Book,Page,LineNumber,Text 10,0030,001,ไปกว่าเพื่อนว่า เพราะมีปัญญามาก ต้องใช้บริกรรมใหญ่ เปรียบด้วย 10,0030,002,การเสด็จไปข้างไหน ๆ แห่งพระราชา ต้องตระเตรียมราชพาหนะและ 10,0030,003,ราชบริวาร จำเป็นจึงช้ากว่าการไปของคนสามัญ. 10,0030,004,พระสารีบุตรนั้น แม้เป็นสาวกในปูนไม่แรกทีเดียว แต่เป็นผู้มี 10,0030,005,ปัญญาเฉลียวฉลาด ได้เป็นกำลังใหญ่ของพระศาสดา ในการสอน 10,0030,006,พระศาสนา พระองค์ทรงยกย่องว่า เป็นเอตทัคคะในทางปัญญา เป็น 10,0030,007,ผู้สามารถจะแสดงพระธรรมจักร และพระจตุราริยสัจ ให้กว้างขวาง 10,0030,008,พิสดารแม้นกับพระองค์ได้ ถ้ามีภิกษุมาทูลลาจะเที่ยวจาริกไปในทางไกล 10,0030,009,มักตรัสให้ไปลาพระสารีบุตรก่อน เพื่อท่านจะได้สั่งสอนเธอทั้งหลาย. 10,0030,010,เช่นครั้งหนึ่ง พระศาสดาเสด็จอยู่เมืองเทวทหะ ภิกษุเป็นอันมากเข้าไป 10,0030,011,เฝ้าพระศาสดา ทูลลาจะไปปัจฉาภูมิชนบท พระองค์ตรัสถามว่า ท่าน 10,0030,012,ทั้งหลายบอกสารีบุตรแล้วหรือ ? ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ยังไม่ได้บอก 10,0030,013,จึงตรัสสั่งให้ไปลาพระสารีบุตร แล้วทรงยกย่องว่า พระสารีบุตรเป็น 10,0030,014,ผู้มีปัญญา อนุเคราะห์เพื่อนบรรพชิต. ภิกษุเหล่านั้นก็ไปลาตามรับสั่ง. 10,0030,015,ท่านถามว่า ผู้มีอายุ คนมีปัญญาผู้ถามปัญหากะภิกษุ ผู้ไปต่างประเทศ 10,0030,016,มีอยู่ เมื่อเขาลองถามว่า ครูของท่านสั่งสอนอย่างไร ? ท่านทั้งหลาย 10,0030,017,ได้เคยฟังเคยเรียนแล้วหรือ จะพยากรณ์อย่างไร จึงจะเป็นอันไม่กล่าว 10,0030,018,ให้ผิดคำสอนของพระศาสดา อันไม่เป็นการใส่ความ และพยากรณ์ 10,0030,019,ตามสมควรแก่ทางธรรม ไม่ให้เขาติเตียนได้. ภิกษุเหล่านั้นขอให้ท่าน 10,0030,020,สั่งสอน. ท่านกล่าวว่า ถ้าเขาถามอย่างนั้นท่านพึงพยากรณ์ว่า ครูของ 10,0030,021,เราสอนให้ละความกำหนัดรักใคร่เสีย ถ้าเขาถามอีกว่า ละความ