Book,Page,LineNumber,Text
29,0047,001,๔. สัทธาจริต เป็นคนหูเบาเชื่อง่าย
29,0047,002,๕. พุทธจริต เป็นคนรู้มาก
29,0047,003,๖. วิตักกจริต เป็นคนกังวลคิดหน้าคิดหลังพะว้าพะวัง
29,0047,004,ผู้ทำกัมมัฏฐานต้องคัดเลือกหาธรรมะที่เป็นสัปปายะ
29,0047,005,๑. อาวาสสัปปายะ ที่อยู่สบาย
29,0047,006,๒. โคจรสัปปายะ ที่แสวงหาเลี้ยงชีพอย่างสบาย
29,0047,007,๓. กถาสัปปายะ พูดแต่เรื่องสบาย
29,0047,008,๔. ปุคคลสัปปายะ มีบุคคลสบาย
29,0047,009,๕. อาหารสัปปายะ อาหารที่ถูกต้องตามความต้องการของ
29,0047,010,ร่างกาย
29,0047,011,๖. อุตุสัปปายะ ฤดูที่สบาย
29,0047,012,อุปการธรรมที่ขาดไม่ได้
29,0047,013,๑. อาตาปี ความเพียร
29,0047,014,๒. สัมปชาโน ความรู้ตัว
29,0047,015,๓. สติมา มีสติ
29,0047,016,ครั้นพร้อมดังนี้แล้ว ผู้ทำกัมมัฏฐานนั่งคู้บัลลังก์ หดเท้าซ้ายเข้า
29,0047,017,เอาเท้าขวาเข้า นั่งขัดสมาธิ เริ่มระดมความสังเกต มีสติไปยังลมหายใจ
29,0047,018,ใช้สติกำหนดลมหายใจ ให้รู้ว่าหายใจออกสั้นหรือยาว ให้รู้ว่าหายใจ
29,0047,019,เข้าสั้นหรือยาว ใช้สติกำหนดลมหายใจอยู่อย่างนี้
29,0047,020,๑. เมื่อกำหนดดูลมหายใจนาน ๆ ก็เกิดฉันทะ ความพอใจ
29,0047,021,๒. เมื่อมีฉันทะ ความพอใจในการกำหนดลมหายใจอยู่อย่าง
29,0047,022,นั้น หายใจเข้าหายใจออกก็ละเอียดขึ้น