Book,Page,LineNumber,Text 19,0032,001,เสียได้. 19,0032,002,อรูป ๔ นั้น คืออากาสานัญจายตนะ เพ่งอากาศที่มีดวงกสิณ 19,0032,003,เดาะเพิกขึ้นแล้วเหลืออยู่แต่อากาศเปล่า ด้วยบริกรรมนึกว่า อากาศ 19,0032,004,มีไม่มีที่สุด ดังนี้ เป็นอารมณ์เป็นบ่อเกิด ๑ คือวิญญาญัญจายตนะ 19,0032,005,เพ่งอรูปวิญญาณที่แรก บริกรรมนึกว่าวิญญาณไม่มีที่สุด ดังนี้ 19,0032,006,เป็นอารมณ์เป็นบ่อเกิด ๑ คืออากิญจัญญายตนะ เพ่งความไม่มีของ 19,0032,007,อรูปวิญญาณที่แรกด้วยบริกรรมนึกว่า หน่อยหนึ่งนิดหนึ่งไม่มี ดังนี้ 19,0032,008,เป็นอารมณ์เป็นบ่อเกิด ๑ คือเนวสัญญานาสัญญายตนะ เพ่งอรูป- 19,0032,009,วิญญาณที่ ๓ ด้วยบริกรรมนึกว่า นี่ละเอียดนัก ที่ประณีตนัก จะว่ามี 19,0032,010,สัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ ดังนี้เป็นอารมณ์เป็นบ่อเกิด ๑ 19,0032,011,รวมเป็นอรูป ๔ ฉะนี้. 19,0032,012,กุลบุตรผู้มีศรัทธาปรารถนาจะเจริญสมถภาวนานี้ เมื่อนึกถึง 19,0032,013,ธรรม ๗ หมวดแจกออกเป็น ๔๐ ประการเล่านี้ให้เป็นอารมณ์แล้วจะ 19,0032,014,ต้องศึกษาในธรรม ๗ หมวด แจกออกเป็น ๔๐ ประการเหล่านั้น ให้รู้ 19,0032,015,ให้เข้าใจจำได้แม่นยำชำนาญ ครั้นศึกษารู้เข้าใจจำได้แม่นยำชำนาญ 19,0032,016,แล้ว กัมมัฏฐานบทใดเป็นที่ชอบอัธยาศัยควรแก่จิตของตน ก็พึงเพ่ง 19,0032,017,นึกกัมมัฏฐานบทนั้นเป็นอารมณ์เถิด. 19,0032,018,แท้จริง จริตของคนในโลกนี้มีอยู่ ๖ ประการ คือราคจริต 19,0032,019,ประพฤติไปตามราคะ ๑ คือโทสจริต ประพฤติไปตามโทสะ ๑ คือ 19,0032,020,โมหจริต ประพฤติไปตามโมหะ ๑ คือสัทธาจริต ประพฤติไปตาม 19,0032,021,ความเชื่อ ๑ คือพุทธิจริต ประพฤติไปตามความรู้จริง ๑ คือวิตกจริต