Book,Page,LineNumber,Text 03,027,001,เช่นนี้ ดูเหมือนเป็นทีว่า เสด็จออกด้วยพระหฤทัยสลด ต้องการเพียง 03,027,002,จะหาอุบายหลีกให้พ้น ไม่เชิงแสวงหาพระสัมมาสัมโพธิญาณแท้ง 03,027,003,แต่ครั้นได้ตรัสรู้แล้ว จึงทรงดำริจะโปรดสัตว์ด้วยพระอัธยาศัยประกอบ 03,027,004,ด้วยพระกรุณา. ข้อนี้ อาจมีในวารจิตของมนุษย์ แต่ไม่สมกับคำ 03,027,005,พรรณนาพระปณิธานของพระโพธิสัตว์ ผู้บำเพ็ญพระบารมีมามากกว่า 03,027,006,"มากเพื่อจะโปรดสัตว์, ตลอดถึงคำทำนายและอัศจรรย์ต่าง ๆ ใน" 03,027,007,ปัจฉิมภพ. ถ้าจะถือว่า เรื่องเหล่านั้นเล่าตามหลังพระองค์เมื่อ 03,027,008,"เป็นผู้วิเศษแล้ว ก็ไม่น่าจะผิด, แต่ยังมีทางสันนิษฐานได้สนิทยิ่งกว่า" 03,027,009,นี้อีก คือ พระมหาบุรุษทรงพิจารณาเห็นมหาชนผู้เกิดมาแล้ว แก่ 03,027,010,"เจ็บตายไปเปล่า หาได้ทำชีวิตให้มีประโยชน์เท่าไรไม่, ยิ่งในราชสำนัก" 03,027,011,มัวเมาอยู่ในหมู่สตรีบำเรอ ทั้งกลางวันและกลางคืน ยิ่งทำชีวิตให้ 03,027,012,เป็นหมันหนักเข้า. พระองค์ทรงเบื่อหน่ายความเป็นอยู่ของพระองค์ 03,027,013,ด้วยอาการเช่นนั้น ที่เขาอื่นสำคัญเห็นเป็นสุขอย่างยิ่งในทางโลกีย์. 03,027,014,สมคำว่า ห้องปราสาทอันเกลื่อนกลาดไปด้วยนางบำเรอผู้นอนหลับ 03,027,015,สว่างรุ่งเรืองด้วยประทีป ปรากฏแก่พระองค์ดุจป่าช้า ทรงเห็น 03,027,016,"บรรพชาเป็นที่ห่างจากอารมณ์อันล่อให้หลงและมัวเมา, เป็นช่องที่" 03,027,017,จะได้บำเพ็ญปฏิบัติ เป็นประโยชน์ตนประโยชน์ผู้อื่น ทำชีวิตให้มี 03,027,018,"ผลไม่เป็นหมัน, ทรงสันนิษฐานลงเช่นนี้แล้ว จึงได้เสด็จออกบรรพชา." 03,027,019,เมื่อถือเอาความเช่นนั้น ข้อว่าทรงปรารภชราพยาธิมรณะ ได้ความ 03,027,020,สลดพระหฤทัยจนไม่เพลิน กับข้อว่า พระองค์มีพระอัธยาศัยประกอบ 03,027,021,ด้วยพระกรุณามาแต่ไหนแต่ไรย่อมไม่แย้งกัน.