Book,Page,LineNumber,Text 11,0025,001,กิลมถานุโยคนั้นแล้ว ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์เพื่อบรรลุ 11,0025,002,ประโยชน์ตามสมควร ครั้นถึงเวลาที่จะทำความเพียรเป็นไปในจิตซึ่ง 11,0025,003,จะต้องการความสงัด ก็เผอิญให้ฤษีปัญจวัคคีย์นั้นคิดเบื่อหน่ายแล้ว 11,0025,004,หลีกไปเสีย ข้อนี้ดูเหมือนกันเธอเหล่านั้นไม่ให้เป็นอันตรายแก่ความ 11,0025,005,สงัดของพระผู้มีพระภาคได้. 11,0025,006,ฝ่ายพระผู้มีพระภาคเจ้า เสวยพระอาหารหยาบ ทำพระกายให้ 11,0025,007,กลับมีพระกำลังขึ้นได้อย่างเก่าแล้ว ทรงเริ่มความเพียรเป็นไปในจิต 11,0025,008,ให้เพ่งอยู่ในอารมณ์อันเดียวจนเป็นสมาธิ พระองค์ได้บรรลุฌานที่ ๑ 11,0025,009,ฌานที่ ๒ ฌานที่ ๓ ฌานที่ ๔ โดยลำดับ เมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ 11,0025,010,บริสุทธิ์ ปราศจากเครื่องเศร้าหมองมีความพอใจรับใคร่ในกามเป็นต้น 11,0025,011,อย่างนี้แล้ว ทรงคำนึงถึงอุบายที่จะให้พ้นจากชราพยาธิมรณะ ที่ 11,0025,012,พระองค์ได้แสวงหาอยู่นั้นต่อไป ก็สิ่งใดมีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่ง 11,0025,013,นั้นต้องมีชรา พยาธิ มรณะ เป็นธรรมดา ใคร ๆ จะปรารถนาอย่าให้ 11,0025,014,ชรา พยาธิ มรณะ เลย ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความสมประสงค์ได้ ทุกข์ 11,0025,015,ความหนักใจเพราะชรา พยาธิ มรณะ นั้น ย่อมมีเพราะความถือมั่น 11,0025,016,ว่ามีแก่ตน ถ้าไม่ถือมั่นอย่างนั้นแล้ว ทุกข์นั้นก็ไม่ครอบงำจิตได้ 11,0025,017,อย่างนี้แลเป็นอุบายที่จะให้พ้นจากชรา พยาธิ มรณะได้ ครั้นเมื่อ 11,0025,018,พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระดำริเห็นฉะนี้แล้ว จึงทรงแสวงหาอุบาย 11,0025,019,เป็นเหตุไม่ถือมั่นต่อไป ก็ความไม่ถือมั่นนั้นจะมีได้ ก็เพราะพิจารณา 11,0025,020,แยกกายใจอันนี้ออกเป็นส่วน เป็นกอง พิจารณาเห็นแต่เพียงเป็นส่วน 11,0025,021,เป็นกองทั่วทั้งหมด พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงกำหนดเห็นกายใจใน