Book,Page,LineNumber,Text 04,0014,001,เป็นให้ส่วนบุญ ตามวิธีข้างพระพุทธศาสนา แม้จืดจางลงก็ยังไม่เลิก 04,0014,002,ทีเดียว. ข้าวบิณฑ์ของพราหมณ์นั้น เขาทำพิธีเซ่นแล้วโยนให้ทาน 04,0014,003,สัตว์ กาบ้าง ปศุบ้าง. กานั้นเขาถือว่าเป็นนกผี ได้อาหารกินแล้วจะ 04,0014,004,ได้ไม่รังควานบุรพบิดรของเขา. ปศุนั้น เช่นโคกระบือ พวกพราหมณ์ 04,0014,005,"เขาใช้แต่โค, โคจักกันข้าวบิณฑ์นั้นหรือไม่ น่าสงสัยอยู่. แต่ได้ยิน" 04,0014,006,"ว่า โคในเมืองเราที่เจ้าของหัดมาแต่เล็ก กินข้าวและขนมได้, โค" 04,0014,007,ของเขาจักเป็นเช่นนั้นกระมัง. การทำทิกษิณาที่เรียกว่าศราทธะของเขา 04,0014,008,คือเชิญพวกพราหมณ์มาเลี้ยง เสร็จแล้วแจกไทยธรรม ผ้าเป็นของที่ 04,0014,009,เว้นไม่ได้พวกพราหมณ์เอาธุระนักเพื่อไม่ให้บุรพบิดรของเขาหิวระหาย 04,0014,010,"และเปลือยกาย, การให้ผ้าในทักษิณานุประทานของเราก็มีเหมือนกัน" 04,0014,011,แต่เราเข้าใจว่า เนื่องมาจากภิกษุถือบังสุกุล ไม่รับผ้าจากมือของผู้ให้ 04,0014,012,จึงวางให้เพื่อหยิบเอาเอง โดยสังเขปว่าผ้าบังสุกุล. การเซ่นและทำ 04,0014,013,ศราทธะอุทิศบุรพบิดร พวกวรรณะอื่นมีกษัตริย์เป็นต้นก็เหมือนกัน 04,0014,014,ในการทำศราทธะ คงเอาพวกพราหมณ์เป็นปฏิคาหก ไม่กล่าวถึงการ 04,0014,015,เลี้ยง ชะรอยพวกพราหมณ์ไม่ฉันของที่วรรณะอื่นทำ. 04,0014,016,พระเจ้าพิมพิสารทรงทำปุพพเปตพลี ภายหลังแต่ทรงนับถือ 04,0014,017,พระพุทธศาสนาแล้ว ชะรอยจะอนุโลมตามธรรมเนียมของพราหมณ์ 04,0014,018,ยักเป็นเลี้ยงและถวายไทยธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ แทนทำแก่พราหมณ์ 04,0014,019,บางทีจะได้กราบทูลเรียนพระปฏิบัติแด่พระศาสดาแล้วก็ได้. 04,0014,020,ในวันทรงทำปุพพเปตพลี พระเจ้าพิมพิสารเชิญเสด็จพระศาสดา