Book,Page,LineNumber,Text 20,0022,001,นักปราชญ์นอกพระศาสนา มีปัญญาให้โอวาทแก่ประชุมชน เพียง 20,0022,002,้ด้วยยกอนิจจลักษณะและทุกขลักษณะขึ้นพรรณนา ดุจท่านอรกศาสดา 20,0022,003,ซึ่งนำมาสาธกพอเป็นตัวอย่าง การยกอนัตตลักษณะขึ้นแสดงสั่งสอน 20,0022,004,เฉพาะมีแต่ในพระพุทธศาสนา เมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว ทรง 20,0022,005,แสดงธรรมจักรโปรดพระภิกษุเบญจวัคคีย์ ๕ รูปเป็นครั้งแรก ให้ 20,0022,006,พระอัญญาโกณฑัญญะผู้เป็นประธานได้ธรรมจักษุบรรลุพระโสดาปัตติ- 20,0022,007,ผลแล้ว ทรงสั่งสอนท่านที่เหลืออีก ๔ รูปด้วยเทศนาต่าง ๆ ให้ตั้ง 20,0022,008,อยู่ในพระโสดาปัตติผลพร้อมกันแล้ว ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรสอน 20,0022,009,ภิกษุ ๕ รูป ให้กำหนดแยกอัตภาพเป็น ๕ ส่วน คือ ร่างกายเป็น 20,0022,010,รูปส่วน ๑ ความเสวยอารมณ์ คือเป็นสุขทุกข์หรือไม่ทุกข์ไม่สุข เป็น 20,0022,011,เวทนาส่วน ๑ ความจำกำหนดหมายรูปเป็นต้นได้ เป็นสัญญาส่วน ๑ 20,0022,012,อารมณ์อันเกิดกับจิต คือความดำริคิดอ่าน เป็นสังขารส่วน ๑ ดวงจิต 20,0022,013,เป็นวิญญาณส่วน ๑. ส่วนทั้ง ๕ นี้เรียกว่า เบญจขันธ์ ครั้นแล้วให้ 20,0022,014,กำหนดเห็นเบญจขันธ์เป็นอนัตตา คือไม่ใช่ตน เป็นวิปัสสนาแล้ว แล 20,0022,015,บรรลุพระอรหัต ด้วยพระธรรมเทศนาว่า รูปํ ภิกฺขเว อนตฺตา 20,0022,016,เป็นต้น ความว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย รูป เวทนา สัญญา สังขาร 20,0022,017,ิวิญญาณ ไม่ใช่ตน ถ้าจะเป็นตนแล้ว ก็จะไม่พึงเป็นไปเพื่อความเจ็บ 20,0022,018,ไข้ลำบาก และใคร ๆ ก็จะพึงได้สมหวังว่า ขอรูป เวทนา สัญญา 20,0022,019,สังขาร วิญญาณ ของเราเป็นอย่างนี้เถิด อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย 20,0022,020,เหตุใด รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่ตน เหตุนั้น 20,0022,021,จึงเป็นไปเพื่อความเจ็บไข้ลำบาก และใคร ๆ ไม่ได้สมหวังว่า ให้เป็น