Book,Page,LineNumber,Text 20,0031,001,อันตรธาน อารมณ์อื่นเกิดขึ้นใหม่แทนกันไป ดุจควันไฟอันขึ้นจาก 20,0031,002,ปล่องเก่าขึ้นแล้วก็จางไป ใหม่ขึ้นแทนกันไป ใครไม่ทันคิด ก็สำคัญ 20,0031,003,ว่าควันเก่านั้นเอง สัตว์ทั้งปวงได้ชื่อว่ามีชีวิตเป็นอยู่ ก็เพราะมีรูปธรรม 20,0031,004,นามธรรมเกิดสืบของเก่าที่สิ้นไปนั้น สมัยใดรูปธรรมนามธรรมไม่สืบกัน 20,0031,005,สมัยนั้นสัตว์นั้นก็ได้ชื่อว่าตาย สังขารทั้งหลายทั้งปวงได้ชื่อว่าของไม่ 20,0031,006,เที่ยงเพราะความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความแปรปรวนในท่ามกลาง 20,0031,007,และมีความแตกสลายในที่สุดฉะนี้. 20,0031,008,เมื่อสังขารทั้งหลายนั้นเป็นอยู่อย่างนี้ ก็ยังมีบุคคลผู้ไม่ได้สดับ 20,0031,009,ธรรมของสัตบุรุษ หวังหาความเที่ยงถาวรในสังขารทั้งหลาย มัว 20,0031,010,ประมาทระเริงหลง มิได้คิดถึงอนิจจธรรมเป็นอารมณ์ดังนี้ สมควรจัด 20,0031,011,ว่าพิปลาสในของที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง ความข้อนี้พึงสาธกด้วยเรื่องที่มาใน 20,0031,012,เทวตาสังยุตในคัมภีร์สังยุตตนิกาย สคาถวรรค<SUP>๑</SUP> มีเรื่องเล่าในนั้นว่า 20,0031,013,เทวดาชั้นดาวดึงส์องค์หนึ่ง มีหมู่นางเทพอัปสรผู้บริวารตามห้อมล้อม 20,0031,014,บำเรอ ให้อิ่มเอิบพร้อมด้วยเบญจกามาคุณารมณ์เที่ยวเพลินอยู่ในสวน 20,0031,015,นันทวัน อันเป็นที่ประพาสเล่นแห่งหมู่เทวดา เธอเปล่งวาจากออกมา 20,0031,016,ในเวลานั้นว่า ผู้ใดไม่ได้เห็นนันทวันอันเป็นที่อยู่ของเหล่าเทวดาชั้น 20,0031,017,ดาวดึงส์ผู้มียศ ผู้นั้นยังไม่เคยพบสุขเลย เทวดาอีกองค์หนึ่งกล่าวตอบ 20,0031,018,แก่เทวดาองค์นั้นว่า ดูก่อนเทวดาเขลา เธอหารู้ตามคำของพระ- 20,0031,019,อรหันต์เจ้าไม่ ท่านกล่าว <B>อนิจฺจา สพฺเพ สงฺขารา</B> สังขารทั้งหลาย 20,0031,020,ทั้งปวงไม่เที่ยง <B>อุปฺปาทวยธมฺมิโน</B> เพราะมีความเกิดขึ้นและเสื่อมไป