Book,Page,LineNumber,Text 19,0011,001,ซ้ำกลับเบียดเบียนเพื่อมนุษย์ให้ได้รับทุกข์ภัยต่าง ๆ ควรได้รับความ 19,0011,002,กรุณาของผู้ประพฤติธรรมมีสติสัมปชัญญะฉันนั้น อันจะเกลียดชังคน 19,0011,003,เช่นนั้น เท่ากับคนดีทะเลาะกับคนเมา. เมื่อนึกอย่างนี้บางทีก็จะยัง 19,0011,004,กรุณาให้เกิดขึ้นได้. ถ้าน้อมใจไม่ลง ก็พึงนึกถึงความที่สัตว์มีกรรม 19,0011,005,เป็นของ ๆ ตน ผู้ใดทำดีหรือชั่ว ผู้นั้นจงปรากฏด้วยกรรมของตนเอง 19,0011,006,พึงวางจิตลงเป็นอุเบกขา. แม้อย่างนั้นก็ไม่สำเร็จ อย่านึกปรารภถึงผู้ 19,0011,007,นั้นเสียเลย. ถ้าเขาเกลียดชังตนต่างหาก ก็พึงหาช่องแสดงกายวาจาใจ 19,0011,008,หรืออนุเคราะห์เพื่อผูกไมตรี. เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะได้อยู่ด้วยไม่มีภัยไม่มี 19,0011,009,เวรกับผู้อื่น. แต่นั้น พึงน้อมจิตให้คิดชอบกับคนซึ่งเฉยอยู่แต่เดิม 19,0011,010,ด้วยถ้อยที่ถ้อยทำสาราณียธรรมแก่กัน พึงทำคนผู้ชอบกันห่าง ๆ ให้ 19,0011,011,สนิทสนม พึงทำคนผู้ชอบกันสนิทสนมแล้วให้มั่นเข้า. ความ 19,0011,012,ปรารถนาแห่งจิต เพื่อชอบพอสนิทสนมกับคนอื่นดังนี้ ชื่อว่าเมตตา. 19,0011,013,โดยความก็คือปรารถนาสุขแก่เขา. ความนึกแผ่นเมตตานี้ จัดว่าเป็น 19,0011,014,กัมมัฏฐานอันหนึ่ง. สาธุชนผู้เจริญเมตตา พึงแผ่โดยเจาะจงก่อน 19,0011,015,ตั้งต้นแต่คนที่รักใคร่สนิท เช่นมารดา บิดา สามี ภรรยา บุตร 19,0011,016,บุตรี และท่านผู้มีอุปการะ อุปัชฌายะ อาจารย์ เจ้านายเป็นต้นไป 19,0011,017,ตลอดถึงญาติมิตร คนรู้จักคุ้นเคย และคนอื่น ๆ ที่ควรจะได้รับ 19,0011,018,ความปรารถนาอันดีต่อ. เมื่อทำใจให้ชำนาญในการแผ่โดยเจาะจงนั้น 19,0011,019,แล้ว พึงแผ่โดยไม่เจาะจง เช่นไม่นิยมเฉพาะบุคคลชื่อนั้น ชื่อนี้ 19,0011,020,ที่ตนรู้จัก. พึงปลูกความรักใคร่ในคนร่วมบ้านร่วมวัดร่วมเมืองร่วม 19,0011,021,ประเทศร่วมชาติเป็นลำดับไปตลอดถึงเพื่อนมนุษย์ทั่วไป ลงมาจนถึง