Book,Page,LineNumber,Text 03,044,001,ตรัสรู้โดยสังเขปเพียงสักว่าชื่อ แต่กล่าวประพฤติเหตุอันเป็นไปในวัน 03,044,002,ตรัสรู้โดยพิสดารดังนี้ :- 03,044,003,ในเช้าวันนั้น นางสุชาดาบุตรีกุฎุมพีนายใหญ่แห่งชาวบ้าน 03,044,004,"เสนานคม ณ ตำบลอุรุเวลา, ปรารถนาจะทำการบวงสรวงเทวดา" 03,044,005,หุงข้าปายาสคือข้าวสุก หุงด้วยน้ำนมโคล้วนเสร็จแล้ว จัดลงในถาด 03,044,006,ทองนำไปที่โพธิพฤกษ์. เห็นพระมหาบุรุษเสด็จนั่งอยู่ สำคัญว่า 03,044,007,เทวดาจึงน้อมข้าวปายาสเข้าไปถวาย. ในเวลานั้นบาตรของพระองค์ 03,044,008,"เผอิญอันตรธานหาย, พระองค์จึงทรงรับข้าวปายาสนั้นทั้งถาดด้วย" 03,044,009,พระหัตถ์ แล้วทอดพระเนตรแลดูนาง. นางทราบพระอาการจึง 03,044,010,ทูลถวายทั้งถาดแล้วกลับไป. พระมหาบุรุษทรงถือถาดข้าวปายาส 03,044,011,"เสด็จไปสู่ท่าแห่งแม่น้ำเนรัญชรา, สรงแล้วเสวยข้าวปายาสหมดแล้ว" 03,044,012,ทรงลอยถาดเสียในกระแสน้ำ. พระองค์เสด็จประทับอยู่ในดงไม้สาละ 03,044,013,"ใกล้ฝั่งแม่น้ำในกลางวัน, ครั้นเวลาเย็น เสด็จมาสู่ต้นพระมหาโพธิ" 03,044,014,"ทรงรับหญ้าของคนหาบหญ้า ชื่อโสตถิยะ ถวายในระหว่างทาง, ทรง" 03,044,015,ลาดหญ้าต่างบัลลังก์ ณ ควงพระมหาโพธิด้านปราจีนทิศแล้ว เสด็จนง 03,044,016,ขัดสมาธิ ผันพระพักตร์ทางบุรพทิศ ผันพระปฤษฎางค์ทางลำต้น 03,044,017,"พระมหาโพธิ, ทรงอธิษฐานในพระหฤทัยว่า "" ยังไม่บรรลุพระสัมมา-" 03,044,018,สัมโพธิญาณเพียงใด จักไม่เสด็จลุกขึ้นเพียงนั้น พระมังสะและพระ 03,044,019,โลหิตจะแห้งเหือดไป เหลือแต่พระตจะ พระนหารุ และพระอัฐิ