Book,Page,LineNumber,Text 20,0042,001,ลุงค์ เมื่อของสิ่งหนึ่งกระทบของสิ่งหนึ่ง เช่นคนเอาไม้ค้อนตีระฆัง 20,0042,002,อากาศธาตุรอบของนั้นก็กระเพื่อม เช่นเดียวกันกับคนเอาก้อนอิฐทิ้ง 20,0042,003,ลงไปในน้ำ น้ำย่อมกระเพื่อมเป็นวงล้อมกันเป็นชั้น ๆ ออกไป รอบ 20,0042,004,ศูนย์กลางที่ก้อนอิฐจมลงไปนั้น คลื่นแห่งอากาศธาตุนั้น เดินเข้าทาง 20,0042,005,ช่องหูตอนนอกและกระทบเยื่อที่ขึงอุดอยู่ดุจพื้นกลอง เยื่อนี้ก็กระเทือน 20,0042,006,และความกระเทือนนี้ ก็เดินไปตามกระดูกน้อย ๓ ท่อนที่ต่อกัน เป็น 20,0042,007,สายล่ามขวางช่องตอนหูกลางตลอดถึงกระดูกที่เป็นช่องหูตอนใน แต่ 20,0042,008,นั้นก็รับสัมผัสส่งเข้าไปถึงมัตถลุงค์ สำเร็จเป็นกิริยาฟังเสียง ได้ในคำ 20,0042,009,บาลีว่า โสตญฺจ ปฏิจฺจ สทฺเท จ อุปฺปชฺชติ โสติวิญฺาณํ อาศัย 20,0042,010,โสตด้วย เสียงทั้งหลายด้วย เกิดโสตวิญญาณ คือความรู้แจ้งอาศัย 20,0042,011,โสตขึ้น ดังนี้ ถ้าสิ่งของเหล่านั้นกระทบกันแรงอากาศก็กระเพื่อมแรง 20,0042,012,การได้ยินก็ดัง เช่นตีกลอง เมื่อคนตีกลองในที่ใกล้ ทุกคนย่อมสังเกต 20,0042,013,ได้ว่าหัวอกของตัวกระเทือน ข้อนี้เป็นเพราะคลื่นแห่งอากาศกระเพื่อม 20,0042,014,ไปกระทบ ถ้าสิ่งของเหล่านั้นกระทบกันเบา อากาศก็กระเพื่อนเบา 20,0042,015,การได้ยินก็เบา และของกระทบกันในที่ใกล้หรือห่าง ก็เป็นเหตุแห่ง 20,0042,016,การได้ยินดังหรือเบา เพราะระยะอากาศธาตุที่กระเพื่อมใกล้หรือห่าง 20,0042,017,ถ้าเยื่อที่ขึงอุดช่องหูตอนนอกหรือกระดูกในตอนกลาง หรือตอนใน 20,0042,018,พิการหรือพิบัติ ก็ได้ยินไม่ถนัดหรือไม่ได้ยินเลย. 20,0042,019,จมูกนั้น ที่เพดานข้างในมีเส้นประสาทน้อย ๆ ดาดเต็มล่างเข้า 20,0042,020,ไปทางช่องกระดูกเพดานเป็นรูปเล็ก ๆ ดุจตะแกรงน้อยสำหรับร่อนของ 20,0042,021,แล้วรวมกันเป็นสายถึงมัตถลุงค์ เมื่อกลิ่นระบือมาทางอากาศเข้าไปใน