Book,Page,LineNumber,Text 41,0012,001,พุทธศาสนาอย่างนี้ มติข้างพระพุทธศาสนาปฏิเสธอัตตา อันเที่ยง 41,0012,002,ถาวรอย่างนั้น แต่ยอมรับความเวียนเกิดแห่งสภาวธรรมด้วยอำนาจ 41,0012,003,แห่งเหตุ และยอมรับความสิ้นสูญแห่งสภาวธรรมเหล่านั้นด้วยขาด 41,0012,004,แห่งเหตุ เพราะอย่างนี้ จึงมีคำกล่าวว่า ผู้นั้นผู้นี้ตายแล้วไปเกิดใน 41,0012,005,สุคติบ้าง และท่านผู้นั้นผู้นี้ดับขันธปรินิพพานบ้าง. 41,0012,006,๗/๑๑/๖๐ 41,0012,007,ถ. อย่างไรเห็นว่าเที่ยง อย่างไรเห็นว่าขาดสูญ เมื่อเป็น 41,0012,008,อย่างนั้น เห็นอย่างไรจึงจะชอบ ? 41,0012,009,ต. เห็นว่าโลกนี้ไม่มีอะไรสูญ แม้คนและสัตว์ตายแล้ว ร่างกาย 41,0012,010,เท่านั้นทรุดโทรมไป ส่วนมนัสที่เรียกว่า อาตฺมนฺ๑<\sup> บ้าง อตฺตา๒<\sup> 41,0012,011,บ้าง ชีโว๓<\sup> บ้าง เจตภูต บ้าง เป็นธรรมชาติไม่สูญ ย่อมถือ 41,0012,012,ปฏิสนธิในกำเนิดอื่นสืบไป นี้จัดเป็นเห็นว่าเที่ยง ความเห็นปฏิเสธ 41,0012,013,ภาวะอย่างนั้น ถือว่าคนและสัตว์จุติจากอัตภาพนั้น ๆ แล้วเป็นขาด 41,0012,014,สูญ นี้จัดเป็นเห็นขาดสูญ. ความเห็นปฏิเสธภาวะทั้ง ๒ นั้น คือ 41,0012,015,เห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับเป็น 41,0012,016,ธรรมดา เห็นอย่างนี้จึงจะชอบ. 41,0012,017,๑๐/๙/๖๖-๒๕๐๘ 41,0012,018,ถ. ความเห็นว่า มนัส หรืออัตตา เป็นธรรมชาติเที่ยงที่จะถือ 41,0012,019,ปฏิสนธิสืบไปก็ดี เห็นว่าสัตว์ตายแล้วขาดสูญก็ดี จัดว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ 41,0012,020,เพราะเหตุไร ? จงอธิบายให้ฟังตลอดถึงความเห็นที่ถูกด้วย.