Book,Page,LineNumber,Text 10,0037,001,ท่านพิจารณาเห็นว่าอายุสังขารจวนสิ้นแล้ว ปรารถนาจะไปโปรดมารดา 10,0037,002,เป็นครั้งที่สุด แล้วปรินิพพานในห้องที่ท่านเกิด อธิบายว่า นางสารีมารดา 10,0037,003,ท่าน เป็นผู้ไม่ศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา โทมนัสเพราะท่าน 10,0037,004,และน้อง ๆ พากันออกบวชเสีย ท่านพยายามชักจูงมาในพระพุทธ- 10,0037,005,ศาสนาหลายครั้งแล้ว ยังมิสำเร็จ จึงดำริจะไปโปรดเป็นครั้งสุดท้าย 10,0037,006,ท่านทูลลาพระศาสดาไปกับพระจุนทะผู้น้องกับบริวาร ไปถึงบ้านเดิม 10,0037,007,แล้ว เกิดโรคปักขันทิกาพาธขึ้นในคืนนั้น ในเวลากำลังอาพาธอยู่นั้น 10,0037,008,ได้เทศนาโปรดมารดาสำเร็จ นางได้บรรลุพระโสดาปัตติผล พอเวลา 10,0037,009,ปัจจุสมัย สุดวันเพ็ญแห่งกัตติกมาส พระเถรเจ้าปรินิพพาน. รุ่งขึ้นพระ 10,0037,010,จุนทะได้ทำฌาปนกิจสรีระพระเถรเจ้าเสร็จ เก็บอัฐิธาตุนำไปถวาย 10,0037,011,พระศาสดา ในเวลาประทับอยู่ ณ พระเชตวัน กรุงสาวัตถี โปรดให้ 10,0037,012,ก่อพระเจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของพระเถรเจ้าไว้ ณ ที่นั้น. 10,0037,013,การที่จะกล่าวถึงพระสารีบุตรไปปรินิพพานที่บ้านเดิมนั้น แผกจาก 10,0037,014,อาการของพระสาวกในครั้งนั้น. ถ้าเป็นเดินทางไป เข้าพักอาศัยที่บ้าน 10,0037,015,เกิดโรคปัจจุบันขึ้นแล้วปรินิพพาน มีทางอยู่. มีเรื่องเล่าถึงภิกษุเดิน 10,0037,016,ทางเข้าอาศัยบ้านก็มี. โดยที่สุด พระศาสดาเอง เสด็จพักในโรงช่าง 10,0037,017,หม้อก็มี. ถ้าท่านรู้ตัวและตั้งใจจะปรินิพพานที่นั่น เพื่อโปรดมารดา 10,0037,018,ดังกล่าวในปกรณ์ อย่างนี้เป็นเช่นภิกษุอาพาธ ปรารถนาจะไปรักษาตัว 10,0037,019,ที่บ้าน ครั้นไปแล้ว ถึงมรณะที่นั่น. ยุกติเป็นอย่างไร นักตำนาน 10,0037,020,จงสันนิษฐานเอาเองเถิด.