Book,Page,LineNumber,Text 04,0035,001,ประสงค์จะทรงได้เห็น ตรัสเห็นกาฬุทายิอมาตย์ให้ไปเชิญเสด็จ. กาฬุ- 04,0035,002,ทายิผู้นี้ ท่านว่าเป็นสหชาตเกิดในวันเดียวกันกับพระศาสดา เป็นผู้ 04,0035,003,คุ้นเคยกันมาแต่ยังเยาว์. กาฬุทายิกราบถวายบังคมลาบวชด้วย ทรง 04,0035,004,อนุญาตตามใจ แต่อย่างไรก็จงเชิญเสด็จพระศาสดามาให้ได้. มีเรื่อง 04,0035,005,เสริมว่า ก่อนแต่ทรงใช้กาฬุทายิ ได้ทรงใช้อมาตย์อื่นไปเชิญเสด็จ 04,0035,006,ถึง ๙ นาย โดยลำดับกัน ทุกนายไปถึง ยังไม่ทันได้กราบทูลอาราธนา 04,0035,007,ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วสำเร็จพระอรหัตเป็นเอหิภิกษุแล้ว เลย 04,0035,008,"เพิกเฉยเสีย, พระราชาเห็นหายไป ในวาระที่สิบได้ทรงใช้กาฬุทายิ." 04,0035,009,เรื่องเช่นนี้เป็นตามเคยของพระอรรถกถาจารย์ ท่านมุ่งจะยกย่อง 04,0035,010,ข้างหนึ่ง กดอีกข้างหนึ่งลงไป เช่นในเรื่องนี้ มุ่งจะยกย่องกาฬุทายิ 04,0035,011,ว่าเป็นผู้กตัญญูกตเวที สำเร็จพระอรหันต์แล้วยังไม่เฉยเสีย ได้กราบ 04,0035,012,ทูลเชิญเสด็จพระศาสดาไปกรุงกบิลพัสดุ์ ให้สมพระราชประสงค์ของ 04,0035,013,พระเจ้าสุทโธทนะเจ้าของตน ยังกิจแห่งทูตให้เสด็จ กล่าวเท่าท้อง 04,0035,014,เรื่อง เกรงผู้อ่านผู้ฟังจะรู้ไม่ถึง จึงเสริมเรื่องเข้า กลายเป็นให้ร้าย 04,0035,015,มากกว่าหมายให้เป็นดี. ข้าราชาการในกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นผู้ไม่จงรัก 04,0035,016,ภักดีในเจ้าของตน เห็นแต่ประโยชน์ตนถึง ๙ ใน ๑๐ นครจักตั้งอยู่ 04,0035,017,ได้อย่างไร. พระอรหันต์มีใจเฉยเรื่อยไม่นำพาถึงใคร ๆ แม้เคยทำ 04,0035,018,อุปการะด้วยเมตตากรุณา มีจำนวนถึงเท่านั้น พระศาสดาจักทรง 04,0035,019,ประดิษฐานพระพุทธศาสนาขึ้นได้อย่างไร. กลับเข้าหาท้องเรื่องต่อไป 04,0035,020,"อีก กาฬุทายิไปถึงกรุงราชคฤห์แล้ว ไปสู่เวฬุวนาราม, เวลานั้น"