Book,Page,LineNumber,Text 11,0018,001,เพลินในอารมณ์ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งความหลง ดุจเป็นทางที่มาแห่งธุลี 11,0018,002,บรรพชาคือความเว้นจากกิจการของคนมีเหย้าเรือน ประพฤติตนเป็น 11,0018,003,นักบวชเป็นช่องว่างพอที่จะแสวงหาอุบายนั้นได้ พระราชกุมารทรง 11,0018,004,พระดำริอย่างนี้แล้ว ก็มีพระอัธยาศัยน้อมไปในบรรพชา ไม่ยินดีใน 11,0018,005,ฆราวาสสมบัติ ตั้งแต่นั้นมา ภายหลังพอได้ช่อง พระองค์ก็ปลง 11,0018,006,พระเกศและพระมัสสุ ทรงผ้ากาสาวพัสตร์อธิษฐานเพศผนวชเป็น 11,0018,007,บรรพชิต เว้นจากกิจของผู้อยู่ครองเรือน. 11,0018,008,ก็เพศบรรพชานั้น มิใช่ว่าจะมีในพระพุทธศาสนาอย่างเดียว 11,0018,009,แม้เมื่อพระพุทธศาสนายังไม่เกิด ก็มีบรรพชิต คือ นักบวชเช่นฤษีดาบส 11,0018,010,เป็นตัวอย่าง เดิมทีชะรอยพระราชกุมาร จะน้อมพระอัธยาศัยใน 11,0018,011,เพศบรรพชาเช่นนั้นก่อน ภายหลังจึงได้ทรงบัญญัติเพศบรรพชาอัน 11,0018,012,สมควรแก่พระพุทธศาสดา ส่วนช่องที่จะเสด็จออกบรรพชานั้น 11,0018,013,ข้าพเจ้ายังไม่ได้วินิจฉัยที่พอใจ ท่านผู้แต่งบาลีแสดงว่า เสด็จออก 11,0018,014,บรรพชาโดยซึ่งหน้า โดยความเป็นพุทธภาษิตว่า ครั้นสมัยอื่น เรา 11,0018,015,ยังกำลังเป็นหนุ่ม มีผมอันดำสนิท มาตามพร้อมด้วยเยาว์อันเจริญ 11,0018,016,มีวัยที่แรก เมื่อบิดามารดาไม่ใคร่ยอม มีหน้าชุ่มด้วยน้ำตามร้องไห้ 11,0018,017,อยู่ เราปลงผมและหนวดแล้ว นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ถึงความ 11,0018,018,ปฏิบัติของคนไม่มีเรือน จากเรือน ดังนี้ ฝ่ายว่าท่านผู้แต่งอรรถกถา 11,0018,019,แสดงว่า เสด็จหนีออกบรรพชาในเวลากลางคืน เมื่อเสด็จออกนั้น 11,0018,020,ทรงม้ากัณฐกะ มีนาฉันนะตามเสด็จถึงฝั่งแม่น้ำอโนมา ตรัสสั่ง 11,0018,021,ให้นายฉันนะนำม้าพระที่นั่งกลับคืนพระนครแล้ว ทรงตัดพระเมาลี