Book,Page,LineNumber,Text 20,0018,001,ก็ได้ชื่อว่าเดินทางไกล กล่าวคือท่องเที่ยวอยู่ในวัฏฏสงสาร เวียน 20,0018,002,เกิดเวียนตายอยู่ไม่รู้จักคบ ต่อเมื่อได้พบพระพุทธเจ้าและได้สดับคำ 20,0018,003,สั่งสอนของท่าน ได้ปัญญาเห็นเหตุผลถ่องแท้ จึงอาจบรรลุถึงที่สุด 20,0018,004,ชาติ กล่าวคือพระนิพพาน พระพุทธเจ้าย่อมแสดงเหตุผลสั่งสอน 20,0018,005,สัตวโลกให้เข้าใจถูกตามเป็นจริงอย่างไร ข้อนี้มีแจ้งอยู่ในธรรมนิยามสูตร 20,0018,006,เป็นคำตรัสสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อุปฺปาทา วา ภิกฺขเว 20,0018,007,ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ €ิตา ว สา ธาตุ 20,0018,008,ธมฺมฏฺ€ิตตา ธมฺมนิยามตา เป็นต้น ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย 20,0018,009,เพราะเหตุว่าพระตถาคตเกิดขึ้นก็ดี ไม่เกิดขึ้นก็ดี ธาตุอันนั้น คือความ 20,0018,010,ตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นอยู่ตามธรรมดา ก็ตั้งอยู่อย่างนั้นเอง 20,0018,011,ข้อนี้ คือสังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตน 20,0018,012,แต่พระตถาคตย่อมรู้ถึงธาตุนั้นถูกต้อง ครั้นแล้วย่อบอกให้จะแจ้ง 20,0018,013,สำแดงให้เห็นชัด บัญญัติแต่งตั้งเป็นแบบ เปิดเผยจำแนก ทำให้เข้าใจ 20,0018,014,ได้ง่ายดังนั้น เพราะพระพุทธเจ้าทรงรู้เห็นเองแล้ว สั่งสอนสัตวโลก 20,0018,015,ให้ได้ดวงจักษุ คือ ปัญญา เข้าใจถูกตามความเป็นไปแห่งธรรมดา 20,0018,016,จึงมีคำของผู้เสื่อมในกล่าวสรรเสริญไว้ว่า เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิด 20,0018,017,เผยของที่มีอื่นกำบังไว้ บอกทางให้แก่คนหลง หรือส่องไฟในที่มืด 20,0018,018,ให้คนมีดวงตาได้เห็นแสง คำเหล่านี้ล้วนเป็นข้ออุปมา มีอรรถสาธก 20,0018,019,ดังนี้. 20,0018,020,ข้อต้น สังขารทั้งหลาย ย่อมมีลักษณะเสมอทั่วกันเป็น