Book,Page,LineNumber,Text 10,0048,001,ครั้นฟังแล้วจะพึงเลื่อมใสในธรรม เลื่อมใสแล้วจะพึงทำอาการของ 10,0048,002,ผู้เลื่อมใส ธรรมเทศนาของภิกษุนั้นไม่บริสุทธิ์. ส่วนภิกษุใด แสดง 10,0048,003,ธรรมแก่ผู้อื่นด้วยคิดว่า ธรรมอันพระศาสดากล่าวดีแล้ว ไฉนหนอ 10,0048,004,เขาจะพึงฟังธรรมของเรา ครั้นฟังแล้วจะพึงรู้ธรรมนั้น ครั้นรู้แล้ว 10,0048,005,จะพึงปฏิบัติเพื่อความเป็นอย่างนั้น ภิกษุนั้น อาศัยความที่แห่งธรรม 10,0048,006,เป็นธรรมอันดี อาศัยกรุณาและเอ็นดูแสดงธรรมแก่ผู้อื่น ธรรมเทศนา 10,0048,007,ของภิกษุนั้นบริสุทธิ์แล้ว กัสสปะก็เหมือนอย่างนั้น. เราสอนท่าน 10,0048,008,ทั้งหลาย ยกกัสสปะขึ้นเป็นตัวอย่าง ท่านทั้งหลายอันเราสอนแล้ว จง 10,0048,009,ปฏิบัติเพื่อเป็นอย่างนั้น. ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ใดผู้หนึ่ง เข้าไปใกล้ 10,0048,010,สกุลด้วยคิดว่า ขอเขาจงให้แก่เราผู้เดียวเถิด อย่าให้ผู้อื่นเลย จง 10,0048,011,ให้แก่เรามาก อย่าให้น้อย จงให้แต่ของที่ดี อย่าให้ของที่เลว จงให้ 10,0048,012,โดยเร็ว อย่าช้า จงให้โดยเคารพ เมื่อคิดอย่านั้น ครั้นเขาไม่ให้ 10,0048,013,ก็ดี ให้น้อย ไม่ให้มากก็ดี ให้ของที่เลว ไม่ให้ของที่ดีก็ดี ให้ช้า 10,0048,014,ไม่ให้โดยเร็วก็ดี ให้โดยไม่เคารพ ไม่ให้โดยเคารพก็ดี ภิกษุนั้นก็ 10,0048,015,ขัดใจ ได้เสวยทุกขโทมนัส มีข้อนั้นเป็นเหตุ ภิกษุเช่นนี้ ไม่ควร 10,0048,016,เพื่อจะเป็นผู้เข้าไปสู่สกุล. ส่วนภิกษุใด ไม่คิดอย่างนั้น แม้เขาจะ 10,0048,017,ไม่ให้ก็ดี หรือให้โดยอาการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดี เธอก็ไม่ขัดใจ 10,0048,018,ไม่เสวยทุกขโทมนัส มีข้อนั้นเป็นเหตุ ภิกษุเช่นนี้ ควรจะเป็นผู้เข้า 10,0048,019,ไปสู่สกุล กัสสปะก็เป็นเหมือนอย่างนั้น. เราสอนท่านทั้งหลาย ยก 10,0048,020,กัสสปะขึ้นเป็นตัวอย่าง ท่านทั้งหลายอันเราสั่งสอนแล้ว พึงปฏิบัติ 10,0048,021,เพื่อเป็นอย่างนั้นเถิด.