Book,Page,LineNumber,Text 06,0006,001,องค์กำหนด นี้เรียกว่าปริสสมบัติ ถ้าหย่อนไปกว่ากำหนด เรียกว่า 06,0006,002,ปริสวิบัติ ให้อุปสมบทไม่สำเร็จ. การนี้ต้องพร้อมเพรียงกันทำ 06,0006,003,ต่างว่าในตำบลหนึ่งมีภิกษุมากกว่าองค์กำหนด แต่ชุมนุมไม่พร้อมกัน 06,0006,004,ไม่ได้รับฉันทะของผู้ไม่ได้เข้าชุมนุม สงฆ์ที่ชุมนุมนั้น แม้ครบองค์ 06,0006,005,กำหนด ก็ยังให้อุปสมบทไม่สำเร็จ นี้เรียกว่าสีมาวิบัติ คือเสียเพราะ 06,0006,006,เขตชุมนุม. เพราะเหตุนั้น สงฆ์แม้ครบองค์กำหนดแล้ว ต้อง 06,0006,007,สันนิบาตในเขตชุมนุม ซึ่งเรียกว่าสีมา จึงจะให้อุปสมบทสำเร็จ 06,0006,008,นี้เรียกว่าสีมาสมบัติ คือความพร้อมมูลแห่งสีมา. อนึ่ง สงฆ์ผู้จะให้ 06,0006,009,อุปสมบทนั้น ต้องตรวจตราผู้จะอุปสมบทให้เห็นว่าเป็นผู้สมควรก่อน 06,0006,010,แต่ข้อที่ยกขึ้นไล่เลียงนั้น เป็นแต่บางข้อ จะเป็นเพราะเลือกแต่ข้อที่ 06,0006,011,"ล่อแหลม หรือในชั้นต้นเพียงเท่านี้ ข้ออื่นเพิ่มมีในชั้นหลัง, ต้องให้" 06,0006,012,ผู้นั้นหาภิกษุรับรองหรือชักนำเข้าหมู่รูปหนึ่ง ซึ่งเรียกว่าอุปัชฌายะ 06,0006,013,ต้องเป็นผู้ใหญ่สามารถจะฝึกสอนเมื่อบวชแล้ว และต้องตรวจตรา 06,0006,014,เครื่องบริขารที่จำเป็นของภิกษุ คือไตรจีวรกับบาตรให้มีพร้อม 06,0006,015,ถ้าบกพร่อง เป็นหน้าที่ของอุปัชฌายะจะหาให้. การซักไซ้ด้วยเรื่อง 06,0006,016,เหล่านี้ สงฆ์สมมติให้ภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ทำ. และการอุปสมบทนี้ 06,0006,017,ต้องให้แก่ผู้สมัครเท่านั้น เขาไม่สมัคร จะให้ขืนใจเขาไม่ได้ จึงมีเป็น 06,0006,018,ธรรมเนียมผู้จะอุปสมบทต้องเปล่งคำขอ กรณียะเหล่านี้ เรียกว่า 06,0006,019,บุรพกิจ ควรจะทำให้เสร็จก่อนสวนประกาศ หากทำขาดไปบ้าง 06,0006,020,ถ้าไม่เป็นข้อวิบัติอย่างเด็ดขาด ก็ไม่ถึงกับเสียหาย แต่จัดว่าไม่ถูก 06,0006,021,ธรรมเนียม. เมื่อพร้อมด้วยสมบัติดังกล่าวมาแล้ว จึงเป็นวาระที่จะ