Book,Page,LineNumber,Text 42,0025,001,เป็นผู้สำนอง คือรับใช้ในเมื่อของหาย เหตุดังนั้น ในการรับฝาก 42,0025,002,ท่านจึงกำหนดเป็นอาบัติ ด้วยขาดกรรมสิทธิ์แห่งเจ้าของ ที่ภิกษุนั้น 42,0025,003,พ้นจากการสำนองไป. 42,0025,004,๒๔๗๖ 42,0025,005,ถ. ภิกษุถูกคนร้ายลักโคมลานไป วิ่งไล่ตามทันชิงคืนมาได้ 42,0025,006,ภิกษุอื่นรู้เรื่องนั้นตั้งรังเกียจเธอดังนี้ นักวินัยจะพึงปรับเธอด้วยอวหาร 42,0025,007,อะไร ? หรือจะพึงเปลื้องความรังเกียจด้วยชี้แจงอย่างไร ? 42,0025,008,ต. ไม่ควรปรับด้วยอวหารอะไร เพราะภิกษุนั้นยังถือกรรมสิทธิ์ 42,0025,009,ในของนั้นอยู่ด้วยอาการที่เธอวิ่งไล่ไปนั้น ส่อให้เห็นว่าเธอยังไม่ละ 42,0025,010,สิทธิในของนั้น ถึงแย่งชิงคืนมาได้ ก็คือเอาของของตนนั้นเอง 42,0025,011,ไม่ใช่ของผู้ร้าย เช่นนี้จะปรับด้วยอวหารอะไรแก่เธอเล่า แม้ของ 42,0025,012,อันผู้ร้ายลักไปเป็นสิทธิ์แล้ว แต่ภิกษุยังถือกรรมสิทธิ์ในของนั้นอยู่ 42,0025,013,ขออารักขาทางบ้านเมือง ได้คืนมาด้วยอาการนั้นยังไม่เป็นไร แม้ 42,0025,014,ภิกษุยักยอกของที่เขาฝากไว้ในมือ เจ้าของยังถือกรรมสิทธิ์อยู่เพียงใด 42,0025,015,ท่านยังไม่จัดเป็นอวหารเพียงนั้น นี้ก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ไม่ควร 42,0025,016,รังเกียจแก่เธอ. 42,0025,017,๒๔๗๗ 42,0025,018,ถ. ภิกษุล่วงอวหาร เอกภัณฑะ กับ นานาภัณฑะ ต่างกัน 42,0025,019,อย่างไร ? 42,0025,020,ต. ภิกษุลักทรัพย์สิ่งเดียวมีราคาเป็นวัตถุแห่งปาราชิก เรียกว่า 42,0025,021,เอกภัณฑะ ภิกษุลักทรัพย์หลายสิ่ง แต่สิ่งหนึ่ง ๆ มีราคาไม่ถึงวัตถุ