Book,Page,LineNumber,Text 04,0013,001,ทรงแสดงวิธีทำปุพพเปตพลี 04,0013,002,พวกพราหมณ์เขามีธรรมเนียมเซ่น และทำทักษิณาอุทิศบุรพบิดร 04,0013,003,ของเขา เรียกว่าศราทธะ เป็นการจรเนื่องจากการเผาศพบ้าง เป็น 04,0013,004,การประจำปีที่บรรจบรอบวันตายของบุรพบิดร หรือต้นเดือนต้นปีบ้าง. 04,0013,005,บุรพบิดรเพียงสามชั้น คือ บิดา ๑ ปู่ ๑ ทวด ๑ เป็นผู้อันจะพึงเซ่น 04,0013,006,"ด้วยก้อนข้าง เรียก ""สปิณฑ"" แปลว่า ผู้ร่วมก้อนข้าว บุรพบิดร" 04,0013,007,พ้นจากทวดขึ้นไปก็ดี ญาติผู้ไม่ได้สืบวายตรงก็ดี เป็นผู้จะพึงได้รับ 04,0013,008,"น้ำกรวด เรียก ""สาโนทก"" แปลว่า ผู้ร่วมน้ำ. บุรพบิดรสามชั้นนั้น" 04,0013,009,กรวดน้ำให้ด้วยก็ได้. การกรวดน้ำของเขา ลงไปในแม่น้ำ เอามือ 04,0013,010,กอบน้ำขึ้นปล่อยให้ค่อย ๆ รั่วลง นึกอุทิศถึงผู้ตายไปพลางว่า ขอให้ 04,0013,011,น้ำนี้ระงับความระหายของท่านผู้นั้น ๆ. ธรรมเนียมนี้เนื่องมาถึงพวก 04,0013,012,ไทยเรา. การทำข้าวบิณฑ์ คือเอาข้าวกรอกในกรวยใบตองคว่ำลงบน 04,0013,013,ภาชนะมีพานเป็นต้น มีกับข้าวของกินเรียงรายบ้างเล็กน้อย ประดับ 04,0013,014,ด้วยดอกไม้สด หรือด้วยเครื่องประดับอย่างอื่น มีธูปเทียนติด ตั้งเป็น 04,0013,015,เครื่องสักการะ ในวันเทศกาล คือ ในวันสารท ในวันตรุษ ในวัน 04,0013,016,สงกรานต์ นี้ตรงกับข้าวบิณฑ์ของพราหมณ์. เดิมชะรอยจะทำเซ่น 04,0013,017,บุรพบิดา แต่ภายหลังเราเข้าใจว่า ทำบูชาพระพุทธรูป. การกรวดน้ำ 04,0013,018,เรายังทำอยู่จนบัดนี้ ในเวลาพระสงฆ์อนุโมทนา แต่ใช่ภาชนะ เช่น 04,0013,019,เต้า ขวด หรือจอก มีภาชนะอกใบหนึ่งเช่นขันหรือถาด รับน้ำกรวด 04,0013,020,"แล้วเอาไปเทที่ดิน หรือกรวดลงดินทีเดียว, ขณะกรวดเปลี่ยนความนึก"