Book,Page,LineNumber,Text 16,0003,001,เดิม รับอาบัติอันภิกษุแสดงในสงฆ์ ประกาศเลื่อนปวารณาออกไป 16,0003,002,และกัมมลักขณะ อันท่านแสดงตัวอย่าง คือประกาศเริ่มต้นระงับ 16,0003,003,อธิกรณ์ด้วยติณวัตถารกวินัย. 16,0003,004,กรรมอันทำด้วยตั้งญัตติแล้วสวดอนุสาวนาหนเดียว เรียก 16,0003,005,ญัตติทุติยกัมม์ แปลว่ากรรมมีวาจาครบ ๒ ทั้งญัตติ มี ๗ สถาน คือ 16,0003,006,นิสสารณา โอสารณา ท่านแสดงตัวอย่าง คือ ประกาศประณาม 16,0003,007,วัฑฒลิจฉวีผู้ประพฤติให้ร้ายแก่พระศาสนา เรียกว่า คว่ำบาตร 16,0003,008,และประกาศระงับประณามวัฑฒลิจฉวีนั้น ผู้รู้สึกโทษตนแล้วกลับ 16,0003,009,"ประพฤติเรียบร้อย เ รียกว่า หงายบาตร, สมมติต่างเรื่อง มีสมมติ" 16,0003,010,สีมาและสมมติภิกษุเป็นเจ้าหน้าที่ทำการสงฆ์ เป็นต้น ให้ต่างอย่าง 16,0003,011,คือ ให้ผ้ากฐินและให้จีวรของภิกษุสามเณรผู้มรณะแก่คิลานุปัฏฐาก 16,0003,012,ประกาศถอนหรือเลิกอานิสงส์กฐินเป็นต้น แสดงที่สร้างกุฎีให้แก่ภิกษุ 16,0003,013,กับกัมมลักขณะ ที่ท่านว่า ได้แก่ญัตติทุติยกัมม์ที่สวดในลำดับไป 16,0003,014,ในการระงับอธิกรณ์ด้วยติณวัตถารกวินัย. 16,0003,015,กรรมอันทำด้วยตั้งญัตติแล้วสวดอนุสาวนา ๓ หน เรียกว่า 16,0003,016,ญัตติจตุตถกัมม์ แปลว่ากรรมมีวาจาครบ ๔ ญัตติ มี ๗ สถาน 16,0003,017,คือ นิสสารณา โอสารณา ท่านกล่าวว่าได้แก่สงฆ์ทำกรรม ๗ สถาน 16,0003,018,มีตัชชนียกัมม์เป็นต้น ลงโทษภิกษุผู้ประพฤติมิชอบ และยกโทษ 16,0003,019,ภิกษุนั้นผู้กลับประพฤติชอบ. สมมติ ได้แก่ สมมติภิกษุเป็นผู้ให้