Book,Page,LineNumber,Text
20,0045,001,เพราะฉะนั้น กายนี้ได้ชื่อว่าตั้งอยู่ด้วยความสืบต่อแห่งอังคาพยพนั้น ๆ
20,0045,002,ได้ในคำบาลีว่า รูปสฺส สนฺตติ ความสืบต่อไปแห่งรูป.
20,0045,003,เมื่อยังเล็ก เป็นสมัยที่กายค่อยเกิดขึ้นโดยลำดับ เมื่ออายุราว ๑๕
20,0045,004,ปีเป็นคราวรุ่น เป็นสมัยที่กายกำลังเจริญเร็ว เมื่ออายุถึง ๒๑ ปีก็เจริญ
20,0045,005,เต็มที่ สมัยนี้ประถมวัยปูนต้น ตอนนี้ได้ในคำบาลีว่า รูปสฺส อุจฺจโย
20,0045,006,ความเจริญขึ้นแห่งรูป ต่อนี้ไปถึงอายุ ๖๐ ปี กายคงที่ไม่เจริญสืบไป
20,0045,007,มีแต่จะทรุดโทรมลง สมัยนี้มัชฌิมวัยปูนกลาง เมื่ออายุพ้น ๖๐ ปี
20,0045,008,ไปแล้ว กายก็ยิ่งทรุดโทรม หรี่ลงไปตามลำดับกาล สมัยนี้ปัจฉิมวัย
20,0045,009,ปูนหลัง ๒ ตอนนี้ ได้ในคำบาลีว่า รูปสฺส ชรตา ความชำรุด
20,0045,010,ทรุดโทรมแห่งรูป ในที่สุดอวัยวะนั้น ๆ ย่อมหยุดไม่ทำหน้าที่คราวหนึ่ง
20,0045,011,เช่นปอดไม่สูบลมอากาศเข้าไปบำรุงโลหิต หัวใจก็หยุดฉีดโลหิต ๆ
20,0045,012,ก็หมด ไอร้อนก็ไม่มี กายก็เย็นชืด ไหวกายไหววาจาไม่ได้ เส้น
20,0045,013,ประสาทก็ไม่รับสัมผัส กิริยาที่เห็นได้ ฟังได้ ดมได้ รู้รสได้ ถูกต้องได้
20,0045,014,นึกได้ ก็เป็นหมดกัน นี้มรณะมีตามธรรมดา แต่นั้น ดินก็ไปตามเดิน
20,0045,015,น้ำก็ไปตามน้ำ อากาศก็ไปตามอากาศ ธาตุทั้งหลายคุมกันเข้าใน
20,0045,016,เบื้องต้นแล้ว ย่อมสลายจากไปในอวสาน ได้ในคำบาลีว่า รูปสฺส
20,0045,017,อนิจฺจตา ความไม่เที่ยงแห่งรูป.
20,0045,018,ข้อความในตำราสรีรศาสตร์ เป็นความรู้ของนักปราชญ์ผู้ค้น
20,0045,019,คว้าหาความจริงรจนาไว้สำหรับวิชาแพทย์ เพื่อแพทย์ศึกษาเข้าใจ
20,0045,020,จะได้ฉลาดในอุบายรักษาโรค แต่เมื่อพิจารณาตามโดยโยนิโสมนสิการ
20,0045,021,(ทำในใจโดยอุบายชอบ) น้อมมาในภาวนาวิธี ก็จะเลยเห็นว่าสังขาร