Book,Page,LineNumber,Text 11,0023,001,ทรงอดพระอาหารผ่อนเสวยแต่วันละน้อย ๆ จนพระกายเหี่ยวแห้ง 11,0023,002,พระฉวีเศร้าหมอง พระอัฐิปรากฏทั่วพระกาย เมื่อทรงลูบพระกาย 11,0023,003,เส้นพระโลมามีรากอันเน่าหลุดร่วมจากขุมพระโลมา พระกำลังน้อย 11,0023,004,ถอยลง จะเสด็จไปทางไหนก็ชวนล้ม จนชนทั้งหลายได้เห็นแล้ว 11,0023,005,กล่าวทักว่า พระสมณโคดมดำไป บางพวกกล่าว่าไม่ดำเป็นแต่ 11,0023,006,คล้ำไป บางพวกกล่าวว่าไม่เป็นอย่างนั้น เป็นแต่พร้อยไป พระผู้มี 11,0023,007,พระภาคเจ้าทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา นับแต่การทรงผนวชมาได้ ๖ ปี 11,0023,008,ทรงพระดำริว่า สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ได้เสวย 11,0023,009,ทุกขเวทนาอันกล้าแสบเผ็ดที่เกิดเพราะความเพียร ในกาลล่วงแล้วก็ดี 11,0023,010,จักได้เสวยในกาลข้างหน้าก็ดี เสวยอยู่ในกาลบัดนี้ก็ดี ทุกขเวทนา 11,0023,011,นั้นก็อย่างยิ่งเพียงเท่านี้ ไม่เกิดกว่านี้ขึ้นไป ถึงอย่างนั้น เราก็ไม่ 11,0023,012,สามารถจะตรัสรู้ด้วยทุกรกิริยาที่เผ็ดร้อนอันนี้ได้ ชะรอยทางความตรัสรู้ 11,0023,013,อย่างอื่นจะพึงมีอยู่กระมัง ครั้นทรงพระดำริฉะนี้แล้ว คิดจะทรง 11,0023,014,ละความเพียรทรมานพระกายให้ลำบากนั้น ทำความเพียรเป็นไปใน 11,0023,015,จิตต่อไป ทรงเห็นว่าความเพียรเป็นไปในจิตนั้น คนซุบผอมเช่นนี้ 11,0023,016,ไม่สามารถให้เป็นไปได้ จำเราจะกินอาหารหยาบคือข้าวสุกขนม 11,0023,017,กุมมาสให้มีกำลัง ครั้นทรงอธิษฐานอย่างนั้นแล้ว ตั้งแต่กาลนั้นมา 11,0023,018,ก็เสวยพระอาหารหยาบไม่ทรงอดต่อไปอีก. 11,0023,019,ฝ่ายฤษีปัญจวัคคีย์พวก ๕ คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ 11,0023,020,มหานามะ อัสสชิ แต่เดิมเป็นพราหมณ์ ได้เห็นบ้าง ได้ยินบ้าง ว่า 11,0023,021,พระผู้มีพระภาคเจ้า มีพระลักษณะต้องตามตำรับมหาบุรุษลักษณะ-