Book,Page,LineNumber,Text 18,0038,001,๓๖. เรื่องนางปติปูชิกา 18,0038,002,พระบรมศาสดา ทรงปรารภนางปติปูชิกา เดิมนางได้เป็นเทพธิดา 18,0038,003,ของมาลาภารีเทวบุตรในดาวดึงสเทวโลก วันหนึ่งได้ไปเที่ยวสวนสวรรค์ 18,0038,004,กับเทพบุตรนั้น จุติจากที่นั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ในเมืองสาวัตถี เป็น 18,0038,005,หญิงระลึกชาติได้ มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ทำกุศลต่าง ๆ 18,0038,006,แล้วปรารถนาไปเกิดในที่เดิม นางได้มีสามีในมนุษย์แล้วมีบุตร ๔ คน 18,0038,007,ทำกาลกิริยาแล้วไปเกิดในเทวโลกอย่างเดิม ได้ยินว่า วันหนึ่งของ 18,0038,008,สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็น ๑๐๐ ปีของมนุษย์ เพราะฉะนั้น มาลาภารี 18,0038,009,เทวบุตรจึงยังไม่ได้กลับจากสวนสวรรค์ เมื่อเห็นนางกลับไปจึงถามว่า 18,0038,010,เมื่อตะกี้เจ้าไปไหนมา นางเทพธิดานั้นเล่าเรื่องให้ฟัง มาลาภารีเทพบุตร 18,0038,011,เกิดธรรมสังเวชว่า อายุของมนุษย์น้อยจริงหนอ เท่ากับนอนหลับแล้ว 18,0038,012,ตื่นขึ้นฉะนั้น ครั้งนั้นภิกษุทั้งหลายทราบว่า นางปติปูชิกาทำกาลกิริยา 18,0038,013,แล้ว ก็เข้าไปเฝ้าทูลแด่พระศาสดา พระองค์จึงทรงเล่าเรื่องนาง 18,0038,014,ปติปูชิกาให้ภิกษุเหล่านั้นเกิดธรรมสังเวช แล้วจึงตรัสพระคาถานี้ 18,0038,015,ปุปฺผานิ เหว ปจินนฺตํ ผู้ทำที่สุด ( คือมรณะ ) ย่อมทำคน 18,0038,016,พฺยาสตฺตมนสํ นรํ ที่มีใจข้องแล้ว ในอารมณ์ต่าง ๆ 18,0038,017,อติตฺตํเยว กาเมสุ มัวเก็บดอกไม้ทั้งหลาย ( คือปัญจ- 18,0038,018,อนฺตโก กุรุเต วสํ. กามคุณ ) อยู่นั้นเทียว ผู้ไม่เบื่อ 18,0038,019,แล้วในกามทั้งหลายทีเดียว สู่ 18,0038,020,อำนาจของตน.