Book,Page,LineNumber,Text 26,0033,001,ปรับเป็นอาบัติทุกกฎ จับสัตว์ดิรัจฉานตัวเมียเป็นอนามาส [ คือเป็น 26,0033,002,วัตถุไม่ควรจับ ] ท่านปรับเป็นอาบัติทุกกฏ. ถ้าสำคัญหญิงว่าเป็นชาย 26,0033,003,จับต้องกายด้วยความกำหนัด ปรับเป็นถุลลัจจัย. ถ้าถูกต้องกายเพราะ 26,0033,004,จำเป็น เช่นหญิงมาโดนเอา หรือต่างคนต่างโดนกันในเวลาเกิดฉุก 26,0033,005,ละหุก ภิกษุไม่มีความกำหนัด และทั้งไม่ได้พยายามรับสัมผัส ไม่ปรับ 26,0033,006,เป็นอาบัติ. 26,0033,007,สิกขาบทที่ ๓ มีความกำหนัดพูดเกี้ยวหญิง หญิงในสิกขาบท 26,0033,008,นี้ หมายเอาหญิงที่รู้ความ ถ้ากำหนดอายุตามกฎหมายของบ้านเมือง 26,0033,009,นับตั้งแต่ ๑๒ ปีขึ้นไป ถ้าภิกษุมีความกำหนัด ในอันเคล้าคลึงและ 26,0033,010,พูดเกี้ยว เกาะแกะทวารหนักทวารเบา และขอเมถุนกับหญิง 26,0033,011,ปรับเป็นสังฆาทิเสส กำหนดอวัยวะที่จะเป็นถุลลัจจัย ตั้งแต่ไหปลาร้า 26,0033,012,ลงไปถึงเข่า [ ยกทวารหนักทวารเบา ] นอกจากนี้เบื้องบนตั้งแต่ 26,0033,013,ท้ายทอยขึ้นไป เบื้องต่ำตั้งแต่เข่าลงมา ปรับเป็นอาบัติทุกกฏ. 26,0033,014,สิกขาบทที่ ๔ พูดล่อหญิงให้หลงบำเรอตนด้วยกาม คือพูดให้ 26,0033,015,หญิงหลงเชื่อและตามใจ เช่นพูดว่าหญิงใดบำเรอผู้มีศีลมีธรรมเช่นเรา 26,0033,016,ความบำเรอของหญิงนั้น เป็นยอดแห่งความบำเรอทั้งปวงเป็นต้น 26,0033,017,กล่าวโดยใจความ ก็คือเพื่อจะให้หญิงเข้าใจว่าการทำเช่นนั้นแก่ผู้เป็น 26,0033,018,สมณะ ได้บุญกุศลยิ่งนัก เช่นนี้ปรับเป็นอาบัติสังฆาทิเสส. 26,0033,019,สิกขาบทที่ ๕ ชักสื่อให้ชายหญิงเป็นผัวเมียกัน กิริยาที่ชักโยงให้ 26,0033,020,ชายกับหญิงได้เป็นผัวเมียกัน เรียกว่าชักสื่อ. ชักสื่อตามประเพณีของ 26,0033,021,ไทยเรามี ๒ อย่าง คือ รับเป็นเฒ่าแก่ไปขอลูกสาวให้แก่ชายอย่างหนึ่ง