก็ถูกกล่าวหาว่ามีการถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานด้วย โดยผู้กระทำเป็นบุคคลระดับผู้จัดการในบริษัท
อาลีบาบาจึงเผยแพร่จดหมายถึงพนักงานกว่า 250,000 คน อธิบายสถานการณ์ดังกล่าว และระบุว่าบริษัทจะเริ่มโครงการฝึกอบรมการป้องกันตัวสำหรับพนักงานเพื่อป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศ โดยจะจัดอบรมทุกระดับทั้งพนักงานใหม่ พนักงานทั่วไป ผู้จัดการ และยังจัดตั้งทีม ALI-WE เพื่อตรวจสอบและกำจัดพฤติกรรมคุกคามเพศ
นอกจากนี้ อาลีบาบายังตั้งคณะกรรมการกลุ่มเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในที่ทำงาน นำโดยผู้บริหารหญิงอาวุโส กำหนดนโยบายสถานที่ทำงาน จัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อตรวจสอบการล่วงละเมิดทางเพศ
ที่มา - The Register |
# [ไม่ยืนยัน] อินเทลจองคิวโรงงานเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC เตรียมใช้กับเซิร์ฟเวอร์และกราฟิก
เว็บข่าว UDN ในจีนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตน ระบุว่าอินเทลได้ตกลงกับ TSMC เพื่อใช้สายการผลิตเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่า Intel จะใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรของ TSMC ผลิตชิปสำหรับเซิฟเวอร์และจีพียู
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือจาก Digitimes อ้างอิงแหล่งข่าวในซัพพลายเชน ว่า Apple น่าจะเป็นลูกค้ารายแรกที่ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรของ TSMC ในการผลิตชิปตระกูล A รุ่นต่อไปสำหรับ iPhone และในขณะเดียวกัน AMD ก็ใช้ไลน์การผลิตของ TSMC ในการผลิตทั้งซีพียูและจีพียู และน่าจะมีความต้องการใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรในอนาคตเช่นกัน
การที่ Intel เข้ามาร่วมใช้ไลน์ผลิต 3 นาโนเมตรของ TSMC ครั้งนี้ อาจเบียดโควต้าปริมาณการผลิตของทั้ง Apple และ AMD ให้เหลือน้อยลงไปอีก ท่ามกลางวิกฤตขาดแคลนชิปในปัจจุบัน และอาจเป็นแทคติกตัดกำลัง Apple และ AMD ชั่วคราวของ Intel ก่อนบริษัทจะมุ่งผลิตชิปเองต่อไปในอนาคต
ที่มา - UDN, Digitimes via Notebookcheck |
# ข้างในก็กังวล พนักงานแอปเปิลแสดงความกังวลนโยบายสแกนภาพในโทรศัพท์เป็นจำนวนมากใน Slack
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่าห้อง Slack ภายในของแอปเปิลเองมีการพูดคุยกันอย่างหนักถึงแนวทางการสแกนภาพในอุปกรณ์ของผู้ใช้ว่าอาจจะทำให้แอปเปิลเสียชื่อเสียงด้านความเป็นส่วนตัวที่สร้างมา
เธรดใน Slack ยาวกว่า 800 ข้อความแสดงความกังวลต่างๆ กันไปและไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านแนวทางของบริษัทไปเสียหมด บางคนระบุว่าหากมีระบบสแกนนี้แล้วแอปเปิลก็ควรเปิด iCloud ให้เข้ารหัสแบบปลายทางถึงปลายทางได้ บางคนก็กังวลว่ารัฐบาลต่างๆ จะหาทางขอสแกนข้อมูลอื่นๆ ตามต้องการในที่สุด อีกกลุ่มยืนยันว่าแนวทางนี้ลดแรงกดดันจากรัฐบาลอย่างสมเหตุสมผลแล้ว
ความกังวลของพนักงานเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะก่อนหน้านี้ผู้บริหารของแอปเปิลก็ส่งอีเมลถึงพนักงานระบุว่ารับทราบถึงความกังวลเหล่านี้แล้ว และยังพยายามเพิ่มเอกสารชี้แจงต่อท้ายการประกาศเข้ามา
ที่มา - Reuters |
# ซีอีโอก็ปลอมได้ NVIDIA เผย ซีอีโอในวิดีโอเปิดตัวผลิตภัณฑ์ สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นช่วงสั้นๆ
note: เวอร์ชั่นแรกของบทความนี้ไม่ได้ระบุว่า ช่วงที่เป็น Omniverse คือ 1:02:41 to 1:02:55 เป็นเวลา 25 วินาที ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นทั้งคลิป
งาน GTC2021 ของ NVIDIA ที่เปิดตัว NVIDIA Omniverse Enterprise แพลตฟอร์มจำลองโลกความเป็นจริงผ่านมาหลายเดือนแล้ว ล่าสุด NVIDIA ออกมาเผยว่า ช่วงสั้นๆ ประมาณ 25 วินาทีระหว่างการแลถงปิดตัวนั้น ทาง NVIDIA สลับไปใช้วิดีโอจาก Omniverse โดยภาพทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นห้องครัวหรือแม้แต่ซีอีโอ Jensen Huang ล้วนเป็นของปลอมที่สร้างขึ้นจากคอมพิวเตอร์กราฟิก ซึ่งในตอนนั้นไม่มีใครรู้เลย
Nvidia Omniverse ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างพื้นที่ทำงานเสมือน 3 มิติ ซึ่งในคีย์โน้ตฉากห้องครัวก็สร้างจากเทคโนโลยีตัวนี้ ในการสร้าง Jensen เสมือนจริงนั้น ทีมงานได้สแกนใบหน้าและร่างกายของเขาเพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ จากนั้นจึงฝึก AI ให้เลียนแบบท่าทางและการแสดงออกของเขา ส่วนห้องครัวก็เป็นแบบจำลองที่สร้างขึ้นเช่นกัน
ที่มา - NVIDIA, VICE |
# [ลือ] GTA 3, San Andreas และ Vice City กำลังถูกรีเมคด้วย Unreal Engine วางขายปลายปีนี้
หลังมีข่าวลือว่า Rockstar อาจกำลังทำเกมรีมาสเตอร์อยู่ 3 เกม แหล่งข่าวไม่เปิดเผยที่มาที่ Kotaku ระบุว่าให้ข่าวเกี่ยวกับเกมของ Rockstar ได้แม่นยำมาหลายครั้ง ก็ออกมายืนยันอีกเสียงว่าเป็นความจริง พร้อมระบุว่าเกมทั้งสามเกมที่จะถูกรีมาสเตอร์ คือเกม GTA 3, GTA: Vice City และ GTA: San Andreas
ทั้งสามเกมจะถูกรีมาสเตอร์บน Unreal Engine โดยทีม Rockstar Dundee หรือสตูดิโอ Ruffian Games ที่มีส่วนในการพัฒนา Crackdown 2 และ Crackdown 3 ที่ถูก Rockstar ซื้อมาผนวกเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเมื่อปีที่แล้ว โดย Unreal Engine จะมาแทนที่ RenderWare เอนจิ้นเดิมที่เกม GTA ทั้งสามภาคนี้เคยใช้ ซึ่งเป็นเกมเอนจิ้นที่สร้างโดย Criterion Software Limited ตั้งแต่ปี 1993
GTA ภาครีมาสเตอร์ทั้งสามภาค จะถูกขายเป็นคอลเล็กชั่นรวมสามเกม ผ่านช่องทางดิจิทัลเท่านั้น โดยจะลงทั้ง PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S, Switch, PC, Stadia, และบนมือถือ โดยภาคคอนโซลอาจออกก่อนหน้าเล็กน้อย ตามมาด้วยภาค PC และมือถือ ภายในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนปีนี้ นอกจากนี้ในข่าวยังระบุว่า Rockstar จะใช้ยอดขายของ GTA ภาครีมาสเตอร์ เป็นตัวตัดสินว่าจะรีมาสเตอร์เกม Red Dead Redemption ภาคแรกด้วยหรือไม่
ที่มา - Kotaku |
# เผยรายงาน Amazon จะมอนิเตอร์การกดแป้นคีย์บอร์ดของพนักงานบริการลูกค้า ป้องกันการขโมยข้อมูล
Motherboard รายงานโดยอ้างอิงเอกสารที่เผยแพร่ภายในว่า Amazon จะยกระดับการปกป้องข้อมูลลูกค้าด้วยการมอนิเตอร์การกดแป้นคีย์บอร์ดและเมาส์ของพนักงานบริการลูกค้าระหว่างทำงาน ป้องกันพนักงานที่เป็นแฮกเกอร์แฝงตัวเข้ามาเพื่อเอาข้อมูลลูกค้า โดยจะใช้เครื่องมือจากบริษัท BehavioSec
หน้าเว็บไซต์ BehavioSec อธิบายว่า การเคลื่อนไหวของเมาส์ จังหวะการพิมพ์ ท่าทางสัมผัสและปัด หรือวิธีที่คนถืออุปกรณ์ ถือเป็นพฤติกรรมไบโอเมตริกซ์ ซึ่งบริษัทใช้ส่วนนี้ในการตรวจสอบบุคคลโดยพิจารณาจากวิธีที่พวกเขามีส่วนร่วมกับอุปกรณ์ โดยซอฟต์แวร์ BehavioSec ใช้งานได้กับผู้ใช้ประมาณ 750,000 ราย มีราคา 1,360,000 ดอลลาร์
ภาพประกอบจาก Amazon
ในเอกสารบอกด้วยว่า ความเสี่ยงในการขโมยข้อมูลสูงขึ้นพร้อมกับพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านมากขึ้น โดยพื้นที่ที่เจอกรณีภัยคุกคามสูงคือ อินเดียราว 120 กรณี รองลงมาคือฟิลิปปินส์ ไม่เกิน 70 กรณี และสหรัฐฯ 40 กรณี
ตัวอย่างสถานการณ์ที่เอกสารยกมาคือ พนักงานบริการลูกค้าทำงานที่อพาร์ทเมนต์ของตัวเอง และลุกออกจากหน้าจอโดยไม่ล็อกเครื่อง เพื่อนร่วมห้องอาจสนใจที่ว่าผู้คนซื้ออะไรจาก Amazon จากนั้นจึงเข้ามาใช้เครื่องเพื่อค้นหาข้อมูลนั้นด้วยเครื่องมือค้นหาภายใน หรืออีกตัวอย่างคือ พนักงานคนนั้นใช้ USB Rubber Ducky ป้อนข้อมูลการกดแป้นพิมพ์แบบเร็วและขโมยบันทึกของลูกค้านับพันรายการได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เป็นต้น
ที่มา - VICE |
# GitHub หยุดรองรับการล็อกอินแอปด้วยรหัสผ่าน มีผลวันนี้ ต้องล็อกอินด้วย Token เท่านั้น
GitHub ยกเลิกการยืนยันตัวตนด้วยรหัสผ่านแล้ววันนี้ (13 สิงหาคม 2021) เปลี่ยนมาบังคับล็อกอินด้วยระบบ token แทนแล้ว (ล็อกอินด้วย personal token, OAuth, SSH key, ใช้ token จากแอพ GitHub App บนมือถือ)
ในกรณีที่ผู้ใช้ล็อกอิน GitHub แบบ two-factor authentication อยู่แล้วจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เพราะเป็นการล็อกอินด้วย token อยู่แล้ว
ผู้ใช้ที่ยังไม่เปลี่ยนมาล็อกอินด้วย token จะไม่สามารถสั่ง Git operation ได้ทั้งจากคอมมานด์ไลน์และแอพเดสก์ท็อป
GitHub ประกาศนโยบายนี้มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น เพราะ token สามารถกำหนดให้อิงตามบัญชีผู้ใช้-อุปกรณ์ได้, ถอน token ได้ถ้ามีปัญหา, จำกัดสิทธิการเข้าถึงได้ดีกว่า และเป็นข้อความสุ่มล้วนๆ ช่วยป้องกัน dictionary/brute force ได้ดีกว่ารหัสผ่าน
GitHub เลิกรับบัญชีใหม่ที่ล็อกอินด้วยรหัสผ่านมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 แล้ว ประกาศนี้มีผลกับบัญชีเก่าที่ยังล็อกอินด้วยรหัสผ่านแบบเดิมอยู่
ที่มา - GitHub, The Register |
# จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา Facebook เลื่อนเปิดสำนักงานไปยัง ม.ค. 2022
จากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ต้องทบทวนมาตรการกลับเข้าทำงานใหม่ ล่าสุด Facebook ประกาศเลื่อนเปิดสำนักงานไปยังเดือนมกราคมปี 2022 จากเดิมที่จะเปิดเดือนตุลาคมปีนี้ โดยพนักงานต้องสวมหน้ากากและฉีดวัคซีนแล้ว
โดย Facebook บอกว่าจะช่วยดำเนินการเรื่องวัคซีนให้กับพนักงานที่ยังไม่ได้ฉีด และจะคอยประเมินแนวทางของบริษัทในภูมิภาคอื่นๆ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น นอกจาก Facebook แล้ว Amazon และ Lyft ก็ประกาศในแนวทางเดียวกัน โดย Lyft เลื่อนเปิดสำนักงานไปยังวันที่ 2 กุมภาพันธ์ปีหน้าเลยทีเดียว
ที่มา - NBC News |
# Snipping Tool, Calculator, Mail ของ Windows 11 ปรับหน้าตาใหม่ รองรับ Dark Mode
ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 22000.132 มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญกับแอพของวินโดวส์ 3 ตัวคือ Snipping Tools, Calculator, Mail & Calendar
แอพจับหน้าจอ Snipping Tool ถูกเปลี่ยนใหม่ (อีกแล้ว) หลังจากยุค Windows 10 มีแอพจับหน้าจอสองตัวให้งงเล่นๆ คือ Snipping Tool และ Snip & Sketch
รอบนี้ไมโครซอฟท์พัฒนาแอพ Snipping Tool ตัวใหม่มาใช้แทน ปรับหน้าตาให้เข้าสมัยกับ Windows 11, รองรับ dark mode, นำฟีเจอร์จาก Snip & Sketch อย่างปุ่มลัด Win+Shift+S และการแก้ไข-เขียนบนภาพที่ดีขึ้น
แอพเครื่องคิดเลข Calculator นำเวอร์ชันที่โอเพนซอร์ส เขียนใหม่ด้วย C# มาใช้งาน, ปรับหน้าตาเป็น Windows 11, รองรับธีม dark mode, ฟีเจอร์วาดสมการคณิตศาสตร์
สุดท้ายคือ แอพอีเมลและปฏิทิน Mail & Calendar ปรับหน้าตาใหม่และรองรับ dark mode เช่นกัน
ที่มา - Microsoft |
# Galaxy Watch 4 ใช้ได้เฉพาะ Android ไม่รองรับ iOS, ฟีเจอร์บางอย่างมีเฉพาะมือถือซัมซุง
ซัมซุงเพิ่งเปิดตัวนาฬิกา Galaxy Watch 4 กลับมาใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ที่ร่วมพัฒนากับกูเกิล เป้าหมายคือรองรับแอพฝั่งแอนดรอยด์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลของการกลับมาใช้ Wear OS ทำให้ Galaxy Watch 4 ไม่สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟน iOS ได้เลย (นาฬิกาซัมซุงเดิมที่เป็น Tizen ทำได้) โดยรองรับเฉพาะอุปกรณ์ Android 6.0 ที่ต้องมี Google Mobile Services (GMS) ด้วย
นอกจากนี้ ฟีเจอร์เฉพาะบางอย่างของ Galaxy Watch 4 เช่น การวัดค่าความดันเลือดและ ECG ยังใช้ได้เฉพาะกับมือถือของซัมซุงบางรุ่นเท่านั้น
ที่มา - Ars Technica, 9to5google |
# Airbnb ไตรมาส 2/2021 จำนวนคืนที่เข้าพัก กลับมาใกล้เคียงกับปี 2019 แล้ว
Airbnb รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2021 มีจำนวนคืนที่เข้าพักรวม 83.1 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 197% เทียบกับปี 2020 และลดลง 1% หากเทียบกับปี 2019 สะท้อนว่าการใช้บริการบนแพลตฟอร์มเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ยังไม่มีการระบาดแล้ว
มูลค่ารวมจากการจองที่พัก (Gross Booking Value) เพิ่มขึ้น 320% จากปีก่อนเป็น 13.4 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับสองปีก่อน คิดเป็นรายได้ของ Airbnb 1,335 ล้านดอลลาร์ สุทธิแล้วขาดทุน 68 ล้านดอลลาร์
Airbnb รายงานในจดหมายถึงผู้ลงทุนว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 สะท้อนว่า ผู้คนพร้อมออกเดินทางท่องเที่ยวกันแล้ว และ Airbnb ก็พร้อมรองรับความต้องการที่พักให้กับพวกเขา ส่วนข้อสังเกตอื่น Airbnb พบว่าในยุโรปเริ่มมีการเดินทางข้ามประเทศมากขึ้น ส่วนเมืองยอดนิยมบนแพลตฟอร์ม อาทิ อิสตันบูล, ลาสเวกัส, เซาเปาโล เริ่มกลับมามีการจองใกล้เคียงช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว
ที่มา: Airbnb (pdf) และ CNBC |
# หัวหน้าทีมออกแบบ Apex Legends ถูกไล่ออก จากบล็อกเก่าที่เหยียดเพศหญิง
เพิ่งมีข่าวผู้บริหาร Blizzard ระดับหัวหน้าทีม Diablo IV ออกจาบริษัท ล่าสุดฝั่ง EA ก็มีประเด็นคล้ายๆ กันคือ Daniel Z. Klein หัวหน้าทีมดีไซน์เกมของ Apex Legends ถูกไล่ออกจากบริษัท จากบล็อกเก่าในปี 2007 ที่มีเนื้อหาเหยียดเพศหญิง และมีคนค้นพบแล้วขุดขึ้นมาวิจารณ์ใหม่
Klein ยืนยันว่าออกจาก EA/Respawn แล้ว และยอมรับว่า "เขาคนนั้นในปี 2007 สมควรถูกไล่ออก" แม้ภายหลังเขาพยายามทำตัวเป็นคนที่ดีขึ้นแล้วก็ตาม
ประเด็นเรื่องการเหยียดเพศเป็นปัญหาใหญ่ของวงการเกม ซึ่งเกิดขึ้นในบริษัทใหญ่หลายแห่ง ทั้ง Ubisoft, Activision Blizzard และล่าสุดกรณีนี้คือ EA
ที่มา - GamesIndustry.biz |
# Disney+ มีจำนวนสมาชิกในไตรมาสล่าสุด 116.0 ล้านบัญชีแล้ว
ดิสนีย์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 3 กรกฎาคม 2021 โดยบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Disney+ มีผู้จำนวนผู้สมัครใช้งานแบบเสียเงิน 116.0 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่ 57.5 ล้านบัญชี
อย่างไรก็ตามรายได้เฉลี่ยนั้นลดลง 10% เหลือ 4.16 ดอลลาร์ต่อสมาชิกต่อเดือน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากแพ็คเกจ Disney+ Hotstar ในหลายประเทศที่ใช้กลยุทธ์ราคาไม่สูง รวมทั้งประเทศไทยด้วย
ในไตรมาสที่ผ่านมา Netflix รายงานว่าจำนวนสมาชิกทั่วโลกมี 209.18 ล้านบัญชี
ซีอีโอ Bob Chapek ให้สัมภาษณ์หลังแถลงผลประกอบการว่าบริษัทยังคงแผนการทดลอง ที่จะนำภาพยนตร์ฉายเฉพาะในโรงหนังก่อน 45 วัน จากนั้นจึงลงสตรีมมิ่ง เพื่อดูว่าพฤติกรรมผู้ชมเปลี่ยนไปหรือไม่จากการระบาดของโควิด-19 โดยเรื่องล่าสุดคือ Shang-Chi ภาพยนตร์ล่าสุดในจักรวาล Marvel
Chapek ยังบอกว่าดิสนีย์คาดว่าจำนวนสมาชิก Disney+ จะอยู่ที่ 230-260 ล้านบัญชีตามแผนงานภายในปี 2024
ภาพรวมธุรกิจของดิสนีย์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 45% เป็น 17,022 ล้านดอลลาร์ มีกำไรสุทธิ 923 ล้านดอลลาร์ โดยกลุ่มธุรกิจ Parks, Experiences and Products ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานแล้ว อย่างไรก็ตามหากดูเฉพาะธุรกิจสวนสนุกที่เริ่มกลับมาเปิดก็ยังขาดทุนอยู่
ที่มา: CNBC |
# บริษัทไอทีรายใหญ่ร่วมก่อตั้ง eBPF Foundation ดูแลระบบตรวจสอบเคอร์เนลโดยตรง
บริษัทไอทีรายใหญ่ 5 บริษัท ได้แก่ Facebook, Google, Isovalent, Microsoft, และ Netflix ประกาศตั้ง eBPF Foundation ภายใต้ Linux Foundation เพื่อดูแลการพัฒนาของโครงการ eBPF โมดูลสำหรับการตรวจสอบค่าภายในของเคอร์เนล
eBPF เป็นโมดูลอเนกประสงค์ที่ใส่ไว้ในเคอร์เนลลินุกซ์ตั้งแต่ปี 2014 ความพิเศษคือมันเป็นโมดูลที่รับโค้ดจากภายนอกเข้าไปรันในเคอร์เนลเพื่อเก็บค่าต่างๆ เพื่อให้นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นมองเห็นการทำงาน แทนที่ต้องรอให้เคอร์เนลแสดงค่าบางส่วนออกมาทางช่องทางต่างๆ เพื่อให้ระดับ userspace เห็นตามความจำเป็น การเปิดช่องทาง eBPF ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างโปรแกรมใหม่ๆ เพื่อสังเกตการทำงานในระดับเคอร์เนลอย่างละเอียด
ที่ผ่านมา eBPF เริ่มมีโครงการย่อยๆ หรือโครงการที่เกี่ยวข้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การเปิดองค์กรขึ้นมาดูแลโดยตรงจะช่วยกำหนดทิศทางการพัฒนาในอนาคต และตอนนี้แม้แต่ไมโครซอฟท์ก็เปิดโครงการนำ eBPF ไปรันในเคอร์เนลวินโดวส์
ตอนนี้ประธานบอร์ด eBPF คือ Thomas Graf ผู้ร่วมก่อตั้ง Isovalent ผู้พัฒนา Cilium ระบบตรวจสอบเน็ตเวิร์คและกระจายโหลดใน Kubernetes
ที่มา - Isovalent |
# Microsoft ซื้อกิจการ Peer5 ผู้พัฒนา eCDN สำหรับงานถ่ายทอดสดที่รองรับผู้ชมจำนวนมาก
ไมโครซอฟท์ประกาศซื้อกิจการ Peer5 บริษัทจากอิสราเอลผู้พัฒนาระบบวิดีโอสตรีมมิ่งสำหรับลูกค้าองค์กร โดยไม่ได้เปิดเผยมูลค่าของดีลนี้ ซึ่งไมโครซอฟท์จะนำเทคโนโลยีของ Peer5 มาใช้กับ Microsoft Teams
Peer5 เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยี CDN สำหรับใช้งานในองค์กร (eCDN - Enterprise Content Delivery Networks) ที่อิงจากโครงการโอเพนซอร์ส WebRTC ของกูเกิล ช่วยลดการใช้งานแบนด์วิธ แต่ยังได้วิดีโอคุณภาพสูงให้กับกลุ่มคนจำนวนมากในองค์กร โดยไม่ต้องลงโปรแกรมใดเพิ่มเติมเพราะสามารถทำงานได้ผ่านเบราว์เซอร์
Hadar Weiss ซีอีโอ Peer5 กล่าวเทคโนโลยีของบริษัท เคยผ่านการรองรับงานถ่ายทอดสด ระดับที่มีผู้เข้าร่วมต่อเนื่องถึง 2 ล้านบัญชีมาแล้ว จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วมากกว่า 1 พันล้านบัญชี จากนี้บริษัทจะร่วมมือกับไมโครซอฟท์เพื่อนำโซลูชัน eCDN ไปใช้งานกับลูกค้าองค์กรทั่วโลก
ที่มา: ไมโครซอฟท์ และ Peer5 |
# แอป Outlook บน Android และ iOS ถอดฟีเจอร์ซิงก์ปฏิทินจาก Facebook มีผลเดือนหน้า
ไมโครซอฟท์ประกาศถอดคุณสมบัติการซิงก์ข้อมูลปฏิทินจากบริการ 3 ตัว ได้แก่ Facebook, Meetup และ Evernote ในแอป Outlook ทั้งบน Android และ iOS โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2021 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ในแอป Outlook จะแสดงข้อความเตือน ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนถึงกำหนดวัน หากผู้ใช้งานยังคงซิงก์ข้อมูลปฏิทินจากทั้ง 3 บริการดังกล่าว
ไมโครซอฟท์ไม่ได้อธิบายสาเหตุเพิ่มเติมที่ถอดคุณสมบัตินี้ออกไป รวมทั้งไม่ได้บอกว่าฟีเจอร์นี้จะกลับมาหรือไม่ในอนาคตแต่อย่างใด
ที่มา: ไมโครซอฟท์ ผ่าน Phone Arena |
# Reddit รับเงินลงทุนซีรี่ส์ F อีก 700 ล้านดอลลาร์ มูลค่ากิจการเพิ่มเป็นหมื่นล้านดอลลาร์
Reddit ประกาศแผนรับเงินเพิ่มทุนซีรี่ส์ F โดยมีกองทุน Fidelity Management ร่วมลงทุนแล้ว 410 ล้านดอลลาร์ และมีนักลงทุนอื่นร่วมลงทุนด้วยเป็นเงินรวม 700 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการของ Reddit อยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์
Steve Huffman ซีอีโอ Reddit ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าเงินลงทุนรอบใหม่นี้ จะนำไปลงทุนฟีเจอร์เกี่ยวกับวิดีโอ และการสนทนาเสียง รวมทั้งทำให้ผู้ใช้งานที่สมัครใหม่เรียนรู้บริการได้รวดเร็วมากขึ้น
Reddit มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 52 ล้านบัญชี และมีห้องย่อยมากกว่า 1 แสนห้อง
ที่มา: Yahoo! Finance และ Reddit |
# Galaxy Z Fold 3 ต้องใช้ปากกา S Pen เฉพาะรุ่นเท่านั้น ถ้าใช้ปากกาจาก Note จอจะพัง
สินค้าเด่นของซัมซุงที่เปิดตัวเมื่อคืนนี้คือ Galaxy Z Fold 3 มือถือจอพับได้รุ่นใหม่ที่รองรับปากกา S Pen โดยซัมซุงออกปากกา S Pen มาให้เป็นการเฉพาะ 2 รุ่นคือ S Pen Fold Edition และ S Pen Pro (มี Bluetooth)
ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมมาแล้วว่า Galaxy Z Fold 3 ต้องใช้กับปากกา S Pen เฉพาะ 2 รุ่นพิเศษนี้เท่านั้น ไม่สามารถนำปากกา S Pen จาก Galaxy Note รุ่นอื่นๆ มาใช้ร่วมกันได้ เพราะปากกา S Pen รุ่นเก่านั้นมีหัวคมกว่า เขียนแล้วมีโอกาสสูงที่จะทำให้จอของ Z Fold 3 เสียหายได้
ส่วน S Pen รุ่นพิเศษคือ S Pen Fold Edition และ S Pen Pro ใช้หัวปากกาแบบที่เรียกว่า Pro Tips นุ่มกว่าปกติ และกดแรงแล้วจะหดกลับได้ (retraceable) จึงลดโอกาสเป็นรอยขีดข่วน
ราคาขายของ S Pen Fold Edition (ไม่รวมเคสเก็บปากกาที่ขายแยกต่างหาก) อยู่ที่ 49.99 ดอลลาร์ ส่วน S Pen Pro ที่ใช้เป็นรีโมทได้ด้วย ราคา 99.99 ดอลลาร์
คลิปอธิบายเรื่อง S Pen ของซัมซุง
ที่มา - SamMobile |
# พนักงาน Blizzard ออกอีก: ผู้กำกับเกม Diablo IV, หัวหน้าทีมออกแบบเจ้าของชื่อ McCree
ความโกลาหลใน Blizzard ยังมีผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีพนักงานระดับสูงของ Blizzard ต้องออกจากบริษัทไปอีก 3 คน ได้แก่
Luis Barriga ผู้กำกับ Diablo IV
Jesse McCree หัวหน้าทีมออกแบบ Diablo IV (เจ้าของชื่อตัวละคร McCree ในเกม Overwatch)
Jonathan LeCraft ทีมออกแบบ World of Warcraft
Blizzard ยืนยันข่าวว่าพนักงานทั้ง 3 คนไม่อยู่กับบริษัทแล้ว แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่ชัดเจน ในขณะที่ Kotaku ระบุว่าพนักงานบางคนคือ McCree และ LeCraft มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องการเหยียดเพศ ซึ่งศูนย์กลางอยู่ที่ Alex Afrasiabi หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ World of Warcraft โดยเขาโดนให้ออกจากบริษัทไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
เมื่อต้นเดือนนี้ J. Allen Brack ประธาน Blizzard และ Jesse Meschuk ผู้บริหารฝ่าย HR ต่างลาออกไปจากบริษัทเช่นกัน
โฆษกของ Blizzard ระบุว่ายังมั่นใจว่าจะออกเกม Diablo IV ได้ตามกำหนด แม้ต้องเปลี่ยนตัวหัวหน้าทีม แต่บริษัทก็เพิ่งประกาศเลื่อน Diablo Immortal ภาคมือถือไปหมาดๆ
ที่มา - Kotaku |
# Foxconn ประกาศร่วมมือปตท. เปิดโรงงานรถไฟฟ้า เดินสายการผลิตปี 2023
Young Liu ประธาน Foxconn ประกาศในงานแถลงผลประกอบการระบุว่าเตรียมเปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าในสหรัฐฯ และในไทยภายในปี 2022 โดยจะพร้อมเดินสายการผลิตจริงในปี 2023 นี้
โรงงานในไทยจะเป็นการร่วมทุนกับปตท. โดยช่วงแรกจะผลิตเพื่อใช้งานในประเทศเท่านั้น และเพิ่มกำลังผลิตเพื่อรองรับตลาดอาเซียนต่อไป โดยรวมแล้วคาดว่าจะมีกำลังผลิตรถไฟฟ้า 150,000 ถึง 200,000 คันต่อปี
ตอนนี้ Foxconn มีธุรกิจกลุ่มรถไฟฟ้าอยู่แล้วเป็นการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ โดยคาดว่าเฉพาะปี 2021 นี้จะมีรายได้จากธุรกิจนี้รวม 10,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) เติบโต 40% จากปี 2021 เทียบกับรายได้จากการรับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เติบโตประมาณ 3-15% ต่อปี
ที่มา - Nikkei, Financial Times
ภาพโรงงาน Foxconn เมื่อปี 2011 โดย Nadkachna |
# อินเทลเตรียมเลิกพัฒนาคอมไพล์เลอร์เอง หันไปใช้ LLVM พบทำงานเร็วกว่า รีดประสิทธิภาพโค้ดได้ดีกว่า
อินเทลมีสินค้าชิ้นสำคัญในสายซอฟต์แวร์คือ Intel C++ Compiler ที่รีดประสิทธิภาพซีพียูได้ดีกว่าคอมไพล์เลอร์โอเพนซอร์สทั่วไป แต่ปีนี้อินเทลก็เตรียมย้ายเอนจินภายในของคอมไพล์เลอร์นี้ไปใช้ LLVM แทนแล้ว
LLVM เป็นโครงการที่มีโครงการย่อยๆ อยู่จำนวนมาก เช่น คอมไพล์เลอร์ภาษา C++ นั้นมีโครงการ Clang เป็นตัวคอมไพล์ภาษา (frontend) อยู่ โดยอินเทลจะพัฒนาให้ LLVM สามารถออปติไมซ์โค้ดได้ดีขึ้น โดยโค้ดส่วนหนึ่งจะส่งกลับเข้าโครงการ LLVM แต่บางส่วนจะเก็บไว้กับคอมไพล์เลอร์ Intel oneAPI เท่านั้น
อินเทลระบุว่าโดยรวมแล้วการเปลี่ยนเอนจินมาเป็น LLVM ทำให้ตัวคอมไพล์เลอร์ทำงานได้เร็วขึ้น 14% ขณะที่การคอมไฟล์โค้ดด้านเลขทศนิยม (floating point) นั้นได้โค้ดที่ทำงานเร็วกว่า GCC ถึง 41% เทียบกับกับเอนจินเดิมของอินเทลเองที่ได้โค้ดทำงานเร็วกว่า GCC อยู่ 18% เท่านั้น
ผู้ใช้คอมไพล์เลอร์เดิมของอินเทลยังคงใช้งานต่อไปได้ แต่อินเทลอาจจะปรับสภานะเป็น Legacy Product Support ที่หยุดการอัพเดตในอนาคต ดังนั้นหากใครใช้งานคอมไพล์เลอร์เดิมอยู่ก็ควรเตรียมปรับไปใช้เวอร์ชั่น LLVM
ที่มา - Inte
กราฟประสิทธิภาพโค้ดจากคอมไพล์เลอร์แบบต่างๆ เทียบกับ GCC 11.1 |
# ไมโครซอฟท์พบช่องโหว่ Print Spooler อีกครั้ง ยังไม่มีแพตช์ แนะนำให้ปิด service ไปก่อน
ไมโครซอฟท์รายงานช่องโหว่ CVE-2021-36958 ที่เปิดให้แฮกเกอร์สามารถยิงโค้ดเข้าไปรันด้วยสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ โดยตอนนี้ยังไม่มีแพตช์โดยเฉพาะ แต่ไมโครซอฟท์ก็แนะนำให้ปิด Print Spooler ไปก่อน
ช่องโหว่ Print Spooler ถูกทดสอบความปลอดภัยหลายครั้งตั้งแต่ก่อนงาน Black Hat ปีนี้ โดยมีเหตุผิดคาดเนื่องจากนักวิจัยของ Sangfor เปิดโด้ดเจาะช่องโหว่ออกมา และหลังจากนั้นก็มีการแก้ไขบั๊กแต่ยังไม่สมบูรณ์จนกระทั่งไมโครซอฟท์ต้องเปลี่ยนการใช้งาน โดยการติดตั้ง Point and Print ต้องใช้สิทธิ์แอดมินเท่านั้น
ช่องโหว่รอบใหม่นี้รายงานโดย Victor Mata จาก Accenture Security
ที่มา - Microsoft |
# eBay รายงานผลประกอบการไตรมาส ขายธุรกิจในเกาหลีใต้ให้ Emart
eBay รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 มีประเด็นสำคัญคือการขายธุรกิจในเกาหลีใต้ให้กับ Emart โดย eBay จะได้เงินจากดีลนี้ผ่านการขายหุ้นที่บริษัทถืออยู่ 80.01% ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้บริษัทยังเสร็จสิ้นดีลขายธุรกิจธุรกิจโฆษณาแบบคลาสสิฟายด์ ให้กับ Adevinta ซึ่งบริษัทจะได้เงินรวม 4,900 ล้านดอลลาร์ และยังถือหุ้นใน Adevinta อยู่ 33%
รายได้รวมของ eBay ในไตรมาสที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนเป็น 2,668 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญชี GAAP 294 ล้านดอลลาร์
อีกตัวเลขที่น่าสนใจคือ eBay มีจำนวนผู้ใช้งานที่ยังมีการซื้อสินค้า (Active buyers) ในช่วง 1 ปี ลดลง 2% เป็นจำนวน 159 ล้านราย ส่วนจำนวนผู้ขาย (Active sellers) เพิ่มขึ้น 5% เป็น 19 ล้านราย
ที่มา: eBay |
# Spotify รองรับการฟังเพลงแบบออฟไลน์บน Wear OS แล้ว
Spotify ประกาศอัพเดตแอปบน Wear OS โดยมีฟีเจอร์สำคัญคือการฟังเพลงแบบออฟไลน์ ซึ่งจะเริ่มใช้งานได้ในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้การฟังแบบออฟไลน์เปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ใช้แบบพรีเมียมเท่านั้น
สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปจะฟังเพลงได้ผ่านอุปกรณ์โดยตรงเช่นกัน แต่ต้องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตมือถือเท่านั้น ทั้งนี้อุปกรณ์ต้องอัพเดตเวอร์ชันเป็น Wear OS 2.0 เป็นอย่างน้อย
ในประกาศนี้ Spotify บอกว่าจะรองรับนาฬิกา Galaxy Watch 4 และ Galaxy Watch 4 Classic ที่เพิ่งเปิดตัวด้วย ซึ่งคาดเดาว่าในตอนแรกเป็นการพัฒนาฟีเจอร์เพื่อรองรับนาฬิกาสองรุ่นใหม่นี้ก่อน แต่ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะให้ใช้งานได้เฉพาะ Galaxy Watch 4 แต่อย่างใด
ที่มา: Spotify |
# [ไม่ยืนยัน] Pony.ai ระงับแผนเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากอาจถูกทางการจีนตรวจสอบ
สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวจากผู้เกี่ยวข้องว่า Pony.ai สตาร์ทอัพรถยนต์ไร้คนขับที่ดำเนินงานในอเมริกาและจีน เป็นบริษัทล่าสุดที่ได้ระงับแผนนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากยังไม่ได้รับความชัดเจนจากทางการจีน ในเรื่องการถูกตรวจสอบหากนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น เหมือนที่หลายบริษัทในจีนเจอก่อนหน้านี้
Pony.ai มีแผนจะนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในเดือนตุลาคมด้วยมูลค่ากิจการประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์ ผ่านวิธีการ SPAC โดยให้บริษัท VectoIQ Acquisition II เข้ามาซื้อกิจการ ทั้งนี้มูลค่ากิจการของ Pony.ai ที่มีการรายงานล่าสุดคือ 5,300 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว บริษัทมีผู้ลงทุนรายสำคัญคือโตโยต้า
บริษัทมีการดำเนินงานรถยนต์ไร้คนขับทั้งในอเมริกาและจีน โดยในจีนมีการทดสอบที่สองเมืองหลักคือปักกิ่งและกว่างโจว
ที่มา: Reuters |
# macOS Big Sur ออกอัพเดต 11.5.2 แก้ไขบั๊กทั่วไป
แอปเปิลออกอัพเดตย่อย macOS Big Sur 11.5.2 ซึ่งเป็นอัพเดตที่ออกต่อจาก 11.5.1 เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว
ในอัพเดตเวอร์ชันนี้ ไม่มีฟีเจอร์ใหม่หรือการแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง แต่แอปเปิลระบุสั้น ๆ เพียงว่า "แก้ไขบั๊กต่าง ๆ ใน Mac"
ผู้ใช้งาน macOS Big Sur สามารถอัพเดตได้โดยไปที่ System Preferences และเลือก Software Update
ที่มา: Ars Technica |
# วุฒิสมาชิกสหรัฐเสนอกฎลดอำนาจ Apple, Google ในการเป็นผู้ควบคุมตลาดแอปพลิเคชัน
วุฒิสมาชิกสหรัฐ Richard Blumenthal, Marsha Blackburn และ Amy Klobuchar เสนอกฎหมาย Open App Markets Act มีเป้าหมายเพื่อกำกับดูแลตลาดแอปพลิเคชัน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ Google และ Apple ที่มีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไขของตลาดแอป โดยเฉพาะเรื่องการบังคับเงื่อนไขจ่ายเงินในแอป ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ Apple โดนเพ่งเล็งเรื่องผูกขาดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
เนื้อหาของ Open App Markets Act มองว่า Google และ Apple ทำตัวเป็นผู้รักษาประตูของตลาดแอปพลิเคชัน สร้างข้อกำหนดเข้มงวด ปิดช่องทางการแข่งขันและผลักดันภาระราคาไปให้ผู้บริโภค จัดลำดับความสำคัญของแอปในเครือบริษัทตัวเองให้อยู่เหนือแอปภายนอก
อีกจุดมุ่งหมายของ Open App Markets Act คือปกป้องสิทธิ์ของนักพัฒนาหากต้องการเสนอการลดราคา ให้นักพัฒนาสามารถนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ผู้ใช้งานได้
หน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนการเสนอกฎ Open App Markets Act ได้แก่ Coalition for App Fairness (CAF) จัดตั้งโดย Epic Games, Basecamp, Spotify, Deezer และ Match Group อ่านข้อเสนอของ CAF ย้อนหลังได้ ที่นี่ รวมถึง Electronic Frontier Foundation และ Internet Accountability Project
ภาพจาก @ProtonMail ในการเปิดตัว CAF
ที่มา - Engadget, blumenthal.senate.gov/ |
# WhatsApp เปิดตัวฟีเจอร์โอนข้อมูลจาก iOS มา Android เริ่มจากมือถือพับจอของ Samsung ก่อน
WhatsApp ประกาศฟีเจอร์ใหม่ในงานเปิดตัว Galaxy Z Fold 3 คือฟีเจอร์โอนข้อมูลแชทระหว่างเครื่องจาก iOS ไป Android ได้ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีข่าวลือมาสักระยะแล้ว
ปัจจุบัน ระบบแบคอัพแชทของ WhatsApp คือจะแบคอัพขึ้นคลาวด์ของ OS ตัวเอง โดย iOS จะต้องแบคอัพขึ้น iCloud ส่วน Android จะแบคอัพขึ้น Google Drive ดังนั้นการจะโอนข้อมูลระหว่างเครื่องจะต้องเป็น OS เดียวกันเท่านั้น แต่ฟีเจอร์ใหม่จาก WhatsApp จะทำให้การโอนข้อมูลระหว่างระบบปฏิบัติการเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยผู้ใช้เพียงเสียบสาย Lightning to USB-C เท่านั้น
ฟีเจอร์ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างระบบปฏิบัติการของ WhatsApp จะครอบคลุมทั้งข้อความ, รูปภาพ และการสนทนา โดยตอนนี้จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะมือถือรุ่นพับจอของ Samsung ก่อน และจะเปิดให้ถ่ายโอนไปยังอุปกรณ์ Samsung ที่รัน Android 10 หรือใหม่กว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ดี WhatsApp ยังไม่ระบุชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้จะเปิดให้ใช้กับ Android เวอร์ชันอื่นด้วยหรือไม่ รวมถึงฟีเจอร์ถ่ายโอนข้อมูลจาก Android มา iOS ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมาเมื่อไร
ที่ม่า - The Verge |
# 1Password 8 for Mac ออกแล้ว ปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมเปิดให้ทดสอบแบบ Early Access แล้ววันนี้
1Password บริการบริหารจัดการรหัสผ่านเผยโฉม 1Password 8 เวอร์ชัน Mac อย่างเป็นทางการ ตามหลัง 1Password 8 for Windows ราว 2 เดือน
จุดเด่นหลักของ 1Password 8 คือการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ เน้นให้ข้อมูลชัดเจนว่าข้อมูลที่ถืออยู่มีอะไรที่แชร์บ้าง ใครที่แชร์ด้วย, ช่องค้นหาพร้อมระบบแนะนำ และ Watchover แดชบอร์ดแสดงข้อมูลความปลอดภัยของรหัสผ่านแบบก็อัพเดตใหม่เช่นกัน
1Password 8 for Mac ตอนนี้เปิดให้ทดสอบแบบ Early Access แล้ว ผู้ใช้สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ 1Password Support Community โดยผู้ใช้จะต้องถอนการติดตั้ง 1Password 7 ออกก่อนที่จะติดตั้งเวอร์ชันใหม่ลงไป และเตือนว่าตอนนี้ 1Password 8 ยังเป็นเวอร์ชันทดสอบเท่านั้น
ที่มา - 1Password |
# Microsoft Office, Teams, Outlook รองรับมือถือจอพับ เปิดแอพเดียวพร้อมกัน 2 ตัว ลากข้ามกันได้
ในงานเปิดตัวมือถือจอพับได้ Samsung Galaxy Z Flip 3 และ Z Fold 3 ซัมซุงได้ไมโครซอฟท์เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมเปิดตัวแอพเวอร์ชันจอพับได้ (foldable) ดังนี้
Microsoft Office สามารถเปิดแอพขึ้นมาสองตัวพร้อมกัน แล้วลากวัตถุข้ามกันได้ (จากภาพตัวอย่างเป็นการเปิด PowerPoint สองสไลด์พร้อมกัน)
Microsoft Teams โหมด whiteboard รองรับปากกา S Pen วาดไอเดียให้เพื่อนร่วมงานดูตอนประชุม
Microsoft Outlook แสดงผลสองจอ (dual pane) เห็นรายการอีเมล และพรีวิวอีเมล แบบเดียวกับ Outlook เดสก์ท็อป
การปรับแอพให้รองรับมือถือสองจอของไมโครซอฟท์ ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะไมโครซอฟท์เองก็มีอุปกรณ์สองจอ Android ของตัวเองคือ Surface Duo (ถ้ายังไม่ลืมกัน) และไมโครซอฟท์ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับซัมซุงมาตลอด ทั้งในแอพ Your Phone, OneDrive และอื่นๆ
Microsoft Office
Microsoft Teams
Microsoft Outlook
คลิปสาธิตการใช้งาน
ที่มา - Microsoft |
# Zoom เพิ่ม Focus Mode มองเห็นแค่โฮสต์เท่านั้น จดจ่อกับเนื้อหาประชุมหรือเรียนได้เต็มที่
Zoom เพิ่ม Focus Mode เพื่อให้นักเรียนมีสมาธิมากขึ้นขณะเรียนออนไลน์ หรือประชุมออนไลน์ เป็นโหมดที่นักเรียนจะมองไม่เห็นเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ยกเว้นครูผู้สอนเท่านั้น เพื่อไม่ให้วอกแวก เสียสมาธิจากการเคลื่อนไหวบนหน้าจอของเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ส่วนครูผู้สอนยังคงมองเห็นนักเรียนทุกคนอยู่
หน้าจอในมุมมองของนักเรียนที่ใช้ Focus Mode จะมองเห็นหน้าจอของเพื่อนๆ เป็นชื่อเท่านั้น ตามรูปภาพด้านล่าง คนเปิดใช้งานต้องเป็นโฮสต์หรือ โคโฮสต์ เมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมองเห็นไอคอนแสดง Focus Mode ปรากฏอยู่ตลอดเวลาที่เรียนหรือประชุม
ที่มา - Zoom |
# Twitter ปรับดีไซน์ใหม่ ใช้ฟอนต์ใหม่ Chirp, ใช้โทนสีฟ้าน้อยลง, ปุ่ม Follow กลายเป็นสีดำ
Twitter ประกาศเปลี่ยนฟอนต์แสดงผลใหม่ Chirp สำหรับหน้าเว็บและแอพ การเปลี่ยนแปลงยังมีผลเฉพาะตัวอักษรตะวันตกเท่านั้น
ฟอนต์ Chirp เป็นฟอนต์ที่ Twitter จ้างออกแบบเอง เพื่อใช้แทนฟอนต์เดิมๆ (SF Pro, Roboto, Helvetica Neue) โดยมีโจทย์ว่าต้องโดดเด่น จดจำได้ว่าเป็น Twitter และยังต้องอ่านง่าย คมชัด
นอกจากฟอนต์แล้ว Twitter ยังปรับดีไซน์ของหน้าเว็บและแอพใหม่ดังนี้
ปรับคู่สีที่ใช้ใหม่ ให้เป็น high contrast อ่านง่ายขึ้น ใช้สีฟ้าน้อยลง
ปุ่มต่างๆ ในหน้าเว็บจะใช้สี high contrast ให้เด่นขึ้นเช่นกัน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือปุ่ม Follow กลายเป็นสีดำ
ปรับดีไซน์โดยรวมให้สะอาดขึ้น ลดการใช้พื้นหลังสีเทา เส้นคั่น (divider line) ไม่ให้รกสายตา เพิ่มที่ว่างระหว่างข้อความ
Twitter บอกว่านี่ยังเป็นก้าวแรกของการปรับดีไซน์เท่านั้น และจะมีอย่างอื่นตามมาอีกในอนาคต |
# ServiceNow ซื้อกิจการ Mapwize ระบบแผนที่ภายในอาคารจากฝรั่งเศส
ServiceNow แพลตฟอร์มบริหารจัดการ Workflow ประกาศซื้อกิจการ Mapwize บริษัทผู้พัฒนาแผนที่ และระบบค้นหาเส้นทางภายในอาคารจากฝรั่งเศส โดยดีลนี้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่า
Blake McConnell ผู้บริหารของ ServiceNow อธิบายสาเหตุของดีลนี้ว่าในโลกยุคการทำงานแบบไฮบริด สถานที่ทำงานมีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้น ต่อประสบการณ์ของพนักงาน การนำบริการของ Mapwize จะช่วยเรื่องการจองที่นั่ง ห้องประชุม ทรัพยากรในสถานที่ทำงานได้สะดวกมากขึ้น และยังสามารถประเมินความถี่ในการใช้งานได้อีกด้วย
ServiceNow จะนำฟีเจอร์แผนที่ในอาคารของ Mapwize มาใส่ใน Now Platform และ Workplace Service Delivery Suite
ที่มา: ServiceNow |
# Android 12 Beta 4 เข้าสถานะ Platform Stability พร้อมทดสอบแอพ
กูเกิลออก Android 12 Beta 4 ซึ่งเป็น Beta สุดท้าย และเข้าสถานะ Platform Stability ตัวพฤติกรรมและ API ของระบบนิ่งแล้ว จากนี้จะเข้าสู่การแก้บั๊กเป็นหลัก
กูเกิลแนะนำให้นักพัฒนาแอพเข้ามาทดสอบความเข้ากันได้กับ Android 12 Beta 4 ได้แล้ว หลังจากนี้กูเกิลจะออกรุ่น Release Candidate อีกหนึ่งตัวก่อนออก Android 12 ตัวจริง ซึ่งยังไม่ระบุช่วงเวลาชัดเจน แต่ก็น่าจะราวๆ เดือนตุลาคมเหมือนเช่นทุกปี
มือถือกลุ่ม Pixel สามารถทดสอบ Beta 4 ได้ทันที ส่วนมือถือยี่ห้ออื่นๆ ดูรายละเอียดได้จากหน้า Android Beta
ที่มา - Android |
# Accenture ถูก ransomware LockBit โจมตี พร้อมขู่เตรียมเผยแพร่ข้อมูล 6TB หากไม่จ่ายค่าไถ่
Accenture ผู้ให้คำปรึกษาด้านไอทีรายใหญ่ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ LockBit 2.0 ระบุว่าได้ข้อมูลออกไปทั้งหมด 6 เทราไบต์ เรียกค่าไถ่ 50 ล้านดอลลาร์ หรือ 1,700 ล้านบาท หากไม่จ่ายค่าไถ่ก็เตรียมเปิดเผยข้อมูลออกสู่สาธารณะ
ทาง Accenture ยืนยันกับ BleepingComputer ว่าถูกโจมตีจริง แต่สามารถตรวจพบความผิดปกติในเครือข่ายและจำกัดการโจมตีได้แล้ว ตอนนี้ระบบที่ได้รับผลกระทบสามารถกู้คืนจากข้อมูลสำรองและทำงานต่อได้แล้ว โดยยังไม่พูดถึงว่าจะเกิดผลกระทบอะไรบ้างหากข้อมูลหลุดออกมาจริง
ตอนนี้ LockBit 2.0 ไม่เปิดเผยว่าข้อมูลที่ได้ไปมีอะไรบ้าง และไม่เปิดเผยหลักฐานว่าได้ข้อมูลไปจริง
ที่มา - ZDNet, BleepingComputer
ภาพ Accenture Building โดย Michael Gray |
# Signal ออกอัพเดต เพิ่มฟีเจอร์เปิดระบบข้อความทำลายตัวเองอัตโนมัติทุกครั้งเมื่อเริ่มแชทใหม่
Signal แอปแชทเน้นความเป็นส่วนตัวเพิ่มฟีเจอร์เปิดระบบข้อความทำลายตัวเองเป็นค่าอัตโนมัติเมื่อเปิดแชทใหม่ จากเดิมที่ค่านี้จะต้องเปิดเองทีละแชท
วิธีเปิดข้อความทำลายตัวเองเป็นค่าเริ่มต้น จะต้องไปตั้งค่าโดยกดที่รูปของตัวเอง > Privacy > Default Timer for New Chats โดยค่าเริ่มต้นจะเป็น Off สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ตามต้องการ และหลังจากนั้นหากเริ่มคุยแชทใหม่กับใครก็จะตั้งค่านี้ให้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ Signal ยังเพิ่มฟีเจอร์ custom timer เพื่อกำหนดเวลานับถอยหลังเองได้ ซึ่งฟีเจอร์ทั้งหมดนี้เริ่มเปิดให้ใช้งานแล้ว ผู้ที่มี Signal แล้วสามารถอัพเดตแอปและใช้งานได้ทันที
ที่มา - Signal
ภาพจาก Signal |
# หัวเว่ยเตรียมลงทุนในไทยเพิ่ม ระบุที่ผ่านมาอัตราการใช้งานคลาวด์เติบโตสูงปีละเท่าตัว เตรียมบุกตลาดพลังงาน
หัวเว่ยจัดงานแถลงข่าวประจำปี ยืนยันถึงแนวทางลงทุนในประเทศไทยต่อเนื่องไปพร้อมๆ กับความช่วยเหลือทั้งด้านการศึกษาและการสนับสนุนเทคโนโลยีสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ในช่วง COVID-19 โดยการลงทุนในไทยแบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยี 5G, ศูนย์ข้อมูลและคลาวด์, พลังงานดิจิทัล, และการพัฒนาทักษะดิจิทัล
ปีนี้หัวเว่ยจะลงทุนพัฒนาคลาวด์ในประเทศไทยรวม 700 ล้านบาท โดยเฉพาะการสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งที่สามในประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมาลูกค้าใช้งานคลาวด์ของหัวเว่ยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอัตราเพิ่มถึงปีละ 100% โดยผลสำรวจตลาดต้นปีที่ผ่านมาหัวเว่ยเป็นผู้ให้บริการคลาวด์อันดับสามในประเทศไทยตามจาก AWS และ Azure โดยทิ้งห่าง Google Cloud ค่อนข้างมาก
ธุรกิจด้านพลังงานดิจิทัลของหัวเว่ยอาจจะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างนัก โดยธุรกิจนี้รวมทั้งศูนย์ข้อมูลสำเร็จรูป, ระบบโซลาร์เซลล์อัจฉริยะ, และระบบจ่ายไฟตามไซต์งาน (site power facility - ระบบจ่ายไฟตามเสากล้องวงจรปิด หรือจ่ายไฟเสาสัญญาณโทรศัพท์) นอกจากนี้ยังพัฒนาระบบชาร์จไฟให้กับรถไฟฟ้า ตอนนี้หัวเว่ยกำลังขยายธุรกิจนี้ในประเทศไทยโดยเพิ่มพาร์ทเนอร์เพื่อให้บริการติดตั้งและโซลูชั่นมากกว่า 50 ราย
ที่มา - จดหมายข่าวและงานแถลงข่าวหัวเว่ย
ภาพการพัฒนาสินค้ากลุ่มพลังงานของหัวเว่ย |
# Samsung เปิดตัวหูฟัง Galaxy Buds 2 มีระบบตัดเสียง ANC ราคา 3,990 บาท
Samsung เปิดตัวหูฟังไร้สาย Galaxy Buds 2 ในงาน Galaxy Unpacked วันนี้ เป็นหูฟังอินเอียร์ มี ANC พร้อมโหมด Transparency เสียงด้านนอกเข้าได้สูงสุด 9 เดซิเบล มี Voice Pickup Unit (VPU) ที่จะปรับเป็นโหมด Transparency อัตโนมัติ เมื่อผู้ใช้เริ่มพูด
ตัวหูฟังเป็นไดรเวอร์คู่ Woofer ขนาด 11 มม. กับ Tweeter ขนาด 6.3 มม. จูนเสียงโดย AKG มีไมค์ข้างละ 3 ตัว กันน้ำ IPX2 หรือกันน้ำในระดับน้ำกระเซ็น ทำมุมไม่เกิน 15 องศากับตัวเครื่อง (พอใส่ออกกำลังได้)
แบตเตอรี่ใช้ฟังเพลงได้สูงสุด 5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC รวมชาร์จในเคสอีก 15 ชั่วโมง เป็นสูงสุด 20 ชั่วโมง (ใช้โทรศัพท์ได้สูงสุด 3.5 ชั่วโมง) มีระบบ Fast Charge ชาร์จ 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง
Galaxy Buds 2 วางจำหน่ายในราคา 3,990 บาท มี 3 สี คือ สีแกรไฟต์, สีเขียว Olive และ สีม่วงลาเวนเดอร์ ยังไม่เปิดเผยวันวางจำหน่าย
ที่มา - Samsung, Samsung Newsroom |
# Samsung เปิดตัวมือถือจอพับได้ Galaxy Z Fold 3 รองรับ S Pen เริ่ม 57,900 บาท Z Flip 3 เริ่ม 34,900 บาท
Samsung เปิดตัวมือถือหน้าจอพับได้รุ่นใหม่สองรุ่นในงาน Galaxy Unpacked วันนี้ คือ Galaxy Z Fold3 5G แบบกางออกมาเป็นหน้าจอกึ่งแท็บเล็ต และ Galaxy Z Flip 3 5G กางออกเป็นหน้าจอแนวตั้งแบบทางยาว ทั้งสองรุ่นใช้ชิป Snapdragon 888 ในประเทศไทย รองรับ 5G และกันน้ำ IPX8 รายละเอียดอื่นๆ มีดังนี้
Galaxy Z Fold3 5G
หน้าจอ AMOLED ด้านนอกขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 832 x 2268 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
หน้าจอภายใน AMOLED ขนาด 7.6 นิ้ว ความละเอียด 2208 x 1768 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
ชิป Snapdragon 888
แรม 12GB
หน่วยความจำภายใน 256GB และ 512GB
กล้องหน้าบนจอด้านนอก 10MP
กล้องหน้าบนจอด้านใน เป็นกล้องหน้าใต้จอ 4MP
กล้องหลัง 3 กล้อง ความละเอียด 12M ทั้งกล้องไวด์ อัลตร้าไวด์ และเทเลโฟโต้ P
แบตเตอรี่ 4,400mAh
กันน้ำ IPX8
รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.5
หน้าจอภายในของ Galaxy Z Fold3 5G รองรับการใช้งานกับ S Pen รุ่นใหม่ (ต้องซื้อแยก) ที่หัวนุ่มและมนยิ่งขึ้น พร้อมสะปริงดูดซับแรงกระแทก และไม่รองรับการใช้งานกับ S Pen รุ่นเก่า S Pen ที่ใช้ได้กับ Z Fold3 5G มีสองเวอร์ชั่นคือ S Pen Fold Edition ที่ใช้งานได้เฉพาะกับ Z Fold3 เท่านั้น และ S Pen Pro ที่ครอบคลุมการใช้งานกับรุ่นอื่นด้วย
Galaxy Z Fold3 5G มี 3 สี คือสีดำ Phantom Black, สีเขียว Phantom Green และ สีเงิน Phantom Silver รุ่นความจุ 256GB ราคา 57,900 บาท รุ่น 512GB ราคา 61,900 บาท
Galaxy Z Flip3 5G
หน้าจอ AMOLED ด้านนอก 1.9 นิ้ว ความละเอียด 260 x 512 พิกเซล
หน้าจอ AMOLED ภายใน 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz
ชิป Snapdragon 888
แรม 8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB และ 256GB
กล้องหน้า 10MP
กล้องหลัง 2 กล้อง เป็นกล้องไวด์ กับอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP ทั้งคู่
แบตเตอรี่ 3,300mAh
กันน้ำ IPX8
รัน Android 11 ครอบด้วย One UI 3.5
ไม่รองรับ S Pen
Galaxy Z Flip3 5G มี 4 สีได้แก่ สีครีม, สีเขียว, สีม่วงลาเวนเดอร์ และ สีดำ Phantom Black รุ่น 128GB ราคา 34,900 บาท รุ่น 256GB ราคา 36,900 บาท
ทั้งสองรุ่นสั่งจองได้ที่หน้าเว็บ Samsung ในวันที่ 11 สิงหาคม ถึง 22 สิงหาคมนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนและใช้โค้ดจากเว็บ Samsung จะได้รับเครื่องเป็นกลุ่มแรกวันที่ 2 กันยายน ได้ประกัน Samsung Care+ ฟรี 1 ปี และได้บัตรกำนัล Samsung 9,000 บาทไว้ใช้ครั้งต่อไป
ที่มา - Samsung Newsroom, Samsung |
# เปิดตัว Samsung Galaxy Watch 4 รัน Wear OS มีเซ็นเซอร์ ECG, วัดออกซิเจนในเลือด, ความดัน และองค์ประกอบร่างกาย ราคาเริ่มต้น 7,990 บาท
Samsung เปิดตัว Galaxy Watch 4 เปลี่ยนระบบปฏิบัติการจาก Tizen มาเป็น Wear OS Powered By Samsung ระบบปฏิบัติการ Wear OS 3.0 ครอบทับด้วย One UI Watch สามารถใช้งานแอปบน Google Play Store ของ Wear OS ได้ ใช้งานผู้ช่วยอัจฉริยะได้ทั้ง Google Assistant และ Bixby มีระบบซิงก์แอป เพื่อลงแอปเหมือนกับบนมือถือแอนดรอยด์ให้อัตโนมัติ
Galaxy Watch 4 มีสองรุ่นย่อย Watch 4 Classic ขอบเรือนหมุนได้ ตัวเรือนวัสดุสแตนเลสสตีล ขนาดหน้าปัด 42 และ 46 มิลลิเมตร และ Watch 4 ที่นำขอบเรือนหมุนได้ออก ใช้ระบบสัมผัส วัสดุตัวเรือนเป็นอะลูมิเนียม บางกว่าเล็กน้อย มีขนาดหน้าปัด 40 และ 44 มิลลิเมตร ทุกรุ่นกันน้ำกันฝุ่น IP68
หน้าจอมีสองขนาด ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ 1.2 นิ้ว ความละเอียด 396 x 396 พิกเซลในรุ่นหน้าปัดเล็กกว่า ส่วนรุ่นหน้าปัดใหญ่กว่าใช้หน้าจอ 1.4 นิ้ว ความละเอียด 450 x 450 พิกเซล
สเปกภายในใช้ชิป Exynos W920 กระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร พร้อมแรม 1.5GB หน่วยความจำภายใน 16GB มาพร้อมเซ็นเซอร์ ECG เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนในเลือด เซ็นเซอร์วัดความดัน และเซ็นเซอร์วัดองค์ประกอบร่างกายด้วยไฟฟ้า (Biological Impedance Analysis)
ระบบติดตามการนอนหลับ สามารถทำงานร่วมกับมือถือ Samsung เพื่อจับเสียงกรน ไปพร้อมการวัดออกซิเจนในเลือด เพื่อตรวจจับ Sleep Apnea หรือการหยุดหายใจขณะหลับ และวัดคุณภาพการนอนหลับได้ละเอียดยิ่งขึ้น
Samsung ประเทศไทยระบุว่าฟีเจอร์วัด ECG กับวัดความดันเลือด ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการขออนุญาตใช้งาน เพราะเป็นฟีเจอร์ทางการแพทย์ และจะใช้งานได้ในอนาคต ส่วนฟีเจอร์วัดองค์ประกอบร่างกายสามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อวางขายในวันที่ 10 กันยายน ในราคาดังนี้
Galaxy Watch 4
หน้าปัดขนาด 40 มิลลิเมตร มีสีดำและพิงค์โกลด์ รุ่น Bluetooth ราคา 7,990 บาท
หน้าปัดขนาด 44 มิลลิเมตร มีสีดำและสีเขียว รุ่น Bluetooth ราคา 8,990 บาท รุ่น LTE ราคา 10,900 บาท
Galaxy Watch 4 Classic
มีเฉพาะรุ่นหน้าปัดขนาด 46 มิลลิเมตร
รุ่น Bluetooth มีสีดำและสีเงิน ราคา 11,900 บาท
รุ่น LTE มีเฉพาะสีดำ ราคา 13,900 บาท
ที่มา - Samsung Galaxy Unpacked August 2021, Samsung Newsroom ประเทศไทย |
# Facebook แบนบัญชีเชื่อมโยงรัสเซีย รับงานแพร่ข้อมูลโจมตีวัคซีน Pfizer และ AstraZeneca
การจัดการข่าวปลอมวัคซีนดูเป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้ไม่มีวันจบสิ้น Facebook ออกมาเผยว่าได้ระงับบัญชีจำนวนหลักร้อย ที่มีความเกี่ยวข้องกับเอเจนซี่รายหนึ่ง ที่ให้เงินอินฟลูเอนเซอร์ให้พูดดิสเครดิตวัคซีน COVID-19 โดยเฉพาะ Pfizer และ AstraZeneca
บัญชีกลุ่มนั้นได้แก่ เครือข่ายบัญชี Facebook 65 บัญชีและ Instagram 243 บัญชี ตรวจสอบย้อนหลังตามรอยไปจนพบบริษัทเจ้าหนึ่งชื่อว่า Fazze จดทะเบียนในอังกฤษ และ Facebook ระบุว่างานของ Fazze มาจากรัสเซีย
บัญชีเหล่านี้เพื่อเผยแพร่ข้อมูลผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน Pfizer และ AstraZeneca เช่น ฉีด AstraZeneca แล้วเปลี่ยนคนเป็นลิงชิมแปนซี เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายของบัญชีปลอมเหล่านี้คือผู้ใช้งาน Facebook, Instagram ใน อินเดีย, ละตินอเมริกา และสหรัฐอเมริกา
นอกเหนือจากการลบบัญชีของเครือข่ายแล้ว Facebook ยังแบน Fazze จากแพลตฟอร์มด้วย
ที่มา - CBS News, Facebook |
# Visual Studio ออกเวอร์ชัน v16.11 ตัวหลักสุดท้ายของสาย 2019, ใช้ได้จนถึงปี 2029
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio 2019 v16.11 มีอัพเดตฟีเจอร์เล็กน้อยเรื่อง Hot Reload ของการเขียนแอพ .NET, อัพเกรดคอมไพเลอร์ Clang/LLVM เป็นเวอร์ชัน 12, ปรับปรุงการใช้เมนู Git
ความสำคัญของ Visual Studio v16.11 คือจะเป็นอัพเดตสุดท้ายของ Visual Studio 2019 ที่มีฟีเจอร์ใหม่แล้ว หลังจากนี้จะมีแต่อัพเดตแก้บั๊กและความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว เพราะไมโครซอฟท์ย้ายไปพัฒนา Visual Studio 2022 แทนแล้ว
Visual Studio 2019 v16.11 จะสามารถยังใช้ได้นานไปจนถึงปี 2029 (เท่ากับอายุขัยของ Visual Studio 2019) โดยหลังจากไมโครซอฟท์ออก v16.11 แล้วจะทยอยหยุดซัพพอร์ต v16.x รุ่นก่อนหน้านี้
ที่มา - Microsoft |
# บริการโอนเงินข้ามเชน Poly Network ถูกแฮก ถูกขโมยเงินคริปโต 20,000 ล้านบาท
Poly Network บริการทำธุรกรรมข้ามแพลตฟอร์มแบบ DeFi ถูกแฮก smart contract จนถูกดูดทรัพย์สินออกไปทั้งหมด รวมมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท
ช่องโหว่เกิดจากการเรียกฟังก์ชั่นใน smart contract ที่สามารถเปลี่ยนบัญชีผู้ดูแลเงินได้ ทำให้แฮกเกอร์นำบัญชีตัวเองเข้ามาสวมและสั่งโอนเงินออกไปได้อย่างอิสระ
ทาง Poly Network พยายามเจรจากับแฮกเกอร์ โดยระบุว่าหากเอาเงินหนีไปก็จะกลายเป็นคดีอาญาทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง และบัญชีที่แฮกเกอร์ใช้โอนเงินออกไปก็ถูกจับตาอยู่ ดังนั้นทางเลือกของแฮกเกอร์จึงควรโอนเงินกลับมา พร้อมกับแจ้งหมายเลขบัญชีทั้งบน Ethereum, Binance (BSC), และ Polygon
ล่าสุด Poly Network ระบุว่าได้รับเงิน USDC คืนมาบางส่วนแล้ว
ที่มา - The Register |
# เหมาๆ Norton ควบรวม Avast ด้วยดีลมูลค่ากว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
NortonLifeLock เตรียมควบรวมกับ Avast ด้วยดีลมูลค่าประมาณ 8.1-8.6 พันล้านดอลลาร์ (ตามแต่การลงคะแนนของผู้ถือหุ้น Avast) ดีลนี้จะทำให้ NortonLifeLock กลายเป็นเจ้าของหุ้นทั้งหมดของ Avast และผนวกรวมกันกลายเป็นอาณาจักรแอนตี้ไวรัสขนาดยักษ์ที่มีผู้ใช้รวมกันกว่า 500 ล้านคน หลัง Norton ซื้อ Avira ช่วงเดือนธันวาคม 2020
Vincent Pilette ซีอีโอของ NortonLifeLock ระบุว่าการควบรวมครั้งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งของบริการให้กับผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคนได้ในอนาคต และทำให้บริษัทสามารถเร่งนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกความปลอดภัยไซเบอร์ได้ดียิ่งขึ้น
NortonLifeLock เป็นบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่แยกออกมาจาก Symantec หลัง Broadcom ซื้อกิจการความปลอดภัยฝั่งธุรกิจไปในปี 2019 ส่วน Avast เป็นบริษัทความปลอดภัยที่ก่อตั้งในสาธารณรัฐเช็กในปี 1988 ในรูปแบบ cooperative จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดในปี 2018 และ IPO ในปี 2019 ทั้งในตลาดหุ้นกรุงปราก และตลาดหุ้นลอนดอน
ที่มา - Businesswire |
# พบกุญแจ Ransomware ของ REvil สามารถถอดรหัสเหยื่อการแฮก Kaseya ได้ทุกราย
กลุ่ม REvil เป็นกลุ่มปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่หลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือการแฮกผู้ผลิตจซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย Kaseya จนทำให้องค์กรที่ใช้ซอฟต์แวร์นี้ถูกเข้ารหัสข้อมูลพร้อมๆ กันนับพันราย แม้ว่าทาง Kaseya จะระบุว่าได้กุญแจมาแล้ว แต่ก็มีข่าวว่าลูกค้าที่ต้องการกุญแจจะต้องเซ็นสัญญาปกปิดความลับทำให้ไม่มีใครโพสกุญแจนี้ออกสู่อินเทอร์เน็ต แต่ล่าสุดกุญแจนี้ (operator key) ก็หลุดออกมาในบอร์ดแฮกเกอร์แห่งหนึ่ง
กุญแจที่ว่าคือ OgTD7co7NcYCoNj8NoYdPoR8nVFJBO5vs/kVkhelp2s= สามารถถอดรหัสเหยื่อทุกรายในแคมเปญ Kaseya ได้
Fabian Wosar ซีทีโอของ Emsisoft ระบุว่ามัลแวร์ของกลุ่ม REvil ยังมีกุญแจครอบจักรวาลอีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า operator key โดยฝังกุญแจสาธารณะอยู่ในมัลแวร์ของ REvil ทุกตัว หากใครหากุญแจลับของกุญแจนี้ได้ก็จะถอดรหัสข้อมูลเหยื่อได้ทุกแคมเปญ
ที่มา - Bleeping Computer |
# Diablo 2: Resurrected เปิด Open Beta สำหรับผู้สั่งจองล่วงหน้า 13 สิงหาคมนี้ คนทั่วไป 20 สิงหาคม
Diablo 2: Resurrected เปิดทดสอบเทคนิคัลอัลฟ่าไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และกำลังเตรียมเปิด Open Beta โดยผู้สั่งจอง Diablo II: Resurrected หรือ Diablo Prime Evil Collection จะได้พรีโหลดก่อนในวันที่ 11 สิงหาคม และเล่นได้ในวันที่ 13-16 สิงหาคม หรือนับตามเวลาประเทศไทยคือช่วงวันศุกร์หลังเที่ยงคืน ไปจนถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์
ผู้เล่นทั่วไปพรีโหลดได้ตั้งแต่ 17 สิงหาคมบนพีซี ผ่าน Battle.net และ 18 สิงหาคมสำหรับคอนโซล เข้าเล่นได้ในวันที่ 20-22 สิงหาคม ช่วงหลังเที่ยงคืนวันศุกร์ ถึงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ตามเวลาประเทศไทยเช่นเดียวกัน
ตัวเกมเวอร์ชั่น Open Beta จะจำกัดการเล่นไว้ที่ 2 Acts แรก สร้างตัวละครได้ 5 อาชีพ คือ Paladin, Druid, Barbarian, Amazon และ Sorceress ไม่จำกัดเลเวล และเล่นมัลติเพลเยอร์ได้ แต่ Blizzard ตัดฟีเจอร์การเล่นมัลติเพลเยอร์แบบ TCP/IP ออก ทั้งในตัวทดสอบและเกมเต็มเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัย แม้เคยบอกว่าจะมีในตอนแรก
Diablo 2: Resurrected ตัวเต็ม วางจำหน่ายวันที่ 23 กันยายนนี้ ทั้งบนพีซี PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X|S และ Nintendo Switch โดยสามารถโอนย้ายเซฟข้ามแพลตฟอร์มได้
ที่มา - PCGamer, Wccftech |
# Unity ซื้อกิจการ Parsec ซอฟต์แวร์รีโมทเดสก์ท็อป-สตรีมหน้าจอเกม
Unity ประกาศซื้อกิจการ Parsec เจ้าของเทคโนโลยีสตรีมหน้าจอ-รีโมทเดสก์ท็อป ที่รองรับการเล่นเกมความละเอียดสูงๆ (UHD 60fps) ที่ latency ต่ำมากๆ เพียง 7ms ในวงแลนเดียวกัน มูลค่าการซื้อกิจการอยู่ที่ 320 ล้านดอลลาร์
เทคโนโลยีของ Parsec รองรับทั้งการรีโมทหน้าจอไปทำงานและการเล่นเกม บริษัทใช้วิธีเขียนเทคโนโลยีระดับล่างเอง (เช่น networking protocol และ peer-to-peer NAT traversal) เพื่อให้ได้ค่า latency ต่ำที่สุด
ลูกค้าของ Parsec มีทั้งฝั่งองค์กรที่นำไปใช้เพื่อการทำงานในทีม และลูกค้าฝั่งคอนซูเมอร์ที่ใช้เล่นเกมร่วมกับเพื่อน ตัวอย่างลูกค้าองค์กรได้แก่ EA, Blizzard, Ubisoft, Square Enix
Unity บอกว่าซื้อ Parsec เพื่อตอบโจทย์ฝั่งองค์กรเป็นหลัก เพราะบริษัทเกมสมัยใหม่ต้องการเครื่องมือทำงานแบบรีโมท จากทีมงานที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก การมีเทคโนโลยีรีโมทที่รองรับภาพความละเอียดสูงๆ แสดงสีสันถูกต้อง ตอบสนองรวดเร็ว จะช่วยให้ทีมพัฒนาเกมทำงานร่วมกันอย่างคล่องตัวมากขึ้น
ที่มา - Unity |
# HP เปิดตัว Chromebase AiO พีซีออลอินวัน รัน Chrome OS หมุนจอแนวตั้งได้ ราคาเริ่ม 2 หมื่นบาท
HP เปิดตัวอุปกรณ์พีซีใหม่ 3 ตัวรันด้วยระบบ Chrome OS คือ Chromebase AiO เป็นพีซีออลอินวัน หมุนจอเป็นแนวตั้งได้ ส่วนอีกรุ่นคือ Chromebook x2 11 เป็นโน้ตบุ๊กถอดจอออกได้ มาพร้อมแป้นพิมพ์แม่เหล็กถอดหรือติดกับตัวเครื่องได้ และจอมอนิเตอร์ HP M24fd USB-C Monitor
Chromebase AiO ถือเป็นครั้งแรกของอุปกรณ์ Chrome OS ที่เพิ่มคุณสมบัติหมุนจอเป็นแนวตั้งได้ โดย HP ระบุว่าเป็นประโยชน์เวลาอ่านบทความหรือเอกสารยาว สเปกของ Chromebase AiO มาพร้อมขนาดหน้าจอ 21.5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080, โปรเซสเซอร์ Pentium Gold หรือ Intel 10th Gen Core i3, RAM 4GB, ที่เก็บข้อมูล eMMC 64GB หรือรุ่นสูงกว่าเป็น RAM 16GB และ SSD 256GB
ตัวฐานทรงกรวยของ Chromebase AiO ทำจากวัสดุอลูมิเนียมหุ้มผ้า และมีลำโพงคู่ 5W ติดตั้งอยู่ภายใน พอร์ต USB-C สอง และ USB-A สอง, พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มม., กล้อง 5 ล้านพิกเซลสำหรับการสนทนาทางวิดีโอ, มีตัวปิดกล้องมาให้ด้วย Chromebase AiO จะวางจำหน่ายภายในเดือนสิงหาคมนี้ที่ HP, Amazon และ Best Buy ราคาเริ่มต้นที่ 600 ดอลลาร์หรือราว 2 หมื่นบาท
ส่วน Chromebook x2 11 เป็นแท็บเล็ต Chrome OS ขนาด 11 นิ้ว มาพร้อมแป้นพิมพ์แม่เหล็กและขาตั้งเพื่อใช้ในโหมดแล็ปท็อป สเปกหลักๆ คือ ชิป Qualcomm Snapdragon 7c, เชื่อมต่อ 4G LTE เสริม (แต่ไม่ใช่ 5G), หน้าจอสัมผัสขนาด 11 นิ้ว อัตราส่วน 3:2 ความละเอียด 2160 x 1440, ตัวแท็บเล็ตทำมาจากอลูมิเนียม, มีพอร์ต USB-C สองพอร์ตสำหรับชาร์จและถ่ายโอนข้อมูล และเครื่องอ่านการ์ด microSD รวมถึงเครื่องอ่านลายนิ้วมือรวมอยู่ในปุ่มเปิดปิด, RAM 4GB และที่เก็บข้อมูล 64GB หรือ รุ่นสูงกว่า RAM 8GB และที่เก็บข้อมูล 128GB
Chromebook x2 11 มีกล้อง 5 ล้านพิกเซลสำหรับการสนทนาทางวิดีโอ และกล้อง 8 ล้านพิกเซลอยู่ด้านหลังสำหรับถ่ายภาพหรือสแกนเอกสาร HP บอกด้วยว่าสามารถใช้งานได้นานถึง 11 ชั่วโมงระหว่างการชาร์จแต่ละครั้ง รองรับปากกา HP Wireless Rechargeable USI Certified Pen มาในกล่อง
Chromebook x2 11 วางจำหน่ายที่ Best Buy ในเดือนสิงหาคมนี้ และจากเว็บไซต์ของ HP ในเดือนตุลาคม ราคาเท่ากับ Chromebase AiO คือ เริ่ม 600 ดอลลาร์หรือราว 2 หมื่นบาท
HP M24fd USB-C Monitor เป็นจอภาพมีใบรับรอง Works With Chromebook ของ Google, จอแสดงผล 23.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080, ระดับความสว่างสูงสุด 300 nits เคลือบป้องกันแสงสะท้อน, รีเฟรชเรต 75Hz, รองรับเทคโนโลยี FreeSync ของ AMD ราคาอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ หรือราว 8,300 บาท
ที่มา - The Verge, HP |
# NVIDIA เปิดตัว RTX A2000 จีพียู RTX แบบ low-profile รุ่นแรก
ในงาน SIGGRAPH 2021 เมื่อวานนี้ NVIDIA ได้เปิดตัวจีพียู RTX A2000 สำหรับเวิร์คสเตชั่นขนาดเล็ก ถือเป็นจีพียู RTX รุ่นแรกที่มาในขนาด low-profile และไม่ต้องต่อไฟเลี้ยงเพิ่ม
โดยสเปคของ RTX A2000 มีดังนี้
ชิปจีพียู GA106 (ตัวเดียวกับตัวที่ใช้ใน GeForce RTX 3060) ผลิดโดย Samsung ขนาด 8 นาโนเมตร
3328 CUDA core, 104 Tensor core, 26 RT core
แรม 6 GB GDDR6 ความกว้างบัส 192 บิต แบบ ECC
สเปคความร้อน 70 วัตต์
บัส PCI Express 4.0 x16 ไม่รองรับ NVLink
พอร์ต Mini DisplayPort 1.4 4 ช่อง
RTX A2000 จะเริ่มวางขายในเดือนตุลาคมปีนี้ในราคา 450 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,000 บาท) และจะส่งมอบให้แบรนด์เวิร์คสเตชั่นในช่วงเดียวกัน
ที่มา - NVIDIA (Via Anandtech, ServeTheHome) |
# Synology แจ้งเตือนลูกค้า มัลแวร์กำลังไล่เดารหัสผ่านยึด NAS
Synology ออกประกาศแจ้งเตือนผู้ใช้หลังพบมัลแวร์ StealthWorker กำลังไล่สแกนรหัสผ่านเพื่อยึด NAS แม้ว่าตัวเครื่องจะไม่มีช่องโหว่ใดเป็นพิเศษ
มัลแวร์ StealthWorker เดารหัสผ่านของ NAS เหยื่อ เมื่อล็อกอินสำเร็จจะติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่ม โดยอาจจะเป็นมัลแวรเข้ารหัสเรียกค่าไถ่ด้วย จากนั้น NAS ที่ถูกยึดจะรับคำสั่งจากศูนย์กลางเพื่อไปสแกนรหัสผ่านเหยื่อเครื่องอื่นๆ ต่อไป ระหว่างนี้ทาง Synology กำลังประสานงานเพื่อปิดเซิร์ฟเวอร์ควบคุมทิ้ง
ทางบริษัทแนะนำให้ลูกค้าเปิดใช้ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นล็อกบัญชีเมื่อถูกเดารหัสผ่าน, หรือการเปิดการล็อกอินสองชั้น และควรตั้งรหัสให้แข็งแกร่ง
ที่มา - Synology |
# เปิดตัว Xiaomi MIX 4 กล้องหน้าใต้จอ ชิป Snapdragon 888+ ชาร์จเร็ว 120W ราคาเริ่ม 4,999 หยวน
Xiaomi เปิดตัว Xiaomi Mix 4 รุ่นต่อจาก Xiaomi Mi Mix 3 ในปี 2018 ที่ทิ้งระยะห่างกันถึง 3 ปี คราวนี้ชื่อทางการตัดคำว่า Mi ออก เหลือแค่ Xiaomi Mix 4 เท่านั้น มาพร้อมกับกล้องหน้าใต้จอครั้งแรกของ Xiaomi ที่แม้จะถูก ZTE Axon 20 5G ตัดหน้าทำไปก่อน แต่ ZTE ใช้การลดจำนวนพิกเซลบริเวณกล้อง เพื่อให้แสงตกกระทบได้
ส่วน Xiaomi Mix 4 ใช้เทคโนโลยีหน้าจอที่เรียกว่า CUP หรือ Camera Under Panel ซ่อนกล้องหน้า ความละเอียด 20MP ไว้ใต้จอ โดยหน้าจอบริเวณที่มีกล้อง ยังมีจำนวนพิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) ที่ 400 เท่าจุดอื่น ไม่ลดจำนวนแบบ ZTE แต่ใช้รูปทรงพิกเซลแบบพิเศษ ผนวกกับการเรียงตัวพิกเซลแบบใหม่ และแผงวงจรใต้พิกเซลแบบใสเพื่อให้แสงทะลุไปถึงกล้องได้แทน
สเปกภายในอื่นๆ มีดังนี้
หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรช 120Hz
หน้าจอครอบด้วย Gorilla Glass Victus ฝาหลังวัสดุเซรามิก
ลำโพงคู่ จูนเสียงโดย Harman/Kardon
ชิป Snapdragon 888+
แรม LPDDR5 8GB และ 12GB
หน่วยความจำภายใน UFS 3.1 ความจุ 128GB, 256GB, 512GB
กล้องหน้าใต้จอ 20MP
กล้องหลังสามกล้อง กล้องหลัก 108MP พร้อมกันสั่น OIS, กล้องซูม periscope 8MP ซูมได้ 5x และกล้องอัลตร้าไวด์ 13MP
แบตเตอรี่ 4,500 mAh ชาร์จเร็ว 120W
รองรับ 5G, Bluetooth 5.2 และ WiFi 6e
รัน Android 11 ครอบด้วย MIUI 12.5
Mix 4 ราคา รุ่น 8GB/128GB อยู่ที่ 4,999 หยวน (ราว 25800 บาท) ส่วนรุ่น 12GB/512GB อยู่ที่ 6,299 หยวน (ราว 32,500 บาท) วางจำหน่ายในประเทศจีน 16 สิงหาคมนี้ ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดวางจำหน่ายในประเทศอื่น
ที่มา - Xiaomi |
# AIS BUSINESS ร่วมมือ OMRON เสนอโซลูชั่น Smart Manufacturing เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในยุค Industry 4.0
AIS ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ OMRON ผู้ให้บริการระบบควบคุมอัตโนมัติ เทคโนโลยีเซนเซอร์ กล้องอุตสาหกรรม และระบบหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมรายใหญ่ เพื่อเสนอโซลูชั่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมให้สามารถปรับตัวเข้าสู่ยุค Smart Manufacturing ที่โรงงานอุตสาหกรรมจะสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติไร้สาย, การเชื่อมต่อกับคลาวด์ เข้ามาช่วยให้โรงงานสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
นางสาวศิริวรรณ คูอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออมรอน อีเลคทรอนิกส์ จำกัด ระบุถึงความท้าทายของอุตสาหกรรมในทุกวันนี้ว่าต้องปรับตัวมากขึ้นเรื่อยๆ โรงงานอุตสาหกรรมบางประเภทต้องปรับตัวให้ผลิตสินค้าได้หลากหลายขึ้น มีการปรับแต่งการผลิตเฉพาะของสินค้าให้ล็อตสินค้าที่เหมือนๆ กันมีจำนวนการผลิตน้อยลงแต่มีหลายรุ่นหลายแบบมากขึ้น (small lot size production) การใช้เทคโนโลยีเข้ามาผลิตช่วยให้โรงงานสามารถปรับแต่งสายการผลิตได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ยังคงคุณภาพสินค้าได้เทียบเท่ากับสายการผลิตแบบดั้งเดิม โรงงานสามารถควบคุมสายการผลิตที่ซับซ้อนผ่านทางหน้าจอแสดงสถานะการดำเนินการได้ทันที
คุณศิริวรรณยังระบุว่าที่ผ่านมา OMRON เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีในโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมากในประเทศไทย โดยโรงงานหลายกลุ่ม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เซมิคอนดักเตอร์, ตลอดจนอุตสาหกรรมอาหารและยา มีการใช้เทคโนโลยีต่อเนื่อง และตอนนี้ทาง OMRON ก็พร้อมเสนอโซลูชั่น Smart Manufacturing ที่ประกอบด้วยการนำข้อมูลการผลิตจากระบบ IoT, การใช้งานหุ่นยนต์ในสายการผลิต, และการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS ระบุว่าเทคโนโลยี 5G เป็นส่วนสำคัญในการปรับตัวของโรงงาน เพราะแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่การผลิตที่มีการปรับสายการผลิตบ่อยขึ้น 5G ทำให้โรงงานสามารถปรับเปลี่ยนสายการผลิตได้โดยไม่ต้องเดินสาย ควบคุมเครื่องจักรจำนวนมากและสายการผลิตสามารถปรับตัวตามการใช้งานที่เปลี่ยนไปได้ทันท่วงที (layout-free production line)
ปัจจุบัน AIS มีเครือข่าย 5G สามารถให้บริการได้ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและพื้นที่ EEC โดยสามารถออกแบบเครือข่าย 5G แบบเฉพาะ (5G Private Network) ได้ตามความต้องการใช้งานที่แตกต่างกันในแต่ละโรงงาน เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ทั้งรถลำเลียงอัจฉริยะ (autonomous mobile robot - AMR), เซ็นเซอร์ต่างๆ ในโรงงาน ตลอดจนข้อมูลเครื่องจักรสำหรับเตรียมการซ่อมบำรุงล่วงหน้า (predictive maintenance) โดยการเชื่อมต่อเหล่านี้มีความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ ปลอดภัยและเชื่อถือได้ รองรับการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดได้เต็มรูปแบบ
AIS และ OMRON ระบุว่าจะแบ่งการให้บริการลูกค้า โดยเทคโนโลยีต่างๆ ที่อยู่ในโรงงานเช่นเครื่องจักรและเซ็นเซอร์ต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของ OMRON และระดับที่สูงกว่านั้น เช่น การเชื่อมต่อ 5G ไปจนถึงบริการคลาวด์จะให้บริการโดย AIS เป็นการผสานกันระหว่าง Information Technology (IT) และ Operation Technology (OT)
ผู้ที่สนใจบริการธุรกิจจาก AIS เพิ่มเติม สามารถดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้ที่หน้าเว็บไซต์ของ AIS Business ได้ทันที หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ AIS Business ที่ดูแลท่านอยู่ |
# ไทยซื้อกันเอง SYNQA บริษัทแม่ Omise ซื้อกิจการ Eventpop แพลตฟอร์มจัดอีเวนต์
ธุรกิจไทยซื้อกันเอง SYNQA Group (บริษัทแม่ของ Omise) ประกาศซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ Eventpop สตาร์ตอัพด้านระบบการจัดอีเวนต์ของไทย โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
Eventpop ระบุว่าได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด ทำให้ธุรกิจอีเวนต์หายไป บริษัทจึงนำเทคโนโลยีด้าน O2O (Online to Offline) มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยหนึ่งในนั้นคือธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซแบบ Omnichannel ที่ร่วมพัฒนากับ SYNQA อยู่ก่อนแล้ว
Jun Hasegawa ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ SYNQA ระบุว่าหลังร่วมพัฒนาโครงการด้วยกัน จึงเห็นศักยภาพของ Eventpop และตัดสินใจเข้าซื้อกิจการเพื่อมาเสริมกำลังของธุรกิจหลักด้านฟินเทค โดย Eventpop จะยังคงบริการสำหรับธุรกิจอีเวนต์ต่อไป เพื่อรอให้โลกกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และคนกลับมาจัดอีเวนต์อีกครั้ง
ปัจจุบัน SYNQA มีบริษัทในเครือคือ Omise ทำธุรกิจด้านการชำระเงิน และ OPN ที่ทำธุรกิจด้าน system-integration พัฒนาระบบให้ลูกค้าองค์กร
ข้อมูลเปิดเผย: งานสัมมนา Blognone Tomorrow ใช้ระบบของ Eventpop ในการจัดการตั๋วเข้างาน
ที่มา - SYNQA |
# TCL เปิดตัวสมาร์ททีวีรุ่นปี 2021 ที่อัพเกรดมาใช้ Google TV แล้ว
TCL เป็นผู้ผลิตสมาร์ททีวีรายที่สอง (จากทั้งหมด 2 ราย รายแรกคือ Sony) ที่เปิดตัวทีวีระบบปฏิบัติการ Google TV รุ่นใหม่ที่มาแทน Android TV (เป็นอินเทอร์เฟซใหม่ที่ครอบ Android TV โดยไส้ในยังเป็น Android เหมือนกัน)
ทีวีที่ใช้ Google TV เป็นทีวีรุ่นปี 2021 สองซีรีส์คือ
TCL 5-Series เทคโนโลยี QLED มี 4 ขนาดหน้าจอคือ 50” (50S546), 55” (55S546), 65” (65S546), 75” (75S546) ราคาเริ่มต้นที่ 599 ดอลลาร์ (รุ่น 50")
TCL 6-Series เทคโนโลยี QLED mini-LED มี 3 ขนาดหน้าจอคือ 55” (55R646), 65” (65R646), 75” (75R646) ราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ (รุ่น 55")
ก่อนหน้านี้ ทีวีของ TCL ที่ขายในสหรัฐอเมริกาใช้วิธีแบ่งระบบปฏิบัติการตามซีรีส์ โดยรุ่นล่าง Series 3-4 ใช้ Android TV และรุ่นบน Series 5-6-8 ใช้ Roku TV
รอบนี้ TCL เปลี่ยนระบบปฏิบัติการของ Series 5-6 มาเป็น Google TV แทน โดยยังใช้ฮาร์ดแวร์เหมือนเดิมเกือบหมด ส่วนทีวีรุ่นท็อปสุดคือ Series 8 ยังไม่ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ของปี 2021 ทำให้ยังมีขายเฉพาะรุ่นที่เป็น Roku TV อยู่
TCL ยังเคยสัญญาว่าจะอัพเกรดทีวีรุ่นปี 2019-2020 มาเป็น Android TV เวอร์ชัน 11 ด้วย
ที่มา - TCL, Ars Technica |
# ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday สิงหาคม 2021 แก้ช่องโหว่ PrintNightmare แล้ว
ไมโครซอฟท์ออก Patch Tuesday แพตช์ความปลอดภัยประจำรอบเดือนสิงหาคม 2021 อุดช่องโหว่ทั้งหมด 44 ตัว ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลายตัว
ช่องโหว่สำคัญที่พบการโจมตีแล้วคือ CVE-2021-36948 ที่เกี่ยวข้องกับเซอร์วิส Windows Update Medic (ใช้ซ่อม Windows Update เวลามีปัญหาอัพเดตไม่ได้)
แพตช์รอบนี้ยังแก้ปัญหา PrintNightmare รอบใหม่ที่เพิ่งค้นพบ หลังจากออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ PrintNightmare ไปก่อนแล้ว วิธีการแก้ปัญหาของไมโครซอฟท์คือปรับค่าดีฟอลต์ของการติดตั้งไดรเวอร์ Point and Print ให้ต้องขอสิทธิแอดมินก่อน - รายละเอียด
ช่องโหว่อีกตัวที่น่าสนใจคือ CVE-2021-26424 เป็นบั๊กระดับร้ายแรง (critical) ใน Windows TCP/IP ครอบคลุมตั้งแต่ Windows 7 มาจนถึง Windows 10 โดยมีคะแนนความร้ายแรงระดับ 9.9/10 แต่ไมโครซอฟท์ก็ระบุว่ายังไม่พบการใช้งานช่องโหว่นี้
ที่มา - Krebs on Security, ZDNet |
# Firefox 91 เพิ่มวิธีล้างคุกกี้แบบใหม่, ล็อกอินบัญชีไมโครซอฟท์ผ่าน Windows SSO
Firefox ออกเวอร์ชัน 91 มีของใหม่ดังนี้
Enhanced Cookie Clearing วิธีการล้างคุกกี้แบบใหม่ ที่ล้างเฉพาะคุกกี้จากเว็บไซต์นั้นๆ ออกจากเครื่องอย่างหมดจด ฟีเจอร์นี้พัฒนาต่อจาก Total Cookie Protection ที่แยกการเก็บคุกกี้ของแต่ละเว็บออกจากกัน ถือเป็นทางเลือกที่อยู่ตรงกลางระหว่างการล้างคุกกี้ทั้งหมด กับการไล่ลบคุกกี้ทีละอัน (ที่อาจเผลอหลุดรอด)
Windows Single Sign-on (Windows SSO) ล็อกอินบัญชีไมโครซอฟท์ในหน้าเว็บต่างๆ ให้อัตโนมัติ โดยใช้ข้อมูลล็อกอินจาก Windows 10
สั่งพิมพ์หน้าเว็บแบบ Simplified Page ที่ตัดรายละเอียดไม่จำเป็นออก ฟีเจอร์นี้เคยมีใน Firefox แต่ถูกถอดออกไป แล้วนำกลับคืนมา
โหมด Private Browsing จะพยายามเชื่อมต่อผ่าน HTTPS ก่อนเสมอ ถ้าไม่สำเร็จถึงค่อยกลับมาเป็น HTTP
ที่มา - Mozilla |
# กูเกิลจะให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ขอลบรูปตัวเองจาก Google Image ได้, จำกัด target ads ไปยังผู้เยาว์
กูเกิลออกนโยบายและความสามารถใหม่เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวผู้เยาว์หลายอย่าง มีผลทั้งบนแพลตฟอร์มหลักกูเกิล และ YouTube หลักๆ ที่สำคัญคือ เตรียมเปิดช่องทางให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ขอลบรูปภาพตัวเองออกจากผลการค้นหาบน Google Image และจะบล็อกการกำหนดเป้าหมายโฆษณาตามอายุ เพศ หรือความสนใจของผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี นโยบายนี้จะมีผลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อการปกป้องผู้เยาว์ที่กูเกิลจะนำมาใช้ในอนาคต ดังนี้
คลิปของบัญชีผู้มีอายุ 13-17 ปีบน YouTube จะเพิ่มการตั้งค่าอัพโหลดแบบส่วนตัวเป็นค่าตั้งต้น แค่เฉพาะผู้ใช้และใครก็ตามที่พวกเขาเลือกดูเนื้อหาได้ หากต้องการให้คลิปเผยแพร่แบบสาธารณะก็สามารถมาตั้งค่าการมองเห็นทีหลังได้
บัญชีผู้ใช้งานอายุต่ำกว่า 18 ปี บน Google Search ทางกูเกิลจะตั้งค่าให้เป็น SafeSearch (ฟังก์ชันที่ใช้กรองผลการค้นหาที่ไม่เหมาะกับเด็ก) เป็นค่าตั้งต้นสำหรับผู้เยาว์รายใหม่ที่สมัครเข้ามาใช้งาน รวมถึงจะนำมาใช้ใน Google Assistant ด้วย
ผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่สามารถเปิดประวัติตำแหน่งหรือ Location History ในการตั้งค่าบัญชีกูเกิลได้ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะถูกปิดเป็นค่าตั้งต้นสำหรับทุกบัญชีอยู่แล้ว
แอปพลิเคชั่นบน Google Play จะต้องเปิดเผยวิธีที่พวกเขาใช้ข้อมูลที่รวบรวมโดยละเอียดยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ปกครองตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าแอปนั้นเหมาะสำหรับบุตรหลานของตนหรือไม่ก่อนที่จะดาวน์โหลด
สำหรับฟังก์ชั่นเพื่อ digital wellbeing หรือสุขภาวะดิจิทัล ทางกูเกิลจะเพิ่มตัวกรองใหม่ที่อนุญาตให้บล็อกข่าวสาร พอดแคสต์ และเข้าถึงหน้าเว็บบนอุปกรณ์อัจฉริยะที่เปิดใช้งาน Google Assistant ส่วนบน YouTube จะเปิดการช่วยเตือนเวลาพักและเข้านอน รวมถึงปิดการเล่นอัตโนมัติ (autoplay) สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
ที่มา - กูเกิล |
# ซัมซุงร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดคอร์สพัฒนาฝีมือแรงงานช่างแอร์ไทย พร้อมสอบใบอนุญาต
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ร่วมกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ลงนามความร่วมมือจัดทำคอร์สฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศ เสริมทักษะฝีมือให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ตลอดจนส่งเสริมให้ช่างมีใบรับรองตามกฎหมาย เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด
คอร์สฝึกอบรม ประกอบด้วย การติดตั้ง การซ่อม และการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ ใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรมทั้งหมด 18 ชั่วโมง หรือ 3 วัน แบ่งเป็นการอบรม 2 วัน และการสอบภาคทฤษฎีและปฏิบัติอีก 1 วัน เมื่อผ่านการฝึกอบรมและการสอบเรียบร้อยแล้วช่างฝีมือจะได้รับใบประกาศนียบัตรร่วมระหว่างซัมซุงและกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และใบรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อนำไปทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ทางซัมซุงจะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตต่อไป
โครงการฯ จะทำการฝึกอบรมทั้งหมด 5 รุ่น รุ่นละ 20 คน ณ ศูนย์ฝึกอบรมของบริษัท ไทยซัมซุง จังหวัดชลบุรี ก่อนขยายผลการฝึกอบรมไปยังสาขาทั่วประเทศต่อไปในอนาคต โดยการอบรมรุ่นที่ 1 จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมภายใต้มาตรฐานการฝึกที่ปลอดภัยรองรับสถานการณ์โควิด-19
เปิดรับสมัครช่างฝีมือสาขาเครื่องปรับอากาศเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมฝึกอบรม ทดสอบ และประเมินความรู้ความสามารถกับทางซัมซุง ผู้สนใจสามารถติดตามขั้นตอนการสมัครหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line@samsungacinstaller เพื่อเป็นเพื่อนกับ “ชมรมช่างแอร์ซัมซุง”
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์ |
# Xiaomi เปิดตัว CyberDog หุ่นยนต์สัตว์สี่เท้า พร้อมเชิญผู้สนใจมาร่วมพัฒนาแอพพลิเคชั่น
Xiaomi เปิดตัว CyberDog หุ่นยนต์รูปแบบสัตว์สี่เท้าที่พร้อมสำหรับการสร้างแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานได้ในรูปแบบต่าง ๆ ลักษณะคล้ายกับหุ่นยนต์ Spot ของ Boston Dynamics
CyberDog ตัวที่โชว์รันบนแพลตฟอร์ม Jetson Xavier NX ของ Nvidia มีเซนเซอร์รอบตัวทั้งหมด 11 ตัว เช่น เซนเซอร์ตรวจจับการสัมผัส, อัลตร้าโซนิค, กล้อง และจีพีเอส ซึ่งตัวหุ่นยนต์นั้นฉลาดพอที่จะติดตามเจ้าของและเดินหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางต่าง ๆ พร้อมระบบตรวจจับใบหน้าที่สามารถแยกแยะใบหน้าคนออกจากกันได้
Xiaomi CyberDog จะยังไม่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายให้หาซื้อได้ทั่วไป แต่จะเชิญแฟน Xiaomi, วิศวกร และผู้สนใจในหุ่นยนต์เข้ามาร่วมกันพัฒนาและค้นพบว่าเทคโนโลยีภายใต้ CyberDog จะใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยจะมีหุ่นยนต์ให้ทั้งหมด 1,000 ตัว โดย Xiaomi จะเปิดเป็นชุมชนโอเพ่นซอร์สและเป็นโฮสต์ที่คอยดูแลชุมชนนี้ ซึ่งการจะเข้าร่วมต้องชำระเงิน 9,999 หยวนหรือราว 52,000 บาท
ที่มา - Engadget |
# แอปเทรดหุ้น Robinhood ซื้อกิจการ Say Technologies แพลตฟอร์มนักลงทุนสัมพันธ์
Robinhood แอปเทรดหุ้นชื่อดังในอเมริกา ที่เพิ่งไอพีโอไปไม่รอช้า ประกาศซื้อกิจการ Say Technologies ด้วยเงิน 140 ล้านดอลลาร์ โดยดีลนี้จ่ายเป็นเงินสด
Say Technologies เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับบริษัทจดทะเบียน ในงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยสามารถจัดการใช้สิทธิออกเสียงผ่านตัวแทน และส่งคำถามเพื่อสอบถามผู้บริหารบริษัทเมื่อมีการแถลงข่าวหรือนำเสนอข้อมูล ได้อย่างสะดวกมากขึ้น
Robinhood บอกว่าดีลนี้สอดคล้องกับแนวทางของบริษัท ที่ต้องการเพิ่มอำนาจการลงทุนให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย หลังดีลนี้เสร็จสิ้น บริการของ Say Technologies จะยังให้บริการกับลูกค้าเดิมต่อไป ส่วน Robinhood จะนำบริการนี้มาเสนอกับบริษัทจดทะเบียนให้มากขึ้น
ที่มา: Robinhood |
# Niantic เข้าซื้อ Scaniverse แอปสแกนภาพสามมิติ เสริมทัพเทคโนโลยี AR ของบริษัท
Niantic ผู้พัฒนา Pokemon Go ประกาศเข้าซื้อ Scaniverse แอปสแกนสามมิติความละเอียดสูงบนอุปกรณ์พกพา เพื่อเสริมทัพเทคโนโลยี AR ของบริษัท
Scaniverse เป็นแอปที่สร้างมาเพื่อจุดประสงค์หลักคือผู้ใช้ทั่วไปสามารถสร้างและแชร์ภาพสามมิติได้ ซึ่ง Keith Ito ผู้สร้างแอปเชื่อมั่นว่าภาพสามมิติจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการติดต่อสื่อสารในอนาคต
ภายใต้ดีลนี้ Keith Ito ผู้สร้าง Scaniverse จะเข้ามาร่วมกับทีม AR ของ Niantic และ Scaniverse จะยังคงเป็นแอปแยกบน App Store ต่อไป รวมถึงตัวแอปจะยังคงพัฒนาต่อไปเหมือนเดิม และจะปรับให้ Scaniverse Pro เป็นแอปฟรี ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทุกฟีเจอร์ เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ที่มา - Scaniverse, Niantic
ภาพจาก Scaniverse |
# [ลือ] iPhone 13 กล้องวิดีโอรองรับการถ่ายโหมด Portrait เพิ่มความลึกของภาพ
เมื่อใกล้เดือนกันยายน ก็ได้เวลาอีกครั้งสำหรับข่าวลือของ iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งเรียกกันตอนนี้ก่อนว่า iPhone 13 โดยข่าวนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg เจ้าเก่า มีข้อมูลใหม่ที่สำคัญคือรายละเอียดกล้องสำหรับโหมดการถ่ายวิดีโอ
ข้อมูลระบุว่ากล้องใน iPhone 13 จะเพิ่มการถ่ายวิดีโอในโหมด Portrait ที่เก็บข้อมูลความลึกของภาพ ช่วยเพิ่มลูกเล่นและสีสันของภาพที่ได้มากขึ้น เหมือนกับโหมด Portrait เวลาถ่ายภาพนิ่ง รวมทั้งสามารถใช้งานได้เวลาวิดีโอคอลได้ด้วย ทั้งนี้แอปเปิลเพิ่มลูกเล่นภาพถ่ายแบบ Portrait ตั้งแต่ iPhone 7 Plus เมื่อ 5 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าฟีเจอร์นี้น่าจะมีเฉพาะรุ่น Pro และ Pro Max
ส่วนข้อมูลอื่นก็คล้ายกับที่มีรายงานก่อนหน้านี้ นั่นคือแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย ขนาดจอเหมือนกับ iPhone 12 ทุกรุ่นใช้ซีพียู A15 มีรอยบากหน้าจอที่เล็กลง และมีเทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ที่รีเฟรชเรตสูงขึ้น
ที่มา: Bloomberg |
# SoftBank รายงานผลประกอบการไตรมาส กองทุนได้ผลตอบแทนสูงจาก DoorDash และ DiDi
SoftBank รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ตามปีการเงินบริษัท สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 15.6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 1.479 ล้านล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 9.32 แสนล้านเยน ซึ่งกำไรส่วนใหญ่มาจากการลงทุนผ่านบริษัทต่าง ๆ รวมทั้งกองทุน Vision Fund
กองทุน Vision Fund มีกำไรในไตรมาสที่ผ่านมา 2.355 แสนล้านเยน โดยมีการลงทุน 2 รายการที่สำคัญคือ DoorDash (16.0x) และ DiDi (1.1x)
บริษัทที่ SoftBank ลงทุนและ exit ผ่านการไอพีโอในไตรมาสที่ผ่านมาได้แก่ JD Logistics แพลตฟอร์มขนส่งของ JD, Zhangmen แพลตฟอร์มติวเตอร์ในจีน, Full Truck Alliance บริษัทให้บริการรถบรรทุกรายใหญ่ในจีน, Dingdong Maicai แพลตฟอร์มอาหารสดในจีน, Berkshire Grey หุ่นยนต์คลังสินค้า และ DiDi แพลตฟอร์มเรียกรถแท็กซี่ในจีน
ที่มา: SoftBank และ ZDNet |
# อินเดียสืบสวน Amazon, Walmart, Flipkart ว่ามีพฤติกรรมผูกขาดอีคอมเมิร์ซหรือไม่
อินเดียมีมาตรการคุมเข้มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทั้งโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซมานาน ล่าสุดศาลฎีกาอินเดีย สั่งอนุมัติให้มีการสอบสวน Amazon, Walmart, Flipkart ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายผูกขาดหรือไม่
ปีที่แล้ว คณะกรรมการการแข่งขันแห่งอินเดีย หรือ The Competition Commission of India (CCI) สั่งให้มีการสอบสวนบริษัท หลังมีการกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเลือกปฏิบัติ ส่งเสริมผู้ขายบางรายบนแพลตฟอร์มและใช้แนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่กีดกันการแข่งขันทางการค้า ซึ่งทั้งสามบริษัทก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยบอกว่า CCI ไม่มีหลักฐานมากพอ จากคำสั่งศาลล่าสุด Amazon และ Flipkart ออกแถลงการณ์จะปฏิบัติตามกฎหมายทั้งหมดและจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการสืบสวนของ CCI
คดีผูกขาดยื่นฟ้องโดยกลุ่มผู้ค้า Delhi Vyapar Mahasangh กล่าวหาว่าบริษัทแพลตฟอร์มโปรโมทเฉพาะผู้ขายบางราย ทาง Amazon และ Flipkart ยังขอให้ศาลฎีการะงับคำขอล่าสุดของ CCI เป็นคำถาม 32 ข้อ ซึ่งรวมถึงรายละเอียดของผู้ขาย 100 อันดับแรกและผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายสูงสุดด้วยเหตุผลว่าเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
ก่อนหน้านี้ในปี 2019 อินเดียได้ออกกฎหมายห้ามอีคอมเมิร์ซขายสินค้าที่ตัวเองมีส่วนได้ส่วนเสีย ส่งผลให้ Amazon และ Flipkart ต้องนำสินค้าออกนับแสนรายการ
ที่มา - Reuters |
# แอปเปิลระบุอาจเปิดให้แอปอื่นใช้บริการตรวจภาพโป๊ได้ในอนาคต
ก่อนที่แอปเปิลจะเพิ่มเอกสารชี้แจงกระบวนการสแกนภาพโป๊เด็กบน iPhone และ iPad ทาง Mac Rumors ระบุว่าได้เข้าฟังช่วงถามตอบปัญหากับทางแอปเปิล โดยตัวแทนของแอปเปิลยืนยันว่าฟีเจอร์สแกนภาพโป๊ทั้งสองแบบจะเปิดให้ผู้ให้บริการอื่นใช้งานได้ในอนาคต
บริการสแกนภาพโป๊เพื่อแจ้งเตือนผู้ปกครอง (Communication Safety) อาจเปิดให้ผู้ให้บริการสื่อสารอื่นๆ ใช้สแกนภาพก่อนรับและส่งได้ โดยแอป เช่น Snapchat, Instagram, หรือ WhatsApp สามารถเพิ่มฟีเจอร์นี้เพื่อช่วยผูกปกครองดูแลการใช้งานของเด็กได้แบบเดียวกับแอป Message ขณะที่ฟีเจอร์สแกนภาพโป๊เด็ก หรือ CSAM นั้นจะเปิดให้ผู้ให้บริการเก็บภาพอื่นๆ เข้าใช้งานได้ในอนาคต
แอปเปิลไม่ระบุว่าจะเปิดฟีเจอร์เหล่านี้เป็นทางการเมื่อใด โดยตอนนี้เป็นช่วงทดสอบฟีเจอร์เท่านั้นและบริษัทจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเปิดฟีเจอร์นี้ให้บริษัทภายนอกใช้งานจะไม่กระทบความเป็นส่วนตัวผู้ใช้
ที่มา - Mac Rumors |
# Parallels Desktop 17 ออกแล้ว รองรับ macOS 12 Monterey และ Windows 11
Parallels (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Corel) เปิดตัว Parallels Desktop 17 for Mac โดยมีฟีเจอร์ใหม่สำคัญคือรองรับระบบปฏิบัติการใหม่ macOS 12 Monterey และพร้อมรับ Windows 11 ในอนาคต
Parallels ระบว่าตอนนี้รองรับ Windows 11 Insider รุ่นทดสอบแล้ว โดยวิธีใช้งานยังต้องใช้วิธีสร้างอิมเมจ Windows 10 Insider ก่อนแล้วค่อยอัพเกรดเป็น Windows 11 Insider แต่ในอนาคตเมื่อ Windows 11 ออกตัวจริงก็จะปรับปรุงให้รองรับ Windows 11 โดยตรง
นอกจากนี้ยังรองรับการรัน Windows 10 บน Apple M1 Mac ให้ดีขึ้น เช่น Windows จะมองเห็นสถานะของแบตเตอรี่, มี Virtual TPM เพื่อให้ใช้ฟีเจอร์กลุ่ม BitLocker/Secure Boot ได้, ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมบน Windows
ที่มา - Parallels |
# Krafton ผู้พัฒนา PUBG ขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์เกาหลีวันแรก, เปิดตลาดราคาตก 9.9%
Krafton หรือชื่อเดิม Bluehole เป็นทีมพัฒนาสัญชาติเกาหลี ผู้สร้างเกม Playerunknown's Battlegrounds หรือ PUBG เริ่มเข้าเทรดบนตลาดหุ้น Kospi ของเกาหลีเป็นวันแรกช่วงเช้าวันอังคารนี้ หลังระดมทุนผ่าน IPO มูลค่า 4.3 ล้านล้านวอน (1.25 แสนล้านบาท) นับเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่อันดับสองของเกาหลี รองจาก 4.9 ล้านล้านวอน (1.43 แสนล้านบาท) ของ Samsung Life Insurance ในปี 2010
Krafton ขายหุ้น IPO ในราคาหุ้นละ 498,000 วอน แต่ช่วงสายหุ้นลงมาอยู่ที่ราคา 448,000 วอน ลดลงจากราคา IPO ราว 9.9% นักวิเคราะห์คาดสาเหตุที่ส่งผลต่อราคา อาจมาจากการตีราคา IPO สูงเกินเกิน จำนวนหุ้นที่มากเกินไป และ นโยบายควบคุมเกมออนไลน์ของจีนที่เข้มข้นขึ้น
อย่างไรก็ตาม มูลค่าตลาดของ Krafton ตอนนี้อยู่ที่ราว 6.3 แสนล้านบาท แซงคู่แข่งอย่าง Nexon ที่มีมูลค่าตลาด 5.7 แสนล้านบาท (Nexon ขาย IPO ในตลาดหุ้นโตเกียว) NCsoft ที่มีมูลค่า 4.88 แสนล้านบาท และ Netmarble ที่มูลค่าตลาด 3.2 แสนล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว
PUBG เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงหลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 เคยมีจำนวนผู้เล่นพร้อมกัน (concurrent player) บน Steam สูงกว่า 3 ล้านคนในช่วงปี 2018 แม้ช่วงหลังจะลดลงเหลือไม่ถึง 5 แสนคนก็ตาม
ส่วนจำนวนชั่วโมงสตรีมและคนดูบนเว็บเกมสตรีมมิ่ง อ้างอิงจากเว็บ Gamesight.io ก็เป็นรองเกมประเภทเดียวกันทั้ง Fortnite, Apex Legends และ Garena Free Fire แต่เกมใหม่อย่าง PUBG: NEW STATE ที่ยังอยู่ในช่วงอัลฟ่า ก็น่าจับตามองว่าจะทำให้เกมตระกูล PUBG กลับมาได้รับความนิยมเท่าเดิมได้หรือไม่
ที่มา - Nikkei Asia |
# ประยุทธ์ลงนามยกเลิกคำสั่งตัดเน็ตผู้เสนอข่าวกระทบความมั่นคงแล้ว
วันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บังคับใช้ข้อกำหนดที่ห้ามเสนอข่าวที่ทำให้ประชาชนหวาดกลัวจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
วันนี้ (10 ส.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ระบุว่านายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนดให้ยกเลิก ตามข้อกำหนดมาตร 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 29)
โดยคำสั่งศาลแพ่งมาจากการที่ประชาชนและสื่อมวลชน รวมตัวฟ้องนายกรัฐมนตรี ฐานออกคำสั่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ภาพจาก Facebook ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ |
# Google เตรียมสร้างศูนย์ฮาร์ดแวร์และแคมปัสใหม่ Midpoint ในซิลิค่อนวัลเลย์
หลัง Google เปิดสำนักงานด้านฮาร์ดแวร์ที่ไต้หวัน เมื่อต้นปี และได้รับการอนุมัติให้สร้างแคมปัสใหม่ชื่อ Downtown West ในเมืองซานโฮเซ่ แถบซิลิค่อนวัลเลย์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง CNBC ยังพบว่า Google ยื่นแผนสร้างแคมปัสใหม่ที่ชื่อว่า Midpoint และศูนย์ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมในซานโฮเซ่อีกด้วย โดยจะตั้งอยู่ใกล้กับ Downtown West
แคมปัส Midpoint เป็นสำนักงานใหม่ขนาดย่อม ประกอบด้วยอาคารสำนักงานห้าอาคาร ที่ Google ทยอยซื้อมาปรับปรุง รองรับพนักงานได้สูงสุดราว 3,500 คน (Downtown West รองรับพนักงานประมาณ 20,000 คน) และจากที่ตั้งอยู่ติดกับศูนย์ฮาร์ดแวร์ ทำให้คาดเดาได้ว่าพนักงานที่เตรียมมาอยู่สำนักงานใหม่นี้ น่าจะเป็นทีมด้านฮาร์ดแวร์
แผนปรับปรุงแคมปัสของ Google ใน San Jose
ส่วนศูนย์ฮาร์ดแวร์จะประกอบด้วยอาคารอุตสาหกรรมสามอาคาร พื้นที่ 80% จะถูกใช้ไปกับการผลิต จัดเก็บ และจัดส่งฮาร์ดแวร์ ส่วนอีก 20% ที่เหลือเป็นพื้นที่สำนักงาน ในเอกสารแผนพัฒนามีระบุถึงการผลิตและจัดเก็บอุปกรณ์ตระกูล “Nest” และ “Google Hardware” อื่นๆ ซึ่งจากสเกลโรงงานที่มีขนาดเล็กแล้ว คาดว่า Google น่าจะเตรียมใช้ศูนย์นี้ผลิตฮาร์ดแวร์รุ่นต้นแบบ
โกดังนี้ยังทำหน้าที่เก็บอุปกรณ์สำนักงานเช่นเฟอร์นิเจอร์ของแคมปัสอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน และนอกจากนี้ Google ยังมีแผนพัฒนาทางสัญจรเช่นทางเดิน ทางจักรยาน และศูนย์ขนส่งต่างๆ รอบบริเวณเพื่อเชื่อมต่อระหว่างแคมปัส ศูนย์ฮาร์ดแวร์ และชุมชนอีกด้วย
ภาพจำลองศูนย์ฮาร์ดแวร์แห่งใหม่ของ Google
Google ดูจะจริงจังด้านการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์มากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งสำนักงานฮาร์ดแวร์ที่ไต้หวัน แคมปัส Midpoint และศูนย์ฮาร์ดแวร์นี้ รวมไปถึง Google Pixel 6 ที่ปรับดีไซน์เป็นมือถือที่ดูพรีเมียมมากขึ้น และใช้ชิป Tensor ที่ Google ผลิตเอง ทำให้น่าติดตามว่าอนาคตด้านฮาร์ดแวร์ของ Google จะเป็นอย่างไรต่อไป
ที่มา - CNBC |
Subsets and Splits
No community queries yet
The top public SQL queries from the community will appear here once available.