Book,Page,LineNumber,Text 49,0009,001,นั้นได้ แต่ถ้าบุคคลใดมาเห็นโทษของทุกข์เหล่านั้นโดยประจักษ์แจ้ง 49,0009,002,ย่อมเกิดความเบื่อหน่ายในทุกข์เหล่านั้น และพยายามเพื่อพ้นจากทุกข์ 49,0009,003,เหล่านั้น เพราะน้อมใจยินดีต่อพระนิพพาน คือธรรมเป็นที่สิ้นไปแห่ง 49,0009,004,ทุกข์ทั้งปวง ผู้นั้นจึงจะหลุดพ้นจากทุกข์เหล่านั้นได้ เพราะว่าพระ 49,0009,005,นิพพานเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ได้ในพระพุทธภาษิตว่า 49,0009,006,อนฺโต ทุกฺขสฺส นิพฺพานํ 49,0009,007,แปลว่า พระนิพพานเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ดังนี้ ฯ 49,0009,008,จริงอย่างนั้น เพราะพระนิพพานเป็นธรรมหากิเลสเครื่องเสียด 49,0009,009,แทงและร้อยรัดมิได้ เป็นธรรมว่างจากกิเลสอาสวะทั้งปวง ได้ใน 49,0009,010,พระพุทธภาษิตว่า 49,0009,011,นิพฺพานํ ปรมํ สุฺํ 49,0009,012,แปลว่า พระนิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง ดังนี้ ฯ 49,0009,013,เพราะอย่างนี้แล พระนิพพานจึงชื่อว่าเป็นสุขอย่างยิ่ง ไม่มีสุข 49,0009,014,อื่นจะเทียมถึง เพราะสุขอย่างอื่นเป็นวิปริณาธรรมไม่ยั่งยืนแก่ผู้ประสบ 49,0009,015,และเป็นสุขมีทุกข์เจือปน ส่วนสุขของพระนิพพานเป็นสุขเยือกเย็น 49,0009,016,เป็นสุขสดใส เป็นสุขถาวรไม่แปรผัน ดังพจนประพันธพุทธภาษิตว่า 49,0009,017, นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ 49,0009,018,แปลว่า พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ดังนี้ ฯ 49,0009,019,เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลายจึงได้กล่าวยกย่องพระนิพพาน 49,0009,020,ว่าเป็นธรรมอย่างยิ่ง ประเสริฐกว่าธรรมอื่น ได้ในพระพุทธภาษิตว่า