Book,Page,LineNumber,Text 04,0016,001,เรียกว่าปุพพเปตพลี ดังมีแจ้งในอาทิยสูตร ปัญจกังคุตตร โดยความ 04,0016,002,เป็นกิจอันอริยสาวกผู้ครองเรือน จะพึงทำประการหนึ่ง. 04,0016,003,เปตศัพท์ที่ข้าพเจ้าแปลทับว่า เปตชนนั้น หมายความสองนัย 04,0016,004,"หมายเอาคนตายแล้วอย่างหนึ่ง ได้ในคำว่า ""เปโต กาลกโต""" 04,0016,005,"แปลว่าผู้ละไปแล้ว มีกาละอันทำแล้ว, หมายเอาบุรพบิดรอย่างหนึ่ง" 04,0016,006,ได้ในบทว่าปุพพเปตพลี. ผู้ใคร่จะรู้อธิบายแห่งเปตศัพท์สองนัยนี้ 04,0016,007,จงดูในธรรมวิจารณ์ส่วนสังสารวัฏ อธิการแห่งคติตอนแก้ปิตติวิสยะ. 04,0016,008,ในคาถาอนุโมทนานี้ ไม่จำกัดการทำทักษิณาเฉพาะบุรพบิดร ควร 04,0016,009,"เข้าใจเปตศัพท์ในคาถานี้ว่า หมายเอาผู้ตายแล้วทั่วไป, มีธรรมเนียม" 04,0016,010,ของพวกพราหมณ์ว่า ผู้ใหญ่ในครอบครัวตาย จำจะต้องแสดงอาการ 04,0016,011,ร้องไห้ตีอกบ่อรำพันเป็นนักหนา เกินกว่าที่เป็นจริง พวกพ้องผู้มาเป็น 04,0016,012,สหายในการศพ ก็ต้องทำเช่นนั้นเหมือนกัน กล่าวจนถึงว่ามีพวกผู้หญิง 04,0016,013,"คอยรับจ้างทำ ไม่แสดงอาการอย่างนั้นเป็นทำกระด้างต่อผู้ตาย, ใน" 04,0016,014,"บางสูตรกล่าวถึงกิริยาอย่างนี้ว่า ""กนฺทติ ปริเทวติ อุรตฺตาฬึ" 04,0016,015,"กโรติ"" แปลว่า ' ย่อมร้องไห้ ย่อมรำพัน ย่อมทำตีอก,' หมายเอา" 04,0016,016,ธรรมเนียมอย่างนี้. ทรงห้ามมิให้ทำการร้องไห้เศร้าโศกรำพันในคาถา 04,0016,017,นี้ ชื่อว่าทรงแนะนำให้เลิกธรรมเนียมนั้นเสีย เพราะหาประโยชน์แก่ 04,0016,018,ผู้ตายมิได้. ข้อว่า ทักษิณาอันบริจาคในสงฆ์ ย่อมสำเร็จแก่ผู้ตาย 04,0016,019,โดยฐานะนั้น เป็นกลเม็ดอยู่. แต่พระคันถรจนาจารย์ ดูเหมือนจะรู้สึก