Book,Page,LineNumber,Text 16,0004,001,"โอวาทแก่ภิกษุณี, ให้ ได้แก่ให้ประวาสและมานัตแก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติ " 16,0004,002,สังฆาทิเสส นิคคหะ ได้แก่ ปรับภิกษุผู้ประพฤติปริวาสหรือมานัต 16,0004,003,"อยู่ ต้องอาบัติสังฆาทิเสสซ้ำเข้าอีก ให้กลับตั้งต้นประพฤติไปใหม่," 16,0004,004,สมนุภาสนา ได้แก่ สวดห้ามภิกษุไม่ให้ถือรั้นการอันมิชอบ เช่นกล่าว 16,0004,005,ไว้ในสังฆาทิเสส พวกยาวตติยกะ และสิกขาบทที่ ๘ แห่งสัปปาณวรรค 16,0004,006,ในปาจิตติยกัณฑ์ กับกัมมลักขณะ ที่ท่านว่าได้แก่อุปสมบทและอัพภาน 16,0004,007,คือ ระงับอาบัติสังฆาทิเสส ของภิกษุผู้ประพฤติปริวาสและมานัตครบ 16,0004,008,กำหนดแล้ว. 16,0004,009,กรรมที่สวดอนุสาวนา ๓ หนนั้น คงถือเป็นสำคัญ ภิกษุผู้เข้า 16,0004,010,ประชุมเป็นสงฆ์จะได้มีเวลาพิจารณายาวออกไป. 16,0004,011,สงฆ์ผู้ทำกรรม ๔ ประเภทนี้ มีกำหนดเป็นจำนวน เรียกว่า 16,0004,012,"วรรค คือพวกสงฆ์มีจำนวน ๔ รูป เรียก จตุรวรรค, สงฆ์มีจำนวน ๕" 16,0004,013,"รูป เรียก ปัญจวรรค, สงฆ์มีจำนวน ๑๐ รูป เรียก ทสวรรค, สงฆ์" 16,0004,014,"มีจำนวน ๒๐ รูป เรียก วีสติวรรค, เป็น ๔ วรรค ในจัมเปยยขันธกะ" 16,0004,015,คัมภีร์มหาวรรค จัดสงฆ์ไว้อีกจำนวนหนึ่ง มีจำนวนเกิน ๒๐ รูป 16,0004,016,"เรียก อติเรกวีสติวรรค, แต่ไม่มีสามารถต่างจากสงฆ์วีสติวรรค ดัง" 16,0004,017,จะเห็นต่อไป. 16,0004,018,ในกรรม ๔ ประเภทนี้ เว้นปวารณา ให้ผ้ากฐิน อุปสมบทและ 16,0004,019,อัพภาน เหลือจากนั้นสงฆ์จตุรวรรคทำได้. แต่ในจัมเปยยขันธกะ 16,0004,020,หาได้ระบุถึงการให้ผ้ากฐินไม่. ปวารณา ให้ผ้ากฐิน และอุปสมบทใน