Book,Page,LineNumber,Text 17,0031,001,ในศกที่ ๑๒๑ 17,0031,002,พระคุณพิเศษ ส่วนอัตตสมบัติ จะถวายวิสัชนาด้วยสัทธาสัมปทา 17,0031,003,และสามัตถิยะ ส่วนปรหิตปฏิบัติ จะถวายวิสัชนาด้วยรัฏฐาภิปาลโนบาย 17,0031,004,พอเป็นนิทัสสนนัย. 17,0031,005,สัทธาสัมปทานั้น คือความเชื่อประกอบด้วยเหตุผลในสิ่งที่ควร 17,0031,006,เชื่อ ชื่อว่าศรัทธา มีวิภาคตามวัตถุเป็นที่ตั้งแห่งความเชื่อเป็น ๔ 17,0031,007,ประการ คือ กัมมสัทธา เชื่อกรรม ๑ วิปากสัทธา เชื่อผลแห่งกรรม ๑ 17,0031,008,กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อความที่สัตว์มีกรรมเป็นของตน ๑ ตถาคต- 17,0031,009,โพธิสัทธา เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตเจ้า ๑ สิ่งที่สัตว์ 17,0031,010,ทำด้วยกาย วาจา ใจ พร้อมด้วยเจตนา ชื่อว่ากรรม จำแนกโดย 17,0031,011,ประเภท วาจา ใจ พร้อมด้วยเจตนา ชื่อว่ากรรม จำแนกโดย 17,0031,012,ประเภท ส่วนดีมีมูลมาแต่อโลภะ อโทสะ อโมหะ เป็นกุศลกรรม 17,0031,013,ส่วนชั่วมีมูลมาแต่โลภะ โทสะ โมหะ เป็นอกุศลกรรม กรรม ๒ 17,0031,014,ประเภทนี้เมื่อความประชุมปัจจัยมีและได้ช่องเมื่อใด ก็ย่อมให้ผลเมื่อนั้น 17,0031,015,กุศลกรรมย่อมให้ผลเป็นที่ปรารถนารักใคร่พึงใจ เป็นไปตามมูลเหตุ 17,0031,016,ความหยั่งรู้กรรมคาดหน้าว่าเป็นมูลเหตุให้ผลแก่ผู้ทำเช่นนั้น ๆ อนุวัตร 17,0031,017,ตามมูลเหตุแล้วและเชื่อลง เหมือนแพทย์ผู้หยั่งรู้สมุฏฐานก้าวหน้าว่า 17,0031,018,จะให้เกิดความรำคาญหรือเกิดโรคแก่ร่างกาย แล้วประกอบอุบายชักนำ 17,0031,019,หรือบำบัดเสีย นี้ชื่อว่ากัมมสัทธา เชื่อกรรม. ผลสุกวิเศษเกิดแต่กรรม