Book,Page,LineNumber,Text 10,0017,001,ทาง และประทานอุปสมบทแล้ว ส่งไปประกาศพระศาสนา เสด็จ 10,0017,002,ต่อไปถึงอุรุเวลานิคมแล้ว ตรัสขอสำนักอาศัย ท่านอุรุเวลกัสสปะ 10,0017,003,มิเต็มใจรับ แต่มิกล้าขัดโดยตรง จึงบ่ายเบี่ยงว่า ที่อันจะพึงให้อยู่ 10,0017,004,มีแต่โรงที่บูชาเพลิงที่มีนาคร้าย อธิบายว่า เป็นที่ประดิษฐานเทวรูป 10,0017,005,มีนาคบัลลังก์ เช่นพระนาคปรกอันพวกชฎิลนับถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ 10,0017,006,ผู้ใดกล้ำกราย อาจทำอันตรายแก่ผู้นั้น พระศาสดาทรงขอเสด็จเข้า 10,0017,007,อาศัยในที่นั้น ครั้นไม่มีอันตราย พวกชฎิลสำคัญเห็นเป็นพระอภินิหาร 10,0017,008,นี้เป็นทางปลูกความยำเกรงเป็นเบื้องต้น ต่อนั้นมาทรงแสดงอภินิหาร 10,0017,009,อย่างอื่น ๆ ถอนทิฏฐิมานะแห่งท่านอุรุเวลกัสสปะกับบริวารลงทุกที 10,0017,010,จนได้ปรีชาหยั่งเห็นว่า ลัทธิของตนนั้นหาแก่นสารมิได้ หลงถือตนว่า 10,0017,011,เป็นผู้วิเศษฉันใด หาเป็นฉันนั้นไม่ ได้ความสลดใจ พร้อมกันลอย 10,0017,012,บริขารแห่งชฎิลเสียในแม่น้ำแล้ว ทูลขออุปสมบท พระศาสดาประทาน 10,0017,013,อุปสมบท ทรงพระอนุญาตให้เป็นภิกษุทั้งมวล. 10,0017,014,ฝ่ายนทีกัสสปะน้องชายกลาง ตั้งอาศรมอยู่ภายใต้ ได้เห็นบริขาร 10,0017,015,ชฎิลลอยมาตามกระแสน้ำ สำคัญว่า เกิดอันตรายแก่พี่ชายตน พร้อมทั้ง 10,0017,016,บริวาร รีบไปถึง เห็นพระอุรุเวลกัสสปะ ผู้พี่ชายถือเพศเป็นภิกษุ 10,0017,017,แล้ว ถามทราบความว่าพรหมจรรย์นี้ประเสริฐแล้ว ลอยบริขารชฎิล 10,0017,018,เสียในแม่น้ำ พร้อมด้วยบริวารเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ทูลขออุปสมบท 10,0017,019,พระองค์ก็ประทานอุปสมบทแก่เธอทั้งหลาย โดยนัยหนหลัง. 10,0017,020,ฝ่ายคยากัสสปะน้องชายน้อย ได้เห็นบริขารชฎิลลอยมาตาม 10,0017,021,กระแสน้ำ สำคัญว่า เกิดอันตรายแก่พี่ชายทั้ง ๒ พร้อมกับบริวารรีบ