Book,Page,LineNumber,Text 10,0006,001,เทียบด้วยจักรรัตนะ ประกาศความเป็นจักรพรรดิราช. 10,0006,002,เมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำลังตรัสพระธรรมเทศนาอยู่ 10,0006,003,ธรรมจักษุคือดวงตาคือปัญญาอันเห็นธรรมปราศจากธุลีมลทิน ได้เกิด 10,0006,004,ขึ้นแก่ท่านโกณฑัญญะว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา 10,0006,005,สิ่งนั้นทั้งมวล มีความดับเป็นธรรมดา. ท่านผู้ได้ธรรมจักษุ พระ 10,0006,006,อรรถกถาจารย์กล่าวว่าเป็นพระโสดาบัน โดยนัยนี้ ธรรมจักษุได้แก่ 10,0006,007,พระโสดาปัตติมรรค. ท่านโกณฑัญญะได้บรรลุโลกุตตรธรรมเป็น 10,0006,008,ประถมสาวก เป็นพยานความตรัสรู้ของพระศาสดา เป็นอันว่า ทรง 10,0006,009,ยังความเป็นสัมมาสัมพุทธให้สำเร็จบริบูรณ์ ด้วยเทศนาโปรดให้ 10,0006,010,ผู้อื่นรู้ตามได้ด้วยอย่างหนึ่ง. สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบว่า 10,0006,011,ท่านโกณฑัญญะได้เห็นธรรมแล้ว ทรงเปล่งพระอุทานว่า อญฺาสิ 10,0006,012,วต โภ โกณฺฑญฺโ อญฺาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโ แปลว่า 10,0006,013,โกณทัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ เพราะอาศัยพระอุทานว่า อญฺาสิ 10,0006,014,ที่แปลว่า ได้รู้แล้ว คำว่า อญฺาโกณฺฑญฺโ จึงได้เป็นนามของ 10,0006,015,ท่านตั้งแต่กาลนั้นมา. 10,0006,016,ท่านอัญญาโกณฑัญญะ ได้เห็นธรรมแล้ว ได้ความเชื่อใน 10,0006,017,พระศาสดามั่นคงไม่คลอนแคลน ได้ทูลขออุปสมบทในพระธรรม- 10,0006,018,วินัยของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับด้วยพระวาจา 10,0006,019,ว่า มาเถิดภิกษุ ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว จงประพฤติพรหมจรรย์ 10,0006,020,เพื่อทำที่สุดทุกข์โดยชอบเถิด. พระวาจานั้นย่อมให้สำเร็จอุปสมบท 10,0006,021,ของท่าน. ด้วยว่าในครั้งนั้น ยังมิได้ทรงพระอนุญาตวิธีอุปสมบท