Book,Page,LineNumber,Text 07,0037,001,เบื้องพระปฤษฎางค์ ก็ผุดเป็นหนาสะพรั่งคดค้อมน้อมลงดุจหนึ่งเถา 07,0037,002,วัฏฏนาวัลย์ ตามแถวพระอัฐิพระปรัสข้างทั้งซ้ายขวา ก็ชำรุดโหรง 07,0037,003,ดุจกลอนแห่งศาลาเก่าปราศจากเครื่องมุงไม่มีผู้บำรุงฉะนั้น ดวงพระ- 07,0037,004,เนตรทั้ง ๒ ดูถล่มลึกซ้นเข้าไปในวงพระเนตร ดุจหนึ่งดวงดาวตา 07,0037,005,น้ำในบ่อลึกหลายชั่วบุรุษฉะนั้น. ทั้งพระฉวีผิวพระมังสะ เบื้องพระ 07,0037,006,เศียรก็เหี่ยวแห้ง ดุจหนึ่งเต้าที่ตัดมายังดิบยังสด ต้องลมและแดด 07,0037,007,แล้วเหี่ยวแห้งไปฉะนั้น. พิกลแปรแห่งพระกายของพระมหาบุรุษเจ้าดัง 07,0037,008,แสดงมาทั้งปวงนี้ เกิดมีแด่พระมหาบุรุษเจ้า เพราะโทษที่พระอาหาร 07,0037,009,น้อยนั้นอย่างเดียว. ผิวพระมังสะเบื้องพระอุทร ก็เนื่องติดกับพระอัฐิแถว 07,0037,010,พระปฤษฎางค์ เมื่อพระองค์คิดจะจับต้องตามผิวพระมังสะเบื้องพระอุทร 07,0037,011,ก็กระทั่งถูกแถวพระอัฐิเบื้องพระปฤษฎางค์ เมื่อพระองค์คิดจะจับต้อง 07,0037,012,พระอัฐิเบื้องพระปฤษฎางค์เล่า ก็ถูกต้องผิวพระมังสะพระอุทร. เมื่อ 07,0037,013,พระองค์ดำรงพระกายจะถ่ายวัจจะหรือถ่ายมูตร ก็ซวนเซล้มลง ณ ที่นั้น 07,0037,014,เมื่อพระองค์จะให้พระกายอัสสาสะสบายบ้าง ลบพระองค์ลงด้วยฝ่า 07,0037,015,พระหัตถ์ พระโลมาทั้งหลายมีรากเน่า ก็หลุดร่วงลงจากพระกาย. จน 07,0037,016,มนุษย์ทั้งหลายได้เห็นแล้วมีความสังเวชสลดใจกล่าวทักว่าพระสมณโคดม 07,0037,017,มีพรรณกายดำ. บางจำพวกกล่าวว่า เป็นแต่คล้ำไม่สดใส. บาง 07,0037,018,จำพวกกล่าวว่า มีผิวพร้อยพราย. มนุษย์ทั้งหลายเห็นพรรณพิกลแล้ว 07,0037,019,กล่าวทัก ๓ วิกัปฉะนี้ พรรณแห่งผิวของพระมหาบุรุษเจ้า ที่บริสุทธิ์ 07,0037,020,ผุดผ่องนักเพียงนั้น ก็เผือดแผดผิดปกติไป เพราะโทษที่มีพระอวหาร 07,0037,021,น้อยนั้นอย่างเดียว เข้าเบียดเบียน กำจัดเสียไปแปรผัน.