Book,Page,LineNumber,Text 06,0001,001,วินัยมุข เล่ม ๑ 06,0001,002,กัณฑ์ที่ ๑ 06,0001,003,อุปสัมปทา 06,0001,004,ตั้งแต่ครั้งโบราณกาลมาจนบัดนี้ มีคนจำพวกหนึ่ง พอใจจะชัก 06,0001,005,จูงคนให้ประพฤติธรรม ด้วยเข้าใจว่าได้ยังประโยชน์ใหญ่ให้สำเร็จแก่ 06,0001,006,มหาชน ทำความเกิดของตนไม่ให้ไร้ผลเปล่า. คนจำพวกนี้ที่อุกฤษฏ์ 06,0001,007,ได้ยอมสละโภคสมบัติยศศักดิ์ และความสุขส่วนตัวเสีย ประพฤติเป็น 06,0001,008,นักบวชเที่ยวสั่งสอนมหาชน ชักจูงให้ประพฤติธรรมที่ตนนับถือว่า 06,0001,009,เป็นดี มีคนนับถือมาก ได้รับความยกย่องเป็นศาสดา. คำสอนที่พวก 06,0001,010,คนเป็นอันมากนิยมนับถือสืบมา จัดว่าเป็นลัทธิหรือศาสนาอย่างหนึ่ง ๆ. 06,0001,011,พระศาสดาของพวกเรา ก็เป็นพระองค์หนึ่งแห่งคนจำพวกนั้น. 06,0001,012,พระองค์มีพระกรุณาใหญ่ในหมู่ชนฝังอยู่ในพระสันดาน แม้พระองค์ 06,0001,013,ประสูติในสกุลกษัตริย์ และเป็นรัชทายาท ผู้จะได้รับราชสมบัติสืบ 06,0001,014,พระวงศ์ มีทางที่จะได้ทรงทำประโยชน์ให้แก่มหาชนผู้อยู่ใต้ปกครอง 06,0001,015,ถึงอย่างนั้น ก็ยังพอพระหฤทัยในทางเป็นผู้สั่งสอนมหาชนมากกว่าครอง 06,0001,016,แผ่นดิน ข้อนี้เป็นเหตุให้พระองค์ทรงผนวช. เป็นธรรมดาของท่าน 06,0001,017,ผู้บวชด้วยความประสงค์เช่นนั้น จงลงสันนิษฐานว่า จะเข้าพวกเป็น 06,0001,018,ผู้ช่วยท่านผู้อื่นหรือจะทำเองตามลำพัง. ในชั้นแรก พระองค์น้อม