Book,Page,LineNumber,Text 25,0042,001,ดราวิเดียนได้ค้าขายติดต่อกับพวกบาบิโลเนียนซึ่งเป็นพวกเซมิติค ก็ 25,0042,002,พอใจในการใช้อักษรของพวกนั้น จึงนำเข้ามาใช้ในอินเดีย พวก 25,0042,003,พระในศาสนาพราหมณ์ได้ดัดแปลงใช้เขียนพระคัมภีร์ของตน และ 25,0042,004,กลายเป็นต้นกำเนิดของอักษรอินเดียสืบมา. พวกดราวิเดียนได้นำอักษร 25,0042,005,นี้เข้ามาในราวยุคพระเวทต่อกับยุคพราหมณะ (๓๐๐-๒๐๐ ก.พ.) 25,0042,006,พวกพระดัดแปลงแล้วใช้จารึกข้อความต่าง ๆ ลงบนเปลือกไม้ชนิดหนึ่ง 25,0042,007,(Brich Bark). ต่อมาได้ใช้ใบไม้ชนิดหนึ่ง (Alipot Palm) 25,0042,008,ซึ่งเป็นพวกใบตาลหรือใบลานแทน แต่ไม่เคยใช้ดินเหนียวเผาเหมือน 25,0042,009,พวกบาบิโลเนียนซึ่งเป็นเจ้าของเดิม ทั้งนี้ก็เพราะต้องการเขียนมาก ๆ 25,0042,010,จึงจำเป็นต้องดัดแปลงเส้นหรือมุมตัวอักษร เพื่อความสะดวกบ้างตาม 25,0042,011,สมควร. พระในศาสนาพราหมณ์ได้หวงแหนการใช้อักษรนี้ ฝ่าย 25,0042,012,พวกพุทธบริษัทเกิดในขึ้นยุคหลัง ได้นำเอาไปใช้ให้มีประโยชน์กว้าง 25,0042,013,ขวางออกไป คือใช้จารึกข้อความทางศาสนาลงบนแผ่นโลหะ แผ่น 25,0042,014,หิน และอิฐ อัดพิมพ์เผาทำนองพวกบาบิโลเนียน แต่พึงเข้าใจว่า 25,0042,015,สิ่งที่เขียนนั้น ยังมิใช่การรักษาพระคัมภีร์หรือเรื่องยาว ๆ เป็นเพียง 25,0042,016,"ข้อความศักดิ์สิทธิ์หรือเบ็ดเตล็ดเท่านั้น, ส่วนพระคัมภีร์นั้นยังนิยมจำ" 25,0042,017,ด้วยเปล่า จึงทำให้เกิดความจำเป็นต้องร้อยกรองขึ้นเป็นกาพย์ 25,0042,018,กลอนเพื่อจำง่าย. และก่อนหน้านี้ คัมภีร์พระเวทและศาสนาอื่น ๆ 25,0042,019,ก็ใช้ท่องจำในใจและสอนกันด้วยปากอย่างเดียว. 25,0042,020,ในสมัยที่พระผู้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระชนม์อยู่ (๕๐๐ ก. ค.) ได้