Book,Page,LineNumber,Text 10,0002,001,ครั้นเมื่อพระมหาบุรุษเสด็จออกผนวชแล้ว กำลังทรงบำเพ็ญ 10,0002,002,ทุกรกิริยาอยู่ โกณฑัญญพราหมณ์ทราบข่าวแล้ว ชวนพราหมณ์ 10,0002,003,ผู้เป็นบุตรของพราหมณ์ผู้ตรวจทำนายลักษณะในครั้งนั้น และทำ 10,0002,004,กาลกิริยาแล้ว ได้ ๔ คน คือ ภัททิยะ ๑ วัปปะ ๑ มหานามะ ๑ 10,0002,005,อัสสชิ ๑ เป็น ๕ คนด้วยกัน ออกบวชเป็นบรรพชิตจำพวกภิกษุ 10,0002,006,ติดตามพระมหาบุรุษไปอยู่ที่ใกล้ เฝ้าอุปัฏฐากอยู่ด้วยหวังว่า ท่าน 10,0002,007,ตรัสรู้แล้ว จักทรงเทศนาโปรด. ภิกษุ ๕ รูปสำรับนี้ เรียกว่า 10,0002,008,ปัญจวัคคีย์ แปลว่าเนื่องในพวก ๕ เฝ้าอุปัฏฐากพระมหาบุรุษอยู่ 10,0002,009,ตลอดเวลาทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาคณนาว่า ๖ ปี. ครั้นพระมหาบุรุษ 10,0002,010,ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยาเต็มที่แล้ว ทรงลงสันนิษฐานว่ามิใช่ทางพระ 10,0002,011,โพธิญาณ ทรงใคร่จะเปลี่ยนตั้งปธานในจิต จึงทรงเลิกทุกรกิริยา 10,0002,012,นั้นเสีย กลับเสวยพระกระยาหารแค่นทวีขึ้น เพื่อบำรุงพระกายให้ 10,0002,013,มีพระกำลังคืนมา พวกปัญจวัคคีย์สำคัญว่าทรงท้อแท้ต่อการบำเพ็ญ 10,0002,014,พรตอันเข้มงวด หันมาเพื่อความเป็นผู้มักมากเสียแล้ว สิ้นเลื่อมใส 10,0002,015,สิ้นหวังแล้ว เกิดเบื่อหน่ายขึ้น ร่วมใจกันละพระมหาบุรุษเสีย ไป 10,0002,016,อยู่ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน แขวงนครพาราณสี. 10,0002,017,พระคันถรจนาจารย์แก้ข้อความนี้ว่า ธรรมดานิยมให้ภิกษุ 10,0002,018,ปัญจวัคคีย์มาพบ และอุปัฏฐากพระมหาบุรุษในเวลากำลังทรงบำเพ็ญ 10,0002,019,ทุกรกิริยา เพื่อจะได้เป็นผู้รู้เห็น เมื่อถึงคราวทรงแสดงพระธรรม- 10,0002,020,เทศนาคัดค้านอัตตกิลมถานุโยค จะได้เป็นพยานว่า พระองค์ได้เคย 10,0002,021,ทรงทำมาแล้ว หาสำเร็จประโยชน์จริงไม่ ครั้นถึงคราวต้องการด้วย