Book,Page,LineNumber,Text 13,0046,001,หรือแม้ในพระเถระอันเป็นผู้ใหญ่เหนือตน สัทธิวิหาริกจะได้ถือเอา 13,0046,002,เป็นทิฏฐานุคติ และทำตามอย่างบ้าง ควรประพฤติไม่ให้เป็นเหตุ 13,0046,003,กีดขวางของสัทธิวิหาริก แสดงให้เธอรู้สึกว่า เธอได้ประโยชน์เพราะ 13,0046,004,พึ่งพานักตน เธอจะได้หวังดีต่อ. เมื่ออุปัชฌายะทำดีเช่นนี้แล้ว 13,0046,005,สัทธิวิหาริกยังประกอบด้วยองค์เป็นโทษ อุปัชฌายะต้องประณาม 13,0046,006,ถ้าทำอ่อนแอเพราะรัก หรือเพราะเกรงใจ หรือเพราะเหตุอย่างอื่น 13,0046,007,เป็นเสียอยู่กับอุปัชฌายะ. ประณามนั้น พึงทำอย่างนี้: พึงพูดให้ 13,0046,008,"รู้ว่าตนไล่เธอเสีย ท่านวางอย่างไว้ในบาลีว่า "" เราประณามเธอ """ 13,0046,009,""" อย่าเข้ามา ณ ที่นี้ "" "" จงขนบาตรจีวรของเธอออกไปเสีย "" หรือ" 13,0046,010,""" เธอไม่ต้องอุปัฏฐากข้าดอก "" หรือแสดงอาการกายให้รู้อย่างนั้น" 13,0046,011,"ก็ได้, สัทธิวิหาริกผู้ถูกประณามแล้ว ต้องทำดีแก้ตัวแล้วขอให้" 13,0046,012,อุปัชฌายะอดโทษ ถ้าทอดธุระเสีย เป็นโทษแก่สัทธิวิหาริก. สัทธิ- 13,0046,013,วิหาริกกลับทำดีแล้วและขอขมาโทษ อุปัชฌายะไม่รับและไม่ระงับ 13,0046,014,ประณาม ก็มีโทษแก่อุปัชฌายะเหมือนกัน เว้นแต่สัทธิวิหาริก 13,0046,015,ยังไม่ได้แก้ตัวจากเหตุที่ให้ถูกประณาม หรือเห็นว่ารับง่ายนักจักไม่ 13,0046,016,เข็ดหลาบ ยังผูกใจว่าจักรับ ไม่มีโทษ. อีกฝ่ายหนึ่ง สัทธิวิหาริก 13,0046,017,ประกอบด้วยองค์อันเป็นคุณ แต่อุปัชฌายะฉุนโกรธ หรือเป็นผู้ไม่ 13,0046,018,จู้จักอะไร ประณามผิดไป ก็มีโทษแก่อุปัชฌายะเอง. 13,0046,019,ภิกษุผู้ไม่ได้อยู่ในปกครองของอุปัชฌายะ ด้วยเหตุ ๕ ประการ 13,0046,020,อันกล่าวแล้ว ต้องถือภิกษุอื่นเป็นอาจารย์ และอาศัยท่านแทน 13,0046,021,อุปัชฌายะ. วิธีถืออาจารย์ก็เหมือนกับวิธีถืออุปัชฌายะ ต่างแต่