Book,Page,LineNumber,Text
01,0006,001,๗.  ในสมัยเช่นนั้น  จะขอเขาได้ก็เพียงผ้านุ่งผ้าห่มเท่านั้น  ถ้าขอ
01,0006,002,ให้เกินกว่านั้น  ได้มา  ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์. 
01,0006,003,๘.  ถ้าคฤหัสถ์ที่ไม่ใช่ญาติไม่ใช่ปวารณา  เขาพูดว่า  เขาจะถวาย
01,0006,004,จีวรแก่ภิกษุชื่อนี้  ภิกษุนั้นทราบความแล้ว  เข้าไปพูดให้เขาถวายจีวร
01,0006,005,อย่างนั้นอย่างนี้  ที่มีราคาแพงกว่าดีกว่าที่เขากำหนดไว้เดิม  ได้มา  ต้อง
01,0006,006,นิสสัคคิยปาจิตตีย์. 
01,0006,007,๙.  ถ้าคฤหัสถ์ผู้จะถวายจีวรแก่ภิกษุมีหลายคน  แต่เขาไม่ใช่ญาติ
01,0006,008,ไม่ใช่ปวารณา  ภิกษุไปพูดให้เขารวมทุนเข้าเป็นอันเดียวกัน  ให้ซื้อ
01,0006,009,จีวรที่แพงกว่าดีกว่าที่เขากำหนดไว้เดิม  ได้มา  ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
01,0006,010,๑๐.  ถ้าใคร ๆ  นำทรัพย์มาเพื่อค่าจีวรแล้วถามภิกษุว่า  ใครเป็น
01,0006,011,ไวยาวัจกรของเธอ  ถ้าภิกษุต้องการจีวร  ก็พึงแสดงคนวัดหรือ
01,0006,012,อุบาสกว่า   ผู้นี้เป็นไวยาวัจกรของภิกษุทั้งหลาย  ครั้นเขามอบหมาย
01,0006,013,ไวยาวัจกรนั้นแล้ว  สั่งภิกษุว่า  ถ้าต้องการจีวร  ให้เข้าไปหา
01,0006,014,ไวยาวัจกร  ภิกษุนั้นพึงเข้าไปหาเขาแล้วทวงว่า  เราต้องการจีวร  ดังนี้
01,0006,015,ได้ ๓  ครั้ง  ถ้าไม่ได้จีวร  ไปยืนแต่พอเขาเห็นได้ ๖ ครั้ง  ถ้าไม่ได้
01,0006,016,ขืนไปทวงให้เกิน ๓ ครั้ง  ยืนเกิน๖ ครั้ง  ได้มา ต้องนิสสัคคิย-
01,0006,017,ปาจิตตีย์.  ถ้าไปทวงและยืนครบกำหนดแล้วไม่ได้จีวร  จำเป็นต้อง
01,0006,018,ไปบอกเจ้าของเดิมว่า  ของนั้นไม่สำเร็จประโยชน์แก่ตน  ให้เขาเรียก
01,0006,019,เอาของเขาคืนเสีย.