Book,Page,LineNumber,Text 10,0049,001,พระมหากัสสปะนั้น โดยปกติถือธุดงค์ ๓ อย่าง คือ ถือทรงผ้า 10,0049,002,บังสุกุลจีวรเป็นวัตร ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ถืออยู่ป่าเป็นวัตร 10,0049,003,พระศาสดาทรงยกย่องว่า เป็นเยี่ยมแห่งภิกษุผู้ทรงธุดงค์. ครั้งหนึ่ง 10,0049,004,ท่านเข้าไปเฝ้าพระศาสดาที่เวฬุวัน พระศาสดาตรัสแก่ท่านว่า กัสสปะ 10,0049,005,เดี๋ยวนี้ท่านแก่แล้ว ผ้าป่านบังสุกุลจีวรที่เขาไม่นุ่งห่มของท่านนี้หนัก 10,0049,006,นัก ท่านจงทรงจีวรที่คฤหบดีถวายเถิด จงฉันโภชนะในที่นิมนต์เถิด 10,0049,007,และจงอยู่ในที่ใกล้เราเถิด. ท่านทูลว่า ข้าพระเจ้าเคยอยู่ในป่า เที่ยว 10,0049,008,บิณฑบาต ทรงผ้าบังสุกุลจีวร ใช้แต่ผ้า ๓ ผืน มีความปรารถนาน้อย 10,0049,009,สันโดษ ชอบเงียบสงัด ไม่ชอบระคนด้วยหมู่ ปรารภความเพียรและ 10,0049,010,พูดสรรเสริญคุณเช่นนั้นมานานแล้ว. พระศาสดาตรัสถามว่า กัสสปะ 10,0049,011,ท่านเห็นอำนาจประโยชน์อะไร จึงประพฤติตนเช่นนั้น และสรรเสริญ 10,0049,012,ความเป็นเช่นนั้น ? ท่านทูลว่า ข้าพระเจ้าเห็นอำนาจประโยชน์ 10,0049,013,๒ อย่าง คือการอยู่เป็นสุขในบัดนี้ของตนด้วย อนุเคราะห์ประชุมชน 10,0049,014,ในภายหลังด้วย ประชุมชนในภายหลังทราบว่า สาวกของพระพุทธ- 10,0049,015,เจ้า ท่านประพฤติตนอย่างนั้น จักถึงทิฏฐานุคติ ปฏิบัติตามที่ตน 10,0049,016,ได้เห็นได้ยิน ความปฏิบัตินั้น จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และสุขแก่เขา 10,0049,017,สิ้นกาลนาน. พระศาสดาประทานสาธุการว่า ดีละ ดีละ กัสสปะ ท่าน 10,0049,018,ปฏิบัติเพื่อประโยชน์และสุขแก่ชนเป็นอันมาก ท่านจงทรงผ้าบังสุกุล 10,0049,019,จีวรของท่านเถิด ท่านจงเที่ยวบิณฑบาตเถิด ท่านจงอยู่ป่าเถิด. 10,0049,020,ด้วยความมักน้อยสันโดษ และปฏิบัติเคร่งครัดอย่างนี้ พระมหา- 10,0049,021,กัสสปะ ย่อมเป็นที่นับถือของสกุลทั้งหลาย มีคำกล่าวว่า ในกรุง