Book,Page,LineNumber,Text 16,0013,001,มีจำกัดที่สุดทั้งข้างเล็กทั้งข้างใหญ่ไว้ ห้ามไม่ให้สมมติสีมาเล็กเกินไป 16,0013,002,จนจุภิกษุ ๒๑ รูปนั่งได้หัตถบาสกันไม่ได้ และห้ามไม่ให้สมมติสีมา 16,0013,003,ใหญ่เกินไปกว่า ๓ โยชน์ สีมาเล็กเกินไปใหญ่เกินไปอย่างนี้ เป็น 16,0013,004,สีมาวิบัติ ใช้ไม่ได้. 16,0013,005,เหตุไฉน จึงทรงห้ามสีมาเล็กเกินไปจนจุภิกษุ ๒๑ รูปไม่ได้ 16,0013,006,พอเข้าใจ เพราะสังฆกรรมที่ต้องการสงฆ์มีจำนวนมากที่สุด ๒๐ รูป 16,0013,007,และกรรมนี้คืออัพภาน สวดระงับอาบัติสังฆาทิเสสของภิกษุ นับทั้ง 16,0013,008,ภิกษุนั้นด้วยเป็น ๒๑ รูป สีมาเล็กเกินไป ไม่พอจะทำอัพภานได้. 16,0013,009,เหตุไฉน จึงทรงห้ามสีมาใหญ่เกินไปกว่า ๓ โยชน์ เข้าใจว่า 16,0013,010,เพราะเหลือระวังไม่ผิด แต่ถ้าตั้งปัญหาว่า เหตุไฉนสงฆ์จึงต้องการ 16,0013,011,กำหนดเขตสีมากว้างใหญ่เห็นปานนี้ เป็นปัญหาที่สันนิษฐานยาก 16,0013,012,น่าจะเห็นว่าสงฆ์ย่อมได้ประโยชน์คุ้มกับค่าจะต้องบริหาร ประโยชน์ 16,0013,013,ที่จะได้นั้นอย่างไร ที่กระจ่างอยู่ ได้ขยายเขตไม่อยู่ปราศไตรจีวร 16,0013,014,ได้กว้างออกไป แต่เห็นว่ายังไม่คุ้ม ถ้าเป็นทางจะได้ขยายเขต 16,0013,015,นิสัยออกไปค่อยยังชั่ว เช่นในบัดนี้ เขตนิสัยมีจำกัดเพียงวัดหนึ่ง ๆ 16,0013,016,พระผู้ให้นิสัยได้ก็หายาก ต้องอยู่กระจายกันไป ต่างว่าวัดเหล่านี้อยู่ใน 16,0013,017,สีมาอันเดียวกัน และเขตนิสัยขยายออกไปได้ตามกัน คงค่อยสะดวกเข้า 16,0013,018,แต่ ๓ โยชน์ก็ยังกว้างใหญ่เกินเขตนิสัยจะแผ่ไป ถ้าเป็นที่จับจองต่อ 16,0013,019,บ้านเมือง ได้ถือกรรมสิทธิ์ในของอันเกิด ณ พื้น เช่นเขาขออนุญาต 16,0013,020,ผูกป่าไม้หรือทำเหมืองแร่ในบัดนี้ พอเห็นสม แต่ในครั้งพุทธกาล 16,0013,021,คงไม่มุ่งเช่นนั้น หากเป็นได้ คงเป็นกำหนดตั้งขึ้นภายหลัง ขอ