Book,Page,LineNumber,Text 16,0041,001,อพัทธสีมา 16,0041,002,คามสีมา 16,0041,003,ถ้าสงฆ์ไม่ได้กำหนดเขตสีมาเอาเองดังกล่าวแล้ว เขตแห่งความ 16,0041,004,สามัคคี ตรัสให้กำหนดเอาตามเขตบ้านเขตนิคมอันตนเข้าอาศัยอยู่ ที่ 16,0041,005,ฝ่ายอาณาจักรจัดไว้ นี้เรียกว่าคามสีมาบ้าง นิคมสีมาบ้าง มีสังวาส 16,0041,006,เสมอกัน มีอุโบสถเดียวกัน. 16,0041,007,คำว่าบ้านนั้น หมายความตั้งแต่แคบจนกว้าง ที่อยู่ของคน 16,0041,008,ครัวเดียวกัน มีเรือนหลังเดียวกัน ๒ หลัง ๓ หลังหรือมากกว่านั้น 16,0041,009,ก็เรียกว่าบ้าน เช่นคำว่าบ้านนายแก้ว รวมบ้านเหล่านั้นเข้าเป็นหมู่ 16,0041,010,ก็เรียกว่าบ้าน เช่นคำว่าบ้านสร้าง ในที่นี้ พระอรรถกถาจารย์ให้ 16,0041,011,กำหนดเขตในชั่วที่นายบ้านเก็บส่วย ได้แก่บ้านโดยนัยหลัง อธิบายว่า 16,0041,012,ตำบลที่เรียกว่าบ้านสร้างแล้ว เป็นสีมาอันเดียวกัน หรือได้แก่ตำบล 16,0041,013,กำนัน. 16,0041,014,คำว่านิคมนั้น เป็นที่รวมแห่งบ้านโดยนัยหลังหลายตำบลเข้าอีก 16,0041,015,เช่นรวมตำบลกำนันหลายแห่งเข้าเป็นเขตอำเภอ. 16,0041,016,เมื่อเป็นเช่นนี้ เขตบ้านกับเขตนิคมย่อมไม่เหมือนกัน ในบาลี 16,0041,017,ดูเป็นได้เหมือนกัน อนุญาตเขตบ้านโดยกำหนดในที่สุดแล้ว จักกล่าว 16,0041,018,ถึงเขตนิคมอีกทำอะไร. ซ้ำพระอรรถกถาจารย์แถมเขตนครเข้าอีกด้วย. 16,0041,019,ข้าพเจ้าใคร่ครวญดูเห็นอยู่ ๒ นัย สุดแต่สงฆ์จะตั้งกติกานัดหมายกัน 16,0041,020,ลงว่าจะกำหนดเอาเขตบ้านหรือเขตนิคม ด้วยมุ่งความสะดวกเป็นที่ตั้ง 16,0041,021,หรือด้วยมุ่งประโยชน์อันจะพึงได้แห่งสีมาใหญ่ อีกนัยหนึ่ง ในแดน