Book,Page,LineNumber,Text
18,0015,001,วันเมื่อเจ็บหนักได้เรียกเศรษฐีผู้บิดาว่าน้องชาย เศรษฐีหมายว่าเพ้อ
18,0015,002,ไม่มีสติ ครั้นทำกาลกิริยาแล้ว จึงร้องไห้ไปเฝ้าพระศาสดา ทูล
18,0015,003,ความเสียใจ ในการที่ธิดาของตนทำกาลกิริยาโดยมิได้สติ เพ้อเรียก
18,0015,004,ตนว่าน้องชาย พระศาสดาตรัสบอกว่าไม่ใช่เพ้อ เรียกตามมรรคผล
18,0015,005,ท่านเป็นพระโสดาบัน นางสุมนเทวีเป็นสกทาคามี เศรษฐีทูลถามว่า
18,0015,006,บัดนี้นางไปเกิดที่ไหน พระองค์จึงทรงแสดงว่าไปเกิดในดุสิตเทวโลก
18,0015,007,แล้วจึงตรัสพระคาถานี้
18,0015,008,อิธ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทติ ผู้มีบุญอันทำแล้ว ย่อมบันเทิง
18,0015,009,"กตปุญฺโ อุภยตฺถ นนฺทติ, ในโลกทั้งสอง คือ บันเทิงอยู่ใน"
18,0015,010,"โลกนี้ ละไปแล้ว ย่อมบันเทิง,"
18,0015,011,"ปุญฺญํ เม กตนฺติ นนฺทติ, ( ในโลกนี้ ) บันเทิงอยู่ด้วยคิดว่า"
18,0015,012,"บุญอันเราทำไว้แล้ว,"
18,0015,013,ภิยฺโย นนฺทติ สุคตึ คโต. ไปสุคติแล้ว จะบันเทิงยิ่งขึ้น.
18,0015,014,๑๔. เรื่องสหายกภิกขุ
18,0015,015,พระบรมศาสดา ทรงปรารภภิกษุผู้สหายกันสองรูป รูปหนึ่ง
18,0015,016,เรียนวิปัสสนาธุระ กระทำความเพียรจนได้สำเร็จพระอรหันต์ รูปหนึ่ง
18,0015,017,เรียนคันถธุระเชี่ยวชาญในพระไตรปิฎก มีศิษย์หามาก ดูถูกพระภิกษุ
18,0015,018,ฝ่ายวิปัสสนาธุระว่าโง่ไม่รู้อะไร จะใคร่ไล่ปัญหาท่าน ครั้นเวลา
18,0015,019,ประชุมพร้อมกัน พระศาสดาเสด็จมาทรงถามปัญหาเสียเอง ภิกษุ