Book,Page,LineNumber,Text 11,0021,001,ความต้องการด้วยความเพียรได้ จึงเสด็จประทับอยู่ ณ ที่นั้น. 11,0021,002,ครั้งนั้น อุปมา ๓ ข้อ ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่เคยได้ทรงสดับ 11,0021,003,มาปรากฏแจ่มแจ้งแก่พระองค์ว่า สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่า 11,0021,004,หนึ่ง ซึ่งมีกายไม่ได้หลีกออกจากกาม และมีความพอใจรักใคร่ใน 11,0021,005,กาม ยังละให้สงบระงับด้วยดีในภายในไม่ได้แล้ว สมณะหรือพราหมณ์ 11,0021,006,เหล่านั้น แม้ได้เสวยทุกขเวทนาอันกล้าแสบเผ็ดที่เกิดเพราะความเพียร 11,0021,007,ก็ดี ไม่ได้เสวยก็ดี ก็ไม่ควรจะตรัสรู้อุบายนั้นได้ เหมือนไม้สดที่ 11,0021,008,ชุ่มด้วยยางบุคคลแช่ไว้ในน้ำ บุรุษมีความต้องการด้วยไฟ มาถือ 11,0021,009,เอาไม้สำหรับสีไฟเข้าด้วยหวังจะให้เกิดไฟ บุรุษนั้นไม่อาจให้ไฟ 11,0021,010,เกิดขึ้นได้ ต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากเปล่า เพราะไม้นั้นยังสดมียางอยู่ 11,0021,011,ทั้งบุคคลตั้งไว้ในน้ำฉะนั้น อีกข้อหนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด 11,0021,012,เหล่าหนึ่ง แม้มีกายหลีกออกจากกามแล้ว แต่ยังมีความพอใจ 11,0021,013,รักใคร่ในกาม ยังละให้สงบระงับด้วยดีในภายในไม่ได้ สมณะหรือ 11,0021,014,พราหมณ์เหล่านั้น แม้ได้เสวยทุกขเวทนาเช่นนั้นที่เกิดเพราะความ 11,0021,015,เพียรก็ดี ไม่ได้เสวยก็ดี ก็ไม่ควรจะตรัสรู้อุบายนั้นได้ เหมือนไม้ 11,0021,016,สดที่ชุ่มด้วยยาง แม้ห่างไกลจากน้ำ บุคคลตั้งไว้บนบก บุรุษก็ไม่ 11,0021,017,อาจจะสีให้เกิดไฟได้ ถ้าสีเข้าก็ต้องเหน็ดเหนื่อยลำบากเปล่า เพราะ 11,0021,018,ไม้นั้น แม้ตั้งอยู่บนบกแล้ว ก็ยังเป็นของสดชุ่มด้วยยางฉะนั้น อีก 11,0021,019,ข้อหนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ซึ่งมีกายหลีกออก 11,0021,020,จากกามแล้ว และละความพอใจรักใคร่ในกามได้ด้วยดีในภายใน 11,0021,021,แล้ว สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น ได้เสวยทุกขเวทนาเช่นนั้นที่