Book,Page,LineNumber,Text 13,0030,001,ที่ถ่ายจากรูปศิลา ของพวกพุทธศาสนิกในชมพูทวีปตอนเหนือ ไม่ใหญ่ 13,0030,002,ดุจบาตรที่ภิกษุใช้อยู่ในประเทศเราบัดนี้ ขนาดเท่าเราถือขันน้ำได้ 13,0030,003,อยู่ สัณฐานก็ออกจะคล้ายกะโหลกน้ำเต้าด้วย. ในคัมภีร์วิภังค์ 13,0030,004,กล่าวขนาดบาตรไว้ ๓ ชนิด อย่างใหญ่ อย่างกลาง อย่างเล็ก 13,0030,005,กำหนดด้วยจุอาหาร. บาตรขนาดใหญ่ จุข้าวสุกแห่งข้าวสารกึ่ง 13,0030,006,อาฬหก บาตรขนาดกลาง จุข้าวสุกแห่งข้าวสารนาฬีหนึ่ง บาตร 13,0030,007,ขนาดเล็ก จุข้าวสุกแห่งข้าวสารปัตถะหนึ่ง เดิมของเคี้ยวเท่า ๑ 13,0030,008,เสี้ยว ๔ แห่งข้าวสุก และกับข้าวพอสมกัน. บาตร ๓ ขนาดนี้ 13,0030,009,อาหารทวีคูณกว่ากันโดยลำดับ. ตามคำในเรื่องเมณฑกเศรษฐีใน 13,0030,010,อรรถกถาธรรมบท ตอนมลวรรค ข้าวสารนาฬีหนึ่ง หุงเป็นข้าวสุก 13,0030,011,แจกกัน ๕ คน ส่วนที่คนหนึ่งได้ พอกินอิ่ม แต่ไม่พอแก่ ๒ คน โดย 13,0030,012,นัยนี้ บาตรขนาดเล็ก จุข้าวสุก ๒ คนกินเหลือ กิน ๓ คนไม่พอ 13,0030,013,บาตรขนาดกลาง จุข้าวสุกกินได้ ๕ คน บาตรขนาดใหญ่ จุข้าว- 13,0030,014,สุกกินได้ ๑๐ คน. ลองให้หุงข้าวและทำบาตรตัวอย่างตามมาตรา 13,0030,015,ตวงในมาตรากัณฑ์ก็ลงรอยกัน. บาตรขนาดเล็กเขื่องกว่ากะโหลก 13,0030,016,หัวผีหน่อยหนึ่ง ถ้ากำหนดเอาแต่จุข้าวสุก ไม่เพิ่มของเคี้ยวและกับ 13,0030,017,ข้าวก็จะพอได้กัน ปั่นเป็นโอกาสสำหรับของเคี้ยวของกินไว้บ้าง 13,0030,018,ข้าวก็คงพอกินคนเดียวเหลือ หรือพอ ๒ คน สมเป็นบาตร บาตร 13,0030,019,ขนาดกลางสัณฐานเท่ากับบาตรที่ใช้กันเป็นพื้นในบัดนี้ วัดรอบตัว 13,0030,020,๒๗ นิ้วฟุตครึ่ง แต่จุข้าวสุกมากเกินต้องการ บาตรขนาดใหญ่ 13,0030,021,อนุมานว่า ทั้งสัณฐานใหญ่ทั้งจุข้าวสุกมากเกินไป ไม่ได้ลองทำ