Book,Page,LineNumber,Text 10,0020,001,โดยลำดับ ถึงกรุงราชคฤห์ ประทับอยู่ ณ สวนตาลหนุ่มอันชื่อว่า 10,0020,002,ลัฏฐิวัน พระเจ้าพิมพิสารพระเจ้าแผ่นดินมคธ ทรงทราบข่าวนั้นแล้ว 10,0020,003,เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยราชบริวารเป็นอันมาก ไปเฝ้าพระศาสดา 10,0020,004,ถึงลัฏฐิวัน. พระศาสดา ทอดพระเนตรเห็นอาการของพวกราชบริวาร 10,0020,005,เหล่านั้นต่าง ๆ กัน ยังไม่อ่อนน้อมโดยเรียบร้อย ซึ่งควรจะรับพระ 10,0020,006,ธรรมเทศนาได้ มีพระพุทธประสงค์จะให้พระอุรุเวลกัสสปะ ซึ่งเป็น 10,0020,007,ที่นับถือของชนเหล่านั้น ประกาศความไม่มีแก่นสารแห่งลัทธิเก่า 10,0020,008,ให้เขาทราบ จะได้สิ้นความเคลือบแคลง แล้วตั้งใจฟังพระธรรมเทศนา 10,0020,009,จึงตรัสถามพระอุรุเวลกัสสปะว่า กัสสปะผู้อยู่ในอุรุเวลามานาน ท่าน 10,0020,010,เคยเป็นอาจารย์สั่งสอนหมู่ชฎิลผู้ผอมเพราะกำลังพรต ท่านเห็นเหตุ 10,0020,011,อะไรแล้ว จึงละไฟที่ตนเคยบูชาแล้วตามลัทธิแต่ก่อน เราถาม 10,0020,012,เนื้อความนั้นกะท่าน เหตุไฉนท่านจึงละการบูชาเพลิงของท่านเสีย. 10,0020,013,พระอุรุเวลกัสสปะกราบทูลว่า ยัญทั้งหลายกล่าวสรรเสริญผล คือ รูป 10,0020,014,เสียง และรส เป็นอารมณ์ที่สัตว์ปรารถนา และสตรีทั้งหลาย แสดงว่า 10,0020,015,บุชายัญแล้วก็จะได้ผล คืออารมณ์ที่ปรารถนามีรูปเป็นต้นเหล่านี้ ข้าพ- 10,0020,016,เจ้าได้รู้ว่า ผลคือกามนั้น เป็นมลทินเครื่องเศร้าหมองตกอยู่ในกิเลส 10,0020,017,ยัญทั้งหลายย่อมกล่าวสรรเสริญผลล้วนแต่มลทินอย่างเดียว เหตุนั้น 10,0020,018,ข้าพเจ้า จึงมิได้ยินดีในการเซ่นบูชาเพลิงที่ได้เคยทำมาแล้วแต่ปางก่อน 10,0020,019,พระศาสดา ตรัสถามต่อไปอีกว่า กัสสปะ ก็ใจของท่านไม่ยินดีใน 10,0020,020,อารมณ์เหล่านั้น คือ รูป เสียง และรส ซึ่งเป็นวัตถุกามแล้ว ก็ทีนั้น 10,0020,021,ใจของท่านยินดีแล้วในสิ่งใดเล่า ในเทวโลกหรือในมนุษยโลก ท่าน