Book,Page,LineNumber,Text 10,0008,001,แล้วทรงแนะนำให้ละความถือมั่นในปัญจขันธ์ ทั้งที่เป็นอดีต อนาคต 10,0008,002,ปัจจุบัน ทั้งที่เป็นภายใน ทั้งที่เป็นภายนอก ทั้งที่หยาบ ทั้งที่ละเอียด 10,0008,003,ทั้งที่เลว ทั้งที่ดี ทั้งที่อยู่ห่าง ทั้งที่อยู่ใกล้ ว่านั่นมิใช่ของเรา นั่นมิใช่ 10,0008,004,เรา นั่นมิใช่ตัวของเรา ในที่สุดทรงแสดงอานิสงส์ว่า อริยสาวก 10,0008,005,ผู้ได้ฟังแล้ว ย่อมเบื่อหน่ายในปัญจขันธ์ ย่อมปราศจากความกำหนัด 10,0008,006,รักใคร่ จิตย่อมพ้นจากความถือมั่น มีญาณรู้ว่าพ้นแล้ว รู้ชัดว่า 10,0008,007,ความเกิดสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้ประพฤติจบแล้ว กิจที่ควรทำได้ 10,0008,008,ทำเสร็จแล้ว ไม่ต้องทำกิจอย่างอื่นอีก เพื่อบรรลุผลอันเป็นที่สุดแห่ง 10,0008,009,พรหมจรรย์. 10,0008,010,พระธรรมเทศนานี้ แสดงลักษณะเครื่องกำหนดปัญจขันธ์ว่าเป็น 10,0008,011,อนัตตา พระคันถรจนาจารย์จึงเรียกว่า อนัตตลักขณสูตร. 10,0008,012,เมื่อสมเด็จพระบรมศาสดา ตรัสพระธรรมเทศนาอยู่ จิตของ 10,0008,013,ภิกษุปัญจวัคคีย์ ผู้พิจารณาภูมิธรรมตามกระแสพระธรรมเทศนานั้น 10,0008,014,พ้นแล้วจากอาสวะ ไม่ถือมั่นด้วยอุปาทาน. ท่านทั้ง ๕ ได้เป็นพระ 10,0008,015,อรหันตขีณาสพ ประพฤติจบพรหมจรรย์ ในพระธรรมวินัยนี้ เป็น 10,0008,016,สังฆรัตนะจำพวกแรก เป็นที่เต็มแห่งพระไตรรัตน์ ประกาศสัมมา 10,0008,017,สัมพุทธภาพแห่งพระศาสดาให้ปรากฏ. ครั้งนั้น มีพระอรหันต์ทั้ง 10,0008,018,สมเด็จพระสุคตด้วยเพียง ๖ พระองค์. 10,0008,019,ตามอรรถกถา สมเด็จพระบรมศาสดาตรัสพระธรรมจักกัปป- 10,0008,020,วัตตนสูตร ยังพระอัญญาโกณฑัญญะให้ตั้งในพระโสดาปัตติผล เมื่อ