Book,Page,LineNumber,Text 31,0015,001,พระวินัยนั้นจะมีประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นอย่างไร ? 31,0015,002,ต. เมื่อภิกษุมีสติ ประพฤติถูกทางแล้ว มีประโยชน์แก่ตนคือ 31,0015,003,ทำให้เป็นผู้มีมรรยาทดีงาม มีใจแช่มชื่น แม้จะเข้าในพวกภิกษุที่มี 31,0015,004,ความประพฤติเรียบร้อย ก็องอาจไม่สะทกสะท้าน ทั้งไม่ถูกจับกุมลง 31,0015,005,โทษหรือถูกติเตียน มีแต่จะได้รับความสรรเสริญ ทั้งเป็นปัจจัยให้ 31,0015,006,บำเพ็ญคุณธรรมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ดังนี้เป็นต้น. ส่วนที่มีแก่ผู้อื่นก็คือ 31,0015,007,ไม่ทำให้หมู่คณะได้รับความรำคาญเดือดร้อน ทั้งเป็นเครื่องจูงใจ ผู้ที่ 31,0015,008,ไม่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาให้เลื่อมใส ผู้ที่เลื่อมใสแล้วให้เลื่อมใส 31,0015,009,ยิ่งขึ้น ทั้งเป็นเนื้อนาบุญเกิดผลงามของโลก ดังนี้เป็นต้น. 31,0015,010,๓๐/๘/๗๑ 31,0015,011,ถ. พระวินัยเมื่อตั้งใจสังวรดีแล้ว ย่อมให้ผลซึ่งจะพึงรู้สึกด้วย 31,0015,012,น้ำใจแก่ผู้ปฏิบัติได้อย่างไร ? 31,0015,013,ต. มีมาก แต่เมื่อจะยกถึงผลที่เป็นหลักแล้ว คืออยู่ในหมู่ภิกษุ 31,0015,014,ลัชชีเป็นสุขสบาย ไม่ต้องเป็นที่รังเกียจของเพื่อนกัน. ประการหนึ่ง 31,0015,015,ทำให้ใจคออุ่นสบายไม่มีวิปฏิสาร เพราะเหตุแห่งความประพฤติของตน. 31,0015,016,๓๐/๘/๖๕ 31,0015,017,ถ. พระวินัยมีอะไรเป็นอานิสงส์ ควรปฏิบัติอย่างไร จึงจะได้ 31,0015,018,อานิสงส์นั้น ? 31,0015,019,ต. มีความไม่ต้องเดือดร้อนใจ ซึ่งเรียกว่าวิปฏิสารเป็นอานิสงส์. 31,0015,020,ควรปฏิบัติดี ตามทางมัชฌิมาปฏิปทา คือไม่ให้ตึงเคร่งจนเกินไป และ 31,0015,021,ไม่ให้หย่อนจนเกินควร จึงจะได้อานิสงส์.