Book,Page,LineNumber,Text
14,0019,001,คนผู้ตื่นขึ้นแล้ว ย่อมไม่เห็นอารมณ์อันประจวบด้วยความฝัน
14,0019,002,ฉันใด ชนผู้อยู่ย่อมไม่เห็นชนผู้อันตนรักล่วงไปแล้ว ฉันนั้น.
14,0019,003,๕. ด้วยความเป็นสภาวธรรมเป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็น
14,0019,004,ลักษณะรวบยอดแห่งอาการทั้ง ๔ ดังแสดงในบาลีพุทธอุทานว่า
14,0019,005,ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา
14,0019,006,อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส
14,0019,007,อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา
14,0019,008,ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺมํ
14,0019,009,... ... ...
14,0019,010,ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวทิ.๑
14,0019,011,ในกาลใดแล ธรรมทั้งหลาย ย่อมปรากฏแก่พราหมณ์ผู้เพียง
14,0019,012,เพ่งพิจารณา ในกาลนั้น ความสงสัยทั้งปวงของพราหมณ์นั้น ย่อม
14,0019,013,สิ้นไป เพราะมารู้ธรรมเป็นไปกับเหตุ และเพราะมารู้ความสิ้นแห่ง
14,0019,014,ปัจจัย.
14,0019,015,นี้เป็นอนัตตลักขณะ เครื่องหมายของความเป็นอนัตตาแห่ง
14,0019,016,สังขาร. ข้อว่าเป็นอนัตตานั้น เพ่งความตามพยัญชนะ ดูเหมือน
14,0019,017,เป็นมติค้านอัตตาของลัทธิพราหมณ์. ลัทธิพราหมณ์และลัทธิอื่นที่เชื่อ
14,0019,018,ความเวียนเกิด ย่อมถือว่าในรูปกายนี้มีอัตตาสิงอยู่ เป็นผู้คิด เป็นผู้
14,0019,019,เสวยเวทนา และสำเร็จอาการอย่างอื่นอีก เหมือนคนอยู่ในเรือน
14,0019,020,เป็นสิ่งอันยั่งยืนไม่ดับ เมื่อถึงคราวมรณะ อัตตาจุติจากสรีระนี้ไป