Book,Page,LineNumber,Text 19,0024,001,ความร้อนที่เกิดขึ้นเพราะร่างกายบดฝน และแรงในอาโปธาตุสำหรับ 19,0024,002,ละลายอาหาร เป็นเตโชธาตุ. ส่วนที่พัดไปมาเป็นเครื่องค้ำจุนปฐวี มีลม 19,0024,003,พัดขึ้นพัดลง และอากาศอันขังอยู่ในช่องว่างแห่งร่างกายแรงขับโลหิต 19,0024,004,ให้เดินและแรงสูบอากาศเข้าไปและขับออก คือหายใจ เป็นวาโย- 19,0024,005,ธาตุ. ธาตุทั้ง ๔ นี้คุมกันเข้าเป็นร่างกายฉันใด ในส่วนอันหนึ่ง ๆ 19,0024,006,แห่งร่างกายก็มีธาตุเหล่านี้เจือกันอยู่ เช่นน้ำย่อมมีอยู่ในเนื้อ น้ำมันมี 19,0024,007,อยู่ในกระดูก แต่เพราะเป็นของมีอยู่น้อยไม่ถึงซึ่งอันนับ จึงเรียกแต่ 19,0024,008,ธาตุที่มีมาก. 19,0024,009,มีคำถามสอดเข้ามาว่า อย่างไรร่างกายนี้จึงเดินได้พูดได้ ทำอะไร 19,0024,010,ได้ต่าง ๆ แปลกจากรูปตุ๊กตาที่เขาปั้นไว้ ? มีคำแก้ว่า จะอธิบาย 19,0024,011,ละเอียดก็จะยืดยาว ขอกล่าวแต่เพียงว่า เกิดเพราะความพร้อมมูล 19,0024,012,ปรองดองกัน. ตุ๊กตากลยังรู้จักเดินได้ หีบเสียงยังรู้จักพูดได้ เครื่องจักร 19,0024,013,ยังเลื่อยไม้หรือสีข้าวได้ เป็นอะไรสังขารมีวิญญาณครองจะทำไม่ได้. 19,0024,014,ความพร้อมมูลปรองดองแห่งธาตุทั้ง ๔ นั้น เกิดกำลังหรืออำนาจอัน 19,0024,015,สำคัญขึ้นอย่างหนึ่ง ซึ่งเรียกว่ามโน และแปลว่าใจ มโนนี้มีสายอยู่ 19,0024,016,๕ สาย เรียกว่าวิถี ที่ปากหรือที่ปลายแห่งสายเหล่านี้เรียกว่าทวาร 19,0024,017,คือ นัยน์ตาเรียกว่าจักขุ ๑ หูเรียกว่าโสตะ ๑ จมูกเรียกฆานะ ๑ ลิ้น 19,0024,018,เรียกชิวหา ๑ กาย ๑. จักษุเห็นรูป โสตะฟังเสียง ฆานะสูบกลิ่น 19,0024,019,ชิวหาลิ้มรส กายถูกต้องโผฏฐัพพะแล้ว มโนได้รับความรู้สึกทางวิถีทั้ง ๕ 19,0024,020,"นี้, รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อันเป็นเหมือนเงาฉายมาปรากฏแก่มโน" 19,0024,021,เรียกธรรมหรือธรรมารมณ์ แล้วมโนสั่นไปตามวิถีแห่งกาย หรือตาม